"ไทยพาณิชย์"ลั่นไม่ใช่ต้นตอทุจริต สจล. 1.6พันล.พร้อมช่วยล่าตัวคนผิดถึงที่สุด
"ไทยพาณิชย์"ยันพร้อมให้ความร่วมมือ สจล.- ตร. สนับสนุนข้อมูลล่าตัวผู้กระทำความผิดคดียักยอกเงิน 1,600 ล้าน จนถึงที่สุด ระบุชัดขั้นตอนเบิกถอนเงินในส่วนของธนาคารไม่ผิดพลาด กรณี "ทรงกลด" เคยถูกเชิญตัวออกจริง แจ้งข้อมูลให้กรุงศรีฯทราบแล้ว แต่ไม่เห็นว่าอะไร
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ม.ค.58 ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ รัชโยธิน ตัวแทนคณาจารย์ บุคลากร นักศึกษา ศิษย์เก่า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จำนวนกว่า 50 คน นำโดย นายเกียรติศักดิ์ รุ่นพระแสง รองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. ได้เดินทางมายื่นหนังสือเปิดผนึกและแถลงการณ์ข้อเรียกร้องต่อธนาคารไทยพาณิชย์ กรณีเงินฝาก สจล.จำนวน 1,600 ล้านบาท ที่ฝากไว้ในบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ได้สูญหายและถูกยักยอกไปโดยมี นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายบริหารป้องกันอาชญากรรมทางการเงินและความปลอดภัยเป็นผู้รับเรื่อง
ทั้งนี้ ภายหลังการปิดห้องประชุมหารือร่วมกันระหว่างตัวแทนทั้งสองฝ่าย ซึ่งเวลาเวลาประมาณ 35 นาที นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข และนายเกียรติศักดิ์ รุ่นพระแสง ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ร่วมกัน
นายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข กล่าวว่า รู้สึกยินดีและขอบคุณคณะตัวแทนจาก สจล. ที่มาพบธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อยื่นหนังสือสอบถามถึงเจตนารมณ์ของธนาคารฯ ต่อคดีการทุจริตเงิน สจล. ซึ่งได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจร่วมกันจนกระจ่างชัดเจนแล้ว โดยธนาคารฯ ยืนยันว่าจะยืนหยัดอยู่ข้างสจล.และให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานราชการ อย่างเต็มที่เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดจนถึงที่สุด
"ขอเรียนอย่างนี้ แม้ว่าธนาคารจะไม่ได้ออกมาให้ข่าวเรื่องนี้มากนัก แต่ในข้อเท็จจริงไทยพาณิชย์ เป็นผู้ประสานงานไปยังกองปราบให้เข้าตรวจสอบเรื่องนี้ เราเป็นผู้เริ่มต้นการตรวจสอบเรื่องนี้ และโดยตัวผมเองก็เป็นผู้เชิญทุกธนาคารที่เกี่ยวข้อง และเกี่ยวเนื่องกับการโอนเงินมาหารือร่วมกัน ผมเป็นคนเริ่มต้น"
นายพงษ์สิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า กระบวนการสอบสวนเรื่องนี้ อยู่ในขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คงจะมีการตรวจสอบบัญชีที่เกี่ยวข้องต่างๆ เมื่อได้ความชัดเจนจะมีการเปิดเผยข้อมูลอีกครั้ง ซึ่งขณะนี้ยังให้ข้อมูลอะไรมากไม่ได้ ส่วนที่ทางผู้บริหารสถาบันร้องขอข้อมูลมา ก็กำลังดำเนินการให้ แต่เนื่องจากข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องมีจำนวนมากต้องใช้เวลา ซึ่งในการหารือร่วมกับรักษาการอธิการบดี สจล. ที่เดินทางมาพบไปแล้ว ขอเรียนให้ทราบว่าทางธนาคารจะให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะไม่ต้องการให้คนผิดอยู่ในสังคมนี้ต่อไปเช่นกัน
ส่วนที่มีข่าวว่านายทรงกลด ศรีประสงค์ อดีตผู้จัดการธนาคารกรุงศรีอยุธยา หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ เคยทำงานที่ธนาคารไทยพาณิชย์มาก่อน และถูกสอบสวนทางวินัย นั้น นายพงษ์สิทธิ์ กล่าวว่า นายทรงกลดเคยถูกตรวจสอบพบว่ามีการทำผิดระเบียบในขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินจริงแต่ไม่ถึงขั้นถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัย
"ในช่วงที่เขายังทำงานอยู่กับเรา มีการตรวจสอบพบว่า การเบิกจ่ายเงินส่วนหนึ่งของเขา มีการทำไม่ถูกต้องตามระเบียบ เราจึงรู้สึกหมดความไว้วางใจ และเสนอเรื่องไปยังกรรมการวินัยของธนาคาร เพื่อแจ้งให้เขาลาออกไปเอง ยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอะไรขึ้นมา เพราะยังไม่มีความผิดหรือความเสียหายอะไร เพียงแต่ดำเนินการไม่ครบถ้วนตามขั้นตอนเท่านั้น"
เมื่อถามว่า ได้มีการแจ้งข้อมูลประวัติเรื่องนี้ของนายทรงกลดให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยารับทราบหรือไม่ นายพงษ์สิทธิ์ กล่าวว่า "ในช่วงที่นายทรงกลดเข้าไปทำงานที่ธนาคารอื่น เราได้โทรศัพท์ไปบอกเขาแล้วว่า คนคนนี้มีประวัติอย่างไร แต่ก็ไม่เห็นทางธนาคารนั้นเขาจะว่าอะไรเลย และเราก็ไม่สามารถที่จะขึ้นบัญชีดำกับนายทรงกลดได้ เพราะเราไม่ได้ไล่เขาออก แต่เชิญเขาออกไป"
เมื่อถามว่า มีการระบุว่า ความเสียหายกรณี สจล. เงินส่วนใหญ่ เกิดที่ไทยพาณิชย์ ในส่วนของธนาคารกรุงศรีฯ มีแค่จำนวน 80 ล้านบาท นายพงษ์สิทธิ์ กล่าวว่า "เรื่องนี้ ก็มีการพูดกันเยอะ แต่อยากขอความเป็นธรรมหน่อย ต้องไปดูว่ากระบวนการโอนเงินมันเป็นอย่างไร ซึ่งกรณีนี้บอกได้แค่ว่า ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับไทยพาณิชย์ เราทำถูกขั้นตอนหมด แต่ส่วนของคนอื่น ต้องไปถามว่าเขาทำอย่างไร ทำตามขั้นตอนที่วางไว้หรือไม่"
"ผมไปดูแล้วขั้นตอนของเราไม่ได้ผิดอะไรเลย การฝากถอนเงินมันก็เหมือนท่อ ขั้นตอนถอนเงินในส่วนของเรามันถูกต้องหมด และในช่วงเกิดเหตุ ที่มีการถอนเงินออกไปจำนวนหนึ่ง เราก็ได้มีการประสานงานไปยังสถาบันเพื่อยืนยันข้อมูลแล้ว เมื่อลูกค้ายืนยันข้อมูลว่าถูกต้องแล้ว เราจะไปทำอะไรได้ แต่ตอนนี้เรายังพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะเรื่องอยู่ในกระบวนการสอบสวนของตำรวจจะเสียรูปคดี"
เมื่อถามว่า มีผู้เกี่ยวข้องคนอื่น นอกจากนายทรงกลดหรือไม่ นายพงษ์สิทธิ์ ตอบว่า เรื่องนี้ผมยังบอกรายละเอียดอะไรไม่ได้ เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
"ส่วนที่ถามว่าหลังเกิดเหตุการณ์ไทยพาณิชย์ จะปรับปรุงกระบวนการทำงานอะไรให้เกิดความเชื่อมั่นของลูกค้ามากขึ้น ตอนนี้ผมอยากจะแจ้งว่า ขั้นตอนและกระบวนการทำงานของเราไม่มีปัญหา และในช่วงนี้ก็มีสถานบันการศึกษาและหน่วยงานหลายแห่ง ประสานเข้ามาเพื่อขอยืนยันยอดเงินที่ฝากไว้กับเรา ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี และอยากให้ลูกค้ารายอื่น ทำแบบเดียวกันด้วย เพื่อจะได้เกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น"
ขณะที่ นายเกียรติศักดิ์ รุ่นพระแสง รองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือต่อธนาคารไทยพาณิชย์ ของตัวแทน สจล.ครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับฝ่ายบริหารของสจล. แต่ที่มาเพราะเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ชื่อเสียงของสจล.แปดเปื้อนเสียหายจากการทุจริตของบุคคลกลุ่มหนึ่ง
"เรามาที่ไทยพาณิชย์ ครั้งนี้ ไม่ได้มากล่าวหาใคร เรามาเพื่อให้ธนาคารแถลงจุดยื่นให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อเรื่องนี้ ซึ่งในสิ่งที่ธนาคารแถลงออกมา ก็ตรงตามที่พวกเราร้องขอไว้ทุกประการก็พอใจ และอยากจะอาศัยเวทีนี้ประชาสัมพันธ์ให้สื่อและประชาชนเข้าใจว่า แม้ว่าสจล.จะประสบปัญหาการยักยอกเงินจำนวนมาก แต่เงินจำนวนนี้เป็นเงินสำรองที่ สจล.เก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิก ปัจจุบันเรายังดำเนินการเรียนการสอนตามปกติ มีความคล่องตัวทางการเงิน เพราะมีงบประมาณส่วนอื่นๆ "
เมื่อถามว่า จะเดินทางไปยังธนาคารอื่นที่เกี่ยวข้องหรือไม่ นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า "เรามาที่ไทยพาณิชย์ ไม่ใช่เหมือนว่าธนาคารแห่งนี้ถูกหวย แต่เพราะเราเป็นเพื่อนกัน เราเป็นลูกค้ามานาน เมื่อมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นเราก็ต้องมาถามเพื่อนสนิทของเราก่อน และอยากจะฝากไปยังธนาคารแห่งอื่นให้ดูเป็นแบบอย่าง เราจะไม่ไปหาท่านจนกว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นมาก จนทำให้เราต้องไปทวงถามจากท่าน"
(เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ด้วยการกด "Like" ที่ แฟนเพจ "I love isranews")
อ่านประกอบ : "ไทยพาณิชย์"ลั่นไม่ใช่ต้นตอทุจริต สจล. 1.6พันล.พร้อมช่วยล่าตัวคนผิดถึงที่สุด