ถกนัดแรกไร้ข้อสรุป ปมขัดแย้งปตท.วางท่อก๊าซผ่ากลางพื้นที่อภัยภูเบศร
รองผู้ว่าฯ ปราจีนบุรี นั่งปธ.คณะทำงานฯ ถกนัดแรก หวังลดความขัดแย้งในพื้นที่ หลังปตท.วางท่อก๊าซ ผ่ากลางพื้นที่ มูลนิธิรพ.อภัยภูเบศร อึ้งโคลนเทียมผุดทะลักสวนสมุนไพร ด้าน ผจก.ฝ่ายสนับสนุนโครงการ ปตท. ยันยอมเลี่ยงเส้นทาง หากไม่ติดขัดสัญญา โบ้ยทุกอย่างถูกกำหนดจาก กกพ.
สืบเนื่องจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ดำเนินการก่อสร้างวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ โครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ เส้นที่ 4 (ระยอง-แก่งคอย) ผ่านเข้ามาบริเวณสวนสมุนไพรของมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ต.เนินหอม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ทำให้เกิดโคลนเทียมจากการขุดเจาะผุดขึ้นจากพื้นดินเอ่อท่วมบริเวณดังกล่าวสูงประมาณ 5 นิ้ว ประมาณ 2 ไร่ สร้างความเสียหายต่อแปลงเพาะปลูกสมุนไพรหายากกว่า 80 ชนิดนั้น
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 น.ส.จิตรา พรหมชุติมา ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้ลงนามในคำสั่งจังหวัดปราจีนบุรี ที่ 295/2558 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติฯ เพื่อกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาพื้นที่ขัดแย้ง ตรวจสอบข้อเท็จจริง และมีข้อเสนอแนะเป็นประโยชน์ทุกฝ่าย โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี (ด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการ) เป็นประธานคณะทำงาน
ล่าสุด วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 14.00 น. ที่ศูนย์ราชการจังหวัดปราจีนบุรี นายสมฤกษ์ บัวใหญ่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานในการประชุมคณะทำงานฯ มีผู้แทนจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร, สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดปราจีนบุรี, บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม โดยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบคอยติดตามอยู่ด้านนอกห้องประชุม
ภายหลังการหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง นายสมฤกษ์ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ถึงผลการหารือ โดยระบุเพียงสั้นว่า "ขอนำเรียนข้อมูลเสนอต่อผู้ว่าฯ ก่อน จากนั้นจึงจะแถลงข่าวได้ เพราะเป็นแค่รองเจ้าอาวาส จะทำอะไรต้องขออนุญาตจากเจ้าอาวาสก่อน ทั้งนี้ เบื้องต้นยังไม่มีข้อสรุปในแนวทางแก้ปัญหาใด ๆ"
ด้านนายปิยศักดิ์ ตันหยงมาศกุล ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนโครงการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า รายละเอียดต้องให้ผู้ว่าฯ แถลงอีกครั้งหนึ่ง มิฉะนั้นอาจเบี่ยงเบนได้
เมื่อถามว่า การวางแนวท่อก๊าซธรรมชาติผ่านมูลนิธิฯ จะสามารถหลีกเลี่ยงได้หรือไม่ นายปิยศักดิ์ กล่าวว่า การเจรจาประเด็นดังกล่าวล่วงเลยมาแล้ว ทุกอย่างถูกกำหนดจาก กกพ. ดังนั้น จะเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับมติของคณะกรรมการ
และเมื่อถามถึงข้อเรียกร้องให้จ่ายชดเชยกับย้ายสถานที่ใหม่ ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนโครงการ ปตท.กล่าวว่า เป็นข้อเสนอของรองผู้ว่าฯ ให้มูลนิธิฯ ย้ายสวนสมุนไพรไปพื้นที่ใหม่ แต่เราให้น้ำหนักในทิศทางใดนั้น คงต้องรับฟังเหตุผล และดูว่ามูลนิธิฯ จะยินยอมหรือไม่ เพราะต้องกลับไปปรึกษาคณะกรรมการก่อน เช่นเดียวกันเราก็ต้องกลับไปปรึกษาด้วย
“การหลีกเลี่ยงเส้นทางวางท่อก๊าซธรรมชาติต้องกลับไปศึกษาข้อกำหนดติดขัดเรื่องผลประโยชน์หรือสัญญาหรือไม่ ทั้งนี้ ปตท.ยินยอมทำให้ เพราะไม่ใช่คนอื่นไกล ตลอดเวลา 30 ปี ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติ ในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานมาโดยตลอด”
นายปิยศักดิ์ ยังกล่าวถึงชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบรายอื่นด้วยว่า ที่ผ่านมาเราพยายามหาทางออกอยู่ เพื่อให้ชาวบ้านอยู่ได้ และ ปตท.อยู่ได้ ไม่กระทบกัน โดยได้มีการให้ข้อมูล เปิดประชาคม และช่วยเหลือเยียวยาแล้ว อีกทั้ง ทุกครั้งที่เดือดร้อนก็พยายามจัดการให้ เพราะ ปตท.คือบริษัทของคนไทย ทำกำไรเพื่อคนไทย กำไรทั้งหมดจัดส่งภาครัฐ มิได้เป็นบริษัทต่างชาติที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ พร้อมยืนยันว่า ดินที่นำมาฝังกลับท่อนั้นไม่เป็นพิษภัยต่อการเพาะปลูก ยกเว้นอาจมีค่าด่างสูง ซึ่งต้องได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ จะเหมาะสมหรือไม่ต้องกลับไปศึกษาส่วนผสมของดิน
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ชาวบ้านที่รอผลการประชุมของคณะทำงานฯ ต่างแสดงความคิดเห็นผิดหวัง เมื่อไม่ได้รับคำตอบถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาจากรองผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี และความไม่จริงใจของ ปตท. ทั้งนี้ ได้มีการนัดประชุม ครั้งที่ 2 ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2558 .
อ่านประกอบ:กสม. เตรียมเชิญ ปตท.แจงปมโคลนเทียมทะลักสวนสมุนไพร รพ.อภัยภูเบศร
เหตุโคลนเทียมผุด อภัยภูเบศรสรุปสมุนไพรเสียหายกว่า 80 ชนิด
คำสั่งจ.ปราจีนฯ แต่งตั้งคณะทำงานแก้ปัญหาท่อก๊าซระยอง-แก่งคอย