"ยิ่งลักษณ์"ลั่นไม่เคยโกงจำนำข้าว รอลุ้นผลถอด-ปัดตอบมาสภาครั้งสุดท้าย
“ยิ่งลักษณ์” ลุ้นผลถอดถอน ปัดตอบมาสภาครั้งสุดท้าย ยันจำนำข้าวโปร่งใสทุกขั้นตอน ลั่น "ไม่เคยโกง" ขออย่าเหมารวมว่าผิดหมดทั้งโครงการ โต้ ป.ป.ช. มีวาระซ่อนเร้นชี้มูลจีทูจี
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวก่อนเข้าแถลงปิดคดีถอดถอนกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวว่า ขณะนี้มีกำลังใจเต็มเปี่ยมที่จะเข้ามาชี้แจงต่อ สนช. โดยจะตั้งใจอย่างเต็มที่ในการพูดถึงรายละเอียดของคดีนี้ ซึ่งก็อยากให้ผู้รับฟังรับไปพิจารณา และขอความเป็นธรรมให้ด้วย
ส่วนกรณีที่ไม่เข้ามาตอบข้อซักถามกรรมาธิการ (กมธ.) ซักถามฯ ก่อนหน้านี้นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น ทำตามข้อบังคับการประชุมทุกอย่าง เนื่องจากในประเด็นซักถามเป็นเรื่องขั้นตอนการปฏิบัติ จึงมอบหมายให้รัฐมนตรีที่ปฏิบัติเข้ามาเป็นผู้ตอบข้อซักถามแทน
ต่อมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวแถลงปิดคดีว่า รัฐบาลจริงใจในการปราบปรามการทุจริต และเรามีกลไกชัดเจน กล่าวคือ เรามีการตั้งอนุกรมการควบคุมติดตามตรวจสอบการดำเนินงานทุกขั้นตอน 12 คณะ มีการกำหนดมาตรการ 13 มาตรการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการปราบปรามการทุจริต มีการตั้งกรรมการตรวจสอบสต็อกข้าวพร้อมกันทั่วประเทศ และมีการตั้งอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการข้าวเป็นครั้งแรก รวมไปถึงมีการแต่งตั้งกรรมการปราบปรามการทุจริตในโครงการับจำนำข้าวอีกด้วย ซึ่งไม่ได้ทำเพื่อแก้ข้อกล่าวหา เนื่องจากมีการจับกุมผู้กระทำผิด และฟ้องคดีได้ถึง 276 คดีแล้ว นอกจากนี้เพื่อป้องกันเงินรั่วไหล จึงจ่ายเงินให้ชาวนาโดยตรงผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสุดท้ายมีการปราบปรามทุจริตตามภาพรวมมที่รัฐบาลเคยแถลงนโยบายไว้กับรัฐสภาอีกด้วย
อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ดีสงสัยในสาระสำคัญว่า เหตุใดโครงการจำนำข้าวที่ดำเนินโครงการเป็นคณะบุคคล โดยมีมติคณะรัฐมนตรี และมติกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย โดยตนไม่ได้ดำเนินการลำพังในฐานะนายกฯ หรือ ประธาน กขช. แต่เหตุใดจึงถูกดำเนินคดีโดยลำพังทั้งที่รัฐธรรมนูญ และกฎหมายไม่ได้บัญญัติ
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า การดำเนินคดีตนโดยลำพังเป็นวาระซ่อนเร้น ไม่เป็นธรรม เป็นวาระทางการเมืองที่เห็นชัดว่า เมื่อมีคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2557 แล้ว ในวันรุ่งขึ้นในวันที่ 8 พ.ค. 2557 ป.ป.ช. ก็ชี้มูลได้ทันที และวันนี้ฝ่าย ป.ป.ช. ก็มาอ้างความบังเอิญเช่นกันที่มาชี้มูลคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) เพื่อชี้นำสังคม และกดดันสภาเพื่อให้เห็นว่ามีพฤติกรรมส่อทุจริต
“ดิฉันไม่เคยคิดโกง ไม่ปล่อยปละละเลย หรือมีพฤติกรรมใด ๆ ที่ส่อไปในทางทุจริต และดิฉันต้องมาที่นี่เพื่อขอความเป็นธรรมต่อสภาแห่งนี้ ไม่ต่อตัวดิฉัน แต่ที่สำคัญยิ่งอยากขอโอกาสให้คนจนได้มีชีวิตที่ดีขึ้นเหมือนคนอื่น ให้ชาวนาลืมตาอ้าปาก ให้ผู้ผลิตอาหารได้หายเหนื่อย” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อย่าเหมารวมว่าโครงการนี้ผิดทั้งหมด สมควรยกเลิก หรือมีการทุจริตเชิงนโยบาย มิฉะนั้นเราจะชดเชยโอกาสที่ชาวนาเสียไปได้อย่างไร อย่างมองเหรียญเพียงด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ว่าเรื่องร้ายได้ และโอกาสหายไปชาวนา หรือเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม และการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
“ความขัดแย้งทางการเมือง และการทำลายล้างอย่างไร้หลักการ อย่างที่ดิฉันประสบอยู่ ดิฉันพร้อมพิสูจน์ทำงาน แต่ก็ขอความเป็นธรรม เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าบ้านเมืองมีกฎหมาย การบังคับใช้เป็นธรรม อันเป็นหลักฐานสำคัญ อันจะนำมาซึ่งสันติ” น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงปิดคดี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินลงมาโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน เพียงแค่ตอบสั้น ๆ ว่า "สบายใจขึ้น และมั่นใจมากขึ้นที่ได้แจงไป แต่ไม่ขอพูดถึงผลการพิจารณาถอดถอนตอนนี้ ส่วนจะตั้งวอร์รูมติดตามถอดถอนนั้นคงไม่มี แต่จะติดตามทางโทรทัศน์อยู่ที่บ้าน"
เมื่อถามว่า การมาสภาครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม