สนช.ปรับคำถามซักอดีตรมต.แจงแทน"ปู"หลังไม่ยอมมาตอบด้วยตัวเอง
สนช. ปรับคำถามซัก "อดีตรมต." แจงแทน "ปู" หลังประชุมลับนานกว่า 1 ชม. เหตุไม่มายอมมาตอบข้อซักถามด้วยตัวเอง "พรเพชร"ปรามเป็นไปตามข้อบังคับประชุม ลั่นกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีวาระสำคัญคือการซักถามของกรรมาธิการ (กมธ.) ซักถาม สนช. คดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ส่งตัวแทน เช่น นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ รวมถึงอดีตรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง พร้อมทีมทนาย เข้ามาเป็นผู้ตอบคำถามแทน
อย่างไรก็ดี ก่อนการซักถามมี สนช. หลายคนลุกขึ้นอภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยเห็นว่า หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่มา ก็ไม่จำเป็นจะต้องซักถาม ให้ซักถามฝ่ายคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแ่หงชาติ (ป.ป.ช.) อย่างเดียว รวมถึงขอทราบเหตุผลว่าเหตุใด น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงไม่มา
นายทวีศักดิ์ สูทกวาทิน สนช. กล่าวว่า เท่าที่ทราบเป็นข้อมูล และประธานได้แจงต่อที่ประชุม รวมทั้งให้สัมภาษณ์ทางสื่อมวลชน ก่อนที่จะดำเนินกระบวนการถอดถอน ได้มีการเชิญทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยหารือกันอย่างไม่เป็นทางการ ทั้งสองฝ่ายก็ทราบกระบวนการว่า เจ้าตัวต้องมาเอง และก็มาแถลงเปิดคดีแล้ว วันที่มาตอบข้อซักถาม ต้องมาตอบข้อซักถามด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายรับทราบ ก่อนที่จะเริ่มกระบวนการอย่างเป็นทางการ
“วันนี้อดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ มาแถลงเปิดคดี แต่วันมาตอบข้อซักถาม ท่านไม่มาด้วยตัวเอง ผมคิดว่าไม่เป็นไปตามที่ได้ตกลงกันไว้ อยากให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้หารือกันเรื่องนี้ก่อน ก่อนเริ่มกระบวนการซักถามในวันนี้” นายทวีศักดิ์ กล่าว
ด้านนายพรเพชร กล่าวว่า กรณีที่วันที่แถลงเปิดคดี ทั้งสองฝ่ายจำนวนผู้แทนมากทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายคณะกรรมการ ป.ป.ช. ฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็มีหลายท่าน ก็ได้หารือกัน มีรองประธาน สนช. เข้าไปด้วย ปกติการแถลงเปิดคดี จะมีผู้แถลงคนเดียว และเนื่องจากมีมากันหลายท่าน เลยถามว่าจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ทั้งสองฝ่ายก็บอกว่า ฝ่าย ป.ป.ช. ให้ท่านวิชาแถลงหลัก ส่วนฝ่าย น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะแถลงเอง แต่มีข้อสงวนว่าในบางเรื่อง จะรบกวนให้สมาชิกในคณะแถลงเพิ่ม
“ผมก็บอกว่า เหตุที่เรียกมา เพราะมีผู้แทนหลายท่าน ดังนั้นถ้าท่านใดที่พูด ก็ควรจะมาตอบคำถามด้วย สมมติ ฝ่ายวิชา พูดไป 3 คน แล้ววันนี้วิชามาคนเดียว มันก็ไม่น่าจะถูกต้อง น่าจะให้มาตอบคำถาม เมื่อท่านพูดอะไรไว้จะได้ถามผู้นั้น เช่นเดียวกับฝ่ายอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ถ้าให้คนอื่นพูด ก็ควรให้คนอื่นมาด้วยในวันซักถามแต่ปรากฏว่าในวันนั้นทั้งสองฝ่ายไม่ได้ให้คนอื่นแถลง” นายพรเพชร กล่าว
นายพรเพชร กล่าวอีกว่า ทีนี้มาถึงว่า วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มา ถึงแม้ว่าในวันนั้นจะแจ้งให้ทราบว่า เมื่อได้แถลงแล้วก็ควรจะมา แต่ว่าเมื่อตรวจดูข้อบังคับการประชุมแล้ว ไม่ได้มีการบังคับว่าจะต้องมา อันนี้เป็นสิทธิ์ว่าจะมาหรือไม่ก็ได้ เราก็ต้องพิจารณาไปตามข้อบังคับ ส่วนการที่ท่านไม่มานั้น ในทางผลของการประชุมทางข้อกฎหมายคือไม่มีผลประการใด
“ผมต้องทำตามข้อบังคับ และผลของการที่ท่านใดทำสิ่งใดหรือไม่ทำสิ่งใด ผมกราบเรียนต่อที่ประชุมมากเกินไปไม่ได้ ในทางกฎหมายกรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา” นายพรเพชร กล่าว
ส่วนนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทีมทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้มาตอบ เป็นเรื่องข้อบังคับ และทนายเสนอต่อท่าน เราใช้ข้อบังคับตามข้อ 154 ในการตอบข้อซักถาม ซักถามผู้เกี่ยวข้อง ไม่ได้ระบุว่าซักถามผู้ถูกกล่าวหา ฉะนั้นเราใช้ข้อบังคับในส่วนนี้ ไม่ได้ขอยกเว้นข้อบังคับ
"อีกเรื่อง ในวันหารือวันที่ 9 มกราคม 2558 ผมได้หารือกับนายกฯด้วยในประเด็นนี้ ส่วนในเรื่องของสมาชิกบางท่านว่า สภาแห่งนี้จะให้ความเป็นกลางนั้น ถ้าดูตามข้อบังคับ 161 สมาชิกนั้นจะต้องวางตนเป็นกลางและเที่ยงธรรม" นายนรวิชญ์ กล่าว
ล่าสุด ที่ประชุม สนช. มีมติ 153 เสียง ไม่เห็นด้วย 1 เสียง ไม่ลงความเห็น 21 เสียง จากองค์ประชุม 175 คน เห็นด้วยกับนายสมชาย แสวงการ สนช. ให้พิจารณาลับ เพื่อหารือถึงวิธีการซักถามของ กมธ.ซักถามฯ กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้มาชี้แจงด้วยตัวเอง
หลังจากการประชุมลับนานกว่า 1 ชั่วโมง สนช. มีมติกลับมาซักถามต่อ โดยให้ กมธ.ซักถามฯ ปรับแก้ไขคำถามที่จะถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยตรง เปลี่ยนเป็นข้อซักถามต่ออดีตรัฐมนตรีที่เข้ามาชี้แจงต่อ กมธ.ซักถามฯ แทน
ซึ่ง กมธ.ซักถามฯ กำหนดคำถามทั้งหมด 83 คำถาม แบ่งเป็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. 23 คำถาม มีคำถามหลัก 11 คำถาม ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ 60 คำถาม มีคำถามหลัก 35 คำถาม