ป.ป.ช.ชี้ส.ส.เพื่อไทยจ่อฟ้องศาลปม “ภักดี”น่ารังเกียจ! ไร้ศักดิ์ศรี-หวังผลการเมือง
ป.ป.ช. จัดหนักชี้แจงปม ส.ส.เพื่อไทย เตรียมฟ้องศาลอาญา ปม “ภักดี” ขาดคุณสมบัติ ชี้ใช้ศาลเป็นเครื่องมือน่ารังเกียจ! สร้างภาพฉลาดแกมโกง เรื่องไม่เป็นเรื่อง-หวังผลทางการเมือง ไร้ศักดิ์ศรี ไม่เคารพยำเกรงอำนาจศาล
นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้แจงข้อมูลถึงอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จะนำคดีเรื่องคุณสมบัติของนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. ไปฟ้องที่ศาลอาญาว่า โดยหลักแล้ว ผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดฐานหนึ่งฐานใด หากเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัยย่อมมีสิทธิที่จะนำคดีไปฟ้องยังศาลที่มีอำนาจชำระคดีอาญาได้ หลักนี้เป็นหลักเบื้องต้นที่แม้นักศึกษากฎหมายก็รู้กันดี แต่ขอให้ข้อคิดแก่นักกฎหมายที่ช่วยเหลือโจทก์คดีนี้ว่า การใช้สิทธิทางศาลนี้จะต้องกระทำโดยสุจริตดังสุภาษิตกฎหมายที่นักกฎหมายคุ้นเคยกันดีว่า “He who comes to equity must have clean hand.”
นายวิชัย กล่าวอีกว่า ในช่วงที่มีความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศอยู่นี้ การฟ้องคดีต่อศาลอาญาของโจทก์ มีอยู่หลายกรณีที่โจทก์มิได้มีความมุ่งหวังจะให้ศาลลงโทษจำเลยจริง ๆ โดยโจทก์รู้อยู่แก่ใจดีว่าคดีเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง และรู้อยู่แก่ใจดีอีกว่าโจทก์เองไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย แต่โจทก์ฟ้องเพียงเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยโจทก์รู้ดีว่าเมื่อยื่นฟ้องไปแล้วก่อนจะตัดสินยกฟ้อง ศาลต้องมีระเบียบพิธีตามที่กำหนดไว้ ระเบียบพิธีนี้ทำให้ดูเหมือนว่า ผู้ถูกฟ้องคดีถูกกระบวนยุติธรรมทางอาญาเล่นงานเข้าแล้ว ยิ่งการถูกฟ้องคดีของผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญด้วยแล้ว สื่อมวลชนจะให้ความสนใจกระพือข่าว คือโจทก์ต้องการสร้างความวุ่นวายใจให้แก่ผู้ถูกฟ้องเท่านั้น การใช้สิทธิของโจทก์ในลักษณะนี้ถือเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและไร้ศักดิ์ศรี เป็นการไม่เคารพยำเกรงอำนาจศาล
“การใช้ศาลเป็นเครื่องมืออย่างนี้ ในวงการกฎหมายถือเป็นเรื่องน่ารังเกียจและนักกฎหมายที่มีจริยธรรม ไม่ทำกัน เป็นการสร้างภาพให้นักกฎหมายเป็นคนฉลาดแกมโกง อันมีผลให้วิชาชีพกฎหมายถูกดูแคลน ในประเทศที่เจริญแล้ว นักกฎหมายประเภทนี้จะถูกชุมชนทางวิชาชีพกดดันจนทำมาหากินไม่ได้ แต่การบังคับใช้มาตรฐาน ทางจริยธรรมทางวิชาชีพในประเทศไทยอ่อน นักกฎหมายประเภทนี้จึงมีอยู่มาก การกระทำอย่างนี้ยังถือเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาในทางก่อความรำคาญแก่ศาล ซึ่งอาจมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลได้อีกด้วย” นายวิชัย กล่าว