ชัดๆ “วิชา”VS“ปู” วิวาทะโค้งสุดท้าย ก่อนสนช.ลงมติถอดถอนคดีข้าว!
“… “วิชา” สรุปได้ว่า รัฐบาลจำนำข้าว ชาวนาจำนำชีวิต ประเทศจำนำหนี้ ขอถาม สนช. ทุกท่านว่า โครงการนี้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพตรงไหน VS “ยิ่งลักษณ์” อย่าเหมารวมว่าโครงการนี้ผิดทั้งหมด สมควรยกเลิก หรือมีการทุจริตเชิงนโยบาย มิฉะนั้นเราจะชดเชยโอกาสที่ชาวนาเสียไปได้อย่างไร…”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เป็นคำพูดบางส่วนในการแถลงปิดคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ระหว่าง นายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ น.ส.ยิ่งลักษณ์
----
วิชา มหาคุณ
สนช. มีสิทธิถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทุกประการ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ให้ความเป็นธรรมตลอดการไต่สวนของ ป.ป.ช. อย่างเต็มที่ มิได้ละเลย หรือละเว้นประการหนึ่งประการใด ในการไม่ปฏิบัติตามหลักนิติธรรม
ส่วนโครงการรับจำนำข้าวนั้นเป็นนโยบายประชานิยม และมีวาระซ่อนเร้นเพื่อจะสร้างให้เกิดกระบวนการที่เรียกว่าทุจริตเชิงนโยบาย ซึ่งถือว่าเป็นการทุจริตเชิงนโยบายที่ชัดเจนที่สุดเท่าที่ประเทศนี้เคยจับการทุจริตมา
นอกจากนี้ยังมีการทุจริตในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ซึ่งท้ายสุดคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็จับได้ไล่ทันในยุคของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ แต่จะไม่ขอพูดในรายละเอียด
ส่วนที่ไม่พูดในรายละเอียดนั้น เพราะมีผู้ข่มขู่ต่าง ๆ นานา ถ้านำเรื่องขายข้าวจีทูจีมาพูด หรือนำมาแถลงคดีแล้วจะเล่นงานผม อย่างไรก็ดีที่ไม่ได้นำมาแถลงในคราวนี้นั้น ไม่ได้เกรงกลัวต่อการฟ้องร้อง เพราะทำไปด้วยจิตสุจริต กระทำการตามภาระหน้าที่
สุดท้ายอาจกล่าวสรุปได้ว่า “รัฐบาลจำนำข้าว ชาวนาจำนำชีวิต ประเทศจำนำหนี้” ขอถาม สนช. ทุกท่านว่า โครงการนี้คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพตรงไหน
ทั้งนี้กระบวนการถอดถอนเริ่มต้นปักธงให้เห็นว่า ผู้ใดก็ตามมารับผิดชอบในฐานะผู้นำสูงสุดของแผ่นดิน โดยเฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่ต้องบริหารราชการแผ่นดินทุกกระทรวง ทบวง กรม จะต้องมีคุณธรรม จริยธรรม สูงสุดกว่าบุคคลอื่นทั้งหมดทั้งมวล เพื่อได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้ผู้อื่นได้ประพฤติปฏิบัติตาม และแก่ลูกหลานของเรา เพื่อได้ดำรงตนอยู่ในคุณธรรมจริยธรรมต่อไป
“ขอกราบคารวะบุคคลเบื้องหน้าให้ทำประวัติศาสตร์การถอดถอนครั้งนี้ให้เป็นจริง”
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
รัฐบาลจริงใจในการปราบปรามการทุจริต และเรามีกลไกชัดเจน กล่าวคือ เรามีการตั้งอนุกรมการควบคุมติดตามตรวจสอบการดำเนินงานทุกขั้นตอน 12 คณะ มีการกำหนดมาตรการ 13 มาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการปราบปรามการทุจริต มีการตั้งกรรมการตรวจสอบสต็อกข้าวพร้อมกันทั่วประเทศ และมีการตั้งอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการข้าวเป็นครั้งแรก รวมไปถึงมีการแต่งตั้งกรรมการปราบปรามการทุจริตในโครงการับจำนำข้าวอีกด้วย ซึ่งไม่ได้ทำเพื่อแก้ข้อกล่าวหา เนื่องจากมีการจับกุมผู้กระทำผิด และฟ้องคดีได้ถึง 276 คดี
อย่างไรก็ดีสงสัยในสาระสำคัญว่า เหตุใดโครงการจำนำข้าวที่ดำเนินโครงการเป็นคณะบุคคล โดยมีมติคณะรัฐมนตรี และมติกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยตนไม่ได้ดำเนินการลำพังในฐานะนายกฯ หรือ ประธาน กขช. แต่เหตุใดจึงถูกดำเนินคดีโดยลำพังทั้งที่รัฐธรรมนูญ และกฎหมายไม่ได้บัญญัติ
การดำเนินคดีตนโดยลำพังเป็นวาระซ่อนเร้น ไม่เป็นธรรม เป็นวาระทางการเมืองที่เห็นชัดว่า เมื่อมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2557 แล้ว ในวันรุ่งขึ้นในวันที่ 8 พ.ค. 2557 ป.ป.ช. ก็ชี้มูลได้ทันที และวันนี้ฝ่าย ป.ป.ช. ก็มาอ้างความบังเอิญเช่นกันที่มาชี้มูลคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เพื่อชี้นำสังคม และกดดันสภาเพื่อให้เห็นว่ามีพฤติกรรมส่อทุจริต
“ดิฉันไม่เคยคิดโกง ไม่ปล่อยปละละเลย หรือมีพฤติกรรมใด ๆ ที่ส่อไปในทางทุจริต และดิฉันต้องมาที่นี่เพื่อขอความเป็นธรรมต่อสภาแห่งนี้ ไม่ต่อตัวดิฉัน แต่ที่สำคัญยิ่งอยากขอโอกาสให้คนจนได้มีชีวิตที่ดีขึ้นเหมือนคนอื่น ให้ชาวนาลืมตาอ้าปาก ให้ผู้ผลิตอาหารได้หายเหนื่อย”
อย่าเหมารวมว่าโครงการนี้ผิดทั้งหมด สมควรยกเลิก หรือมีการทุจริตเชิงนโยบาย มิฉะนั้นเราจะชดเชยโอกาสที่ชาวนาเสียไปได้อย่างไร อย่างมองเหรียญเพียงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ว่าเรื่องร้ายได้ และโอกาสหายไปชาวนา หรือเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม และการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
“ความขัดแย้งทางการเมือง และการทำลายล้างอย่างไร้หลักการ อย่างที่ดิฉันประสบอยู่ ดิฉันพร้อมพิสูจน์ทำงาน แต่ก็ขอความเป็นธรรม เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าบ้านเมืองมีกฎหมาย การบังคับใช้เป็นธรรม อันเป็นหลักฐานสำคัญ อันจะนำมาซึ่งสันติ”
ทั้งหมดนี้คือคำชี้แจงแบบ “หมัดต่อหมัด” ระหว่าง “วิชา” กระบี่มือหนึ่ง ป.ป.ช. ผู้ฟาดฟันการทุจริตในโครงการจำนำข้าว และ “ยิ่งลักษณ์” นารีขี่ม้าขาว ที่ยืนยันว่า ได้ตั้งหน่วยงานสารพัดเพื่อป้องทุจริตแบบชนิดที่ว่า “ถอยจนไม่รู้จะถอยยังไงแล้ว”
ท้ายสุดสารพัดข้อมูล-คำแก้ต่างระหว่างสองฝ่ายนี้ ที่ สนช. รับฟังกันอย่างครบถ้วน จะได้คำตอบเป็นเช่นไร
ท่ามกลางรายงานข่าวแจ้งว่า มีการนัดเลี้ยงปีใหม่กันของ สนช. ในค่ำคืนนี้ (22/1/58) ก่อนวันถอดถอนเพียงวันเดียว
ใครจะอยู่ ใครจะรอด พรุ่งนี้รอลุ้นด้วยใจระทึก !
# เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ที่ แฟนเพจ "I love isranews"
อ่านประกอบ :
"วิชา"แถลงย้ำคดีจำนำข้าวยิ่งลักษณ์ ชาวนาจำนำชีวิต ประเทศจำนำหนี้
"ยิ่งลักษณ์"ลั่นไม่เคยโกงจำนำข้าว รอลุ้นผลถอด-ปัดตอบมาสภาครั้งสุดท้าย