สปส.หวั่นกองทุนฯ ติดหล่ม ทำยอดลงทุนวูบ แนะยืดอายุเกษียณเป็น 65 ปี
‘วิน พรหมแพทย์’ เผยแผนลงทุนประกันสังคมปี 58 เน้นสินทรัพย์จับต้องได้ เร่งปรับกลยุทธ์ทำงานรวดเร็วสู้ศึกเอกชน จี้รัฐบาลสางหนี้เงินสมทบประกันสังคม หวังกระตุ้นลงทุนเติบโต ระบุวิธีเลี่ยงกองทุนฯ ล่ม เน้นส่งเสริมการออม ต่ออายุเกษียณเป็น 60-65 ปี
นายวิน พรหมแพทย์ หัวหน้างานลงทุน สำนักบริหารการลงทุน สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดเผยกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงแผนยุทธศาสตร์การลงทุน 5 ปี (ปี 2557-61) ของ สปส.ว่า ขณะนี้อยู่ในช่วงปีที่ 2 ซึ่งเราเน้นการปรับเงินลงทุนให้มีความหลากหลายมากขึ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้เน้นการลงทุนไปกับตราสารหนี้จำนวนมาก ร้อยละ 85
สำหรับสิ่งที่พยายามเพิ่มเติม คือ การลงทุนในหุ้น แต่ถือว่า ยังไม่มีอัตราการเติบโตมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในสินค้าที่จับต้องได้ ประเภทโครงสร้างพื้นฐานผ่านกองทุน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยอสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน มีข้อดี คือ สร้างรายได้คงที่ เกิดค่าตอบแทนสูงถึงร้อยละ 7 ซึ่งมองว่า สปส.มีข้อได้เปรียบ
เมื่อถามถึงข้อกังวลที่อาจเกิดขึ้นกับการลงทุนในปีนี้ โดยเฉพาะต้องแข่งขันกับภาคเอกชน หัวหน้างานลงทุนฯ สปส.กล่าวว่า สปส.เป็นหน่วยงานรัฐแห่งเดียวในไทยต้องทำงานแข่งขันกับภาคเอกชนในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็น การซื้อพันธบัตร การซื้อหุ้น ล้วนต้องแข่งขันกันตลอด ดังนั้น เราจึงพยายามพัฒนาทีมงานให้มีความสามารถ ทำงานให้เร็วและลึกซึ้งเทียบเท่า อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ยังแข่งขันได้ไม่เต็มที่ เพราะหน่วยงานของรัฐมักประสบปัญหาทำงานล่าช้าและขั้นตอนยุ่งยากกว่า เพราะฉะนั้นจึงอยากปรับจุดนี้ให้รวดเร็วขึ้นก่อน
นายวิน กล่าวเพิ่มเติมถึงกรณีกระแสข่าวกองทุนประกันสังคมจะล่ม อาจส่งผลกระทบต่อการลงทุนในอนาคต ส่วนนี้ชี้แจงว่า รัฐบาลชุดก่อนมีปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ เพราะเกิดวิกฤติน้ำท่วม จึงขอจ่ายเงินสมทบล่าช้าไป 2 ปี ซึ่ง สปส.มีหน้าที่กระตุ้นรัฐบาลต้องสร้างวินัยการจ่ายเงินสมทบให้ตรงเวลา โดยรัฐบาลชุดปัจจุบันเริ่มมีความเข้าใจมากขึ้น และน่าจะใช้หนี้เก่าหมดได้
“รัฐบาลต้องสร้างวินัย ตราบใดที่เศรษฐกิจไทยยังไม่ย่ำแย่ ขอให้จ่ายตรงเวลา หากวันหนึ่งเศรษฐกิจไทยย่ำแย่ รัฐบาลขอจ่ายล่าช้าก็ไม่มีใครว่า” หัวหน้างานลงทุนฯ กล่าว และว่ าเงินที่จ่ายสมทบเข้ากองทุนฯ เราก็จะนำมาซื้อพันธบัตร ซึ่งแน่นอนว่า เงินที่จ่ายมาก็จะกลับไปหารัฐบาลเหมือนเดิม ซึ่งได้รับประโยชน์อยู่ดี
สำหรับวิธีป้องกันปัญหาที่อาจกระทบต่อสภาพคล่องของกองทุนฯ ในอนาคต นายวิน กล่าวด้วยว่า ถึงเวลาแล้วที่ สปส.ต้องเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาเหมือนในประเทศอื่นของโลก โดยการปรับโครงสร้างการรับฝาก-จ่ายเงิน ส่งเสริมการออมมากขึ้น เพื่อรองรับภาระในอนาคต จึงต้องยืดเวลาเกษียณ จาก 55 ปี เป็น 60-65 ปี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบการลงทุนให้ดีขึ้น ดอกผลจะเติบโตร้อยละ 1 ต่อเนื่อง 10 ปี และต่ออายุการลงทุนได้ 5-10 ปี ทั้งนี้
"ที่ผ่านมา สปส.พยายามส่งเสียงไปยังผู้กำกับนโยบายระดับรัฐบาล แต่ไม่เกิดผล เพราะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเร็วเกินไป และไม่มีรัฐบาลชุดใดอยากแก้ไขจริงจัง" .