ก.สาธารณสุข เตรียมแก้ กม.ยกมาตรฐานสมุนไพรไทยสู่ตลาดอาเซียน
รมว.สธ.ระบุเตรียมออกกฎกระทรวงคุมโรงงานผลิต วางเกณฑ์และแก้ไข พ.ร.บ.ให้ทันสมัยต่อการพัฒนาคุณภาพยาสมุนไพรรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปี 58 แก้นิยามศัพท์ “ยาแผนโบราณ” เป็น “ยาแผนไทย-ทางเลือก”
เร็วๆนี้ ที่โรงแรมรามาการ์เดน นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมว.สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดสัมมนา “โอกาสสมุนไพรไทยภายใต้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” จัดโดยคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจการพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา ว่าสมุนไพรไทยมีโอกาสเติบโตในตลาดโลก เนื่องจากปัจจุบันทั่วโลกมีแนวโน้มหันมาให้ความสนใจใช้ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร เพราะได้จากธรรมชาติและให้ประโยชน์ไม่ด้อยกว่ายาที่ได้จากการสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งประเทศไทยเป็นแหล่งที่มีสมุนไพรคุณภาพดีมากแห่งหนึ่งของโลก
นายต่อพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของ สธ.มีหน่วยงานดูแลเรื่องการส่งเสริมพัฒนาสมุนไพรไทยร่วมกัน 3 กรม ได้แก่ กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ดูตั้งแต่การศึกษาวิจัยและพัฒนาสมุนไพรไทยใช้เป็นยา เครื่องสำอาง อาหารเสริมสุขภาพ พัฒนาระบบการตรวจวิเคราะห์คุณภาพวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สมุนไพร การรับรองคุณภาพมาตรฐานสมุนไพร และควบคุมมาตรฐานการผลิตของโรงงานสมุนไพรให้ได้มาตรฐานจีเอ็มพี (GMP : Good Manufacturing Practice)
รมว.สธ.ยังกล่าวว่า การเตรียมพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนปี 2558 อย.ได้ดำเนินการพัฒนาสมุนไพรไทยให้มีมาตรฐาน เพื่อสามารถส่งออกไปจำหน่ายตลาดอาเซียนได้ใน 3 เรื่องใหญ่ ได้แก่ 1.เตรียมออกกฎกระทรวงสาธารณสุขยกระดับมาตรฐานสถานที่ผลิตสมุนไพรไทยให้ได้มาตรฐานจีเอ็มพี ซึ่งขณะนี้ผ่านมติคณะรัฐมนตรีแล้ว อยู่ระหว่างรอกฤษฎีกา 2.ปรับแก้หลักเกณฑ์การรับขึ้นทะเบียนยาสมุนไพรให้ สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของประชาคมอาเซียน โดยให้ผู้ประกอบการมีส่วนร่วมวางหลักเกณฑ์การพัฒนายาสมุนไพรให้เป็นสากล และ 3.แก้ไขพระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 ให้มีความทันสมัยและไม่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาสมุนไพร เช่น แก้นิยามศัพท์คำว่า ยาแผนโบราณเป็นยาแผนไทย หรือยาแผนทางเลือก
“คณะกรรมการภายใต้กฎหมายยาที่ดูแลเรื่องยาเดิมมี 1 ชุด จะแยกคณะกรรมการที่รับผิดชอบดูแลยาสมุนไพรออกมาอีก 1 ชุด และมีการเขียนหลักเกณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับสมุนไพรไทยให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา” นายต่อพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดเดือนธันวาคม 2553 มีโรงงานผลิตยาแผนโบราณที่ได้มาตรฐานจีเอ็มพีในประเทศ จำนวน 27 แห่ง และมีโรงงานผลิตยาแผนโบราณที่ได้มาตรฐานจีเอ็มพีของอาเซียนแล้ว 15 แห่ง .
ที่มาภาพ : http://herbs-in-manman.blogspot.com/2011/01/blog-post.html