ปตท.ยันสัญญาเช่าที่ รฟท.เสมือนซื้อขาด ควักจ่ายไป 54ล./30ปี คุ้มค่าแล้ว
ปตท.ยันสัญญาเช่าที่ดิน รฟท.ถูกต้องตามกม.เสมือนซื้อขาด ชี้จ่ายเงินไปให้หมดแล้ว 54 ล้านคุ้มค่า ไม่น่าจะต้องมีการคิดค่าเช่าอีก แถมควักเงินทำโครงการสร้างประโยชน์ให้เจ้าของที่ดินไปแล้วกว่า 160 ล้านด้วย ย้ำปี 56 มีรายได้ 2.8 ล้านล้านบาท กำไร 9.4 หมื่นล. ยังต่ำมากหากเทียบกับบ.น้ำมันระดับโลก แต่ทำประโยชน์ตอบแทนให้รัฐมากที่สุด
จากกรณี บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เกิดข้อพิพากในการต่อสัญญาเช่าที่ดินริมถนนวิภาวดีรังสิต ที่ปตท.ใช้เป็นสถานทีตั้งสำนักงานใหญ่ และสถานีบริการน้ำมัน ปตท. โดย รฟท.ได้ทำหนังสือแจ้งให้ปตท.รื้อถอนอาคารพร้อมทั้งชำระค่าใช้ประโยชน์ที่ดินที่ค้างชำระมูลค่า 132 ล้านบาท แต่สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาข้อกฎหมายแล้วมีความเห็นว่า รฟท.ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ และต้องยินยอมให้ปตท.ต่อสัญญาเช่าที่ดินออกไปเป็นระยะเวลา 30 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าเช่าและค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น
(อ่านประกอบ : แผน"รฟท."ไล่ที่-ท่วงหนี้ ปตท.132 ล. สะดุด! สนง.อัยการสูงสุด ชี้ขาดไม่มีสิทธิ)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ปตท. ได้ทำหนังสือมาถึงสำนักข่าวอิศรา เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อพิพากสัญญาเช่าที่ดินกับ รฟม.
โดยปตท.ระบุว่า สัญญาที่ ปตท.ทำไว้กับ รฟท.มีการดำเนินการอย่างถูกต้องกับกรมที่ดิน ถือเป็นสัญญาเช่าเสมือนเป็นการซื้อขาด เนื่องจากได้จ่ายเงินล่วงหน้าไปให้กับทางรฟท.แล้ว และไม่น่าจะต้องมีการคิดค่าเช่าใดๆ อีก
นอกจากนั้น จำนวนเงินที่จ่ายไปในอดีตมีมูลค่าสูงในขณะนั้น (54 ล้าน) เพียงแต่ดูเหมือนมีมูลค่าต่ำเมื่อเทียบกับค่าครองชีพในปัจจุบัน (30ปี) และเมื่อ ปตท.ขอเพิ่มค่าเช่า ปตท.ก็พร้อมที่จะจ่ายส่วนนี้ให้ แต่ยังไม่สามารถตกลงอัตราที่เหมาะสมได้ จึงต้องให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาดในเรื่องนี้
(อ่านประกอบ :ปตท.ฟันรายได้ล้านล.ยื้อจ่ายค่าเช่าที่รฟท.ฉบับใหม่พันล.!ของเก่าควักแค่54 ล., เผยโฉมสัญญาประวัติศาสตร์ "ปตท.-รฟท."เช่าที่ยาว 30 ปีควักจ่ายแค่54 ล.!)
ปตท. ยังระบุด้วยว่า นอกเหนือจากการชำระค่าเช่าตามสัญญาได้กล่าวมาแล้ว ปตท.ได้มีการจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาพื้นที่ซึ่งได้ทำสัญญากับ รฟท. ภายใต้ชื่อ "โครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมและภูมิทัศน์พื้นที่โดยรอบบริเวณอาคารศูนย์เอนเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ และพื้นที่บ้านพักนิคมรถไฟ กม.11"
โดยได้ดำเนินการปรับปรุงกลุ่มอาคารที่พักอาศัย แฟลต 1-8 ปรับปรุงระบบระบายน้ำ ก่อสร้างลานจอดรถ ปรับปรุงพื้นผิวถนนสาย 2 จากปากทางเข้าศูนย์ฝึกอบรมฯ-ถนนกำแพงเพชร 2 และปรับปรุงพื้นที่ลานและอาคารเอนกประสงค์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่าประมาณ 160 ล้านบาท ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
ปตท. ยังระบุด้วยว่า ในปี 2556 ปตท. มีรายได้ 2,842,688 ล้านบาท แต่มีกำไรสุทธิประมาณ 94,652 ล้านบาท ทำให้มีอัตราส่วนผลตอบแทนต่อรายได้เพียง 3.28% ซึ่งนับว่ากำไรปตท.ยังต่ำมากเมื่อเทียบกับบริษัทน้ำมันระดับโลก
นอกจากนี้ กำไรของปตท.ได้นำส่งกลับคืนให้รัฐเพื่อไปสร้างประโยชน์สาธารณะมาโดยตลอด นับตั้งแต่ปี 2544-2556 ปตท.ได้ส่งเงินให้รัฐในรูปของภาษีเงินได้และเงินปันผลรวมแล้วกว่า 580,000 ล้านบาท นับเป็นรัฐวิสาหกิจที่นำส่งรายได้ให้กับรัฐมากที่สุด
ที่สำคัญ ปตท.ได้นำกำไรไปใช้ประโยชน์ต่างๆ เพื่อความมั่นคงทางด้านพลังงาน ได้แก่ ลงทุนสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน/ชำระหนี้ระยะยาว (51.9%) นำส่งรัฐในรูปแบบต่างๆ (26.4%)ส่งเงินคืนรัฐในรูปเงินปันผลของกระทรวงการคลังและกองทุนวายุภักดิ์(14.3%) และเป็นเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้น (7.2%)