กระสุนคะนองยิงขึ้นฟ้าปัตตานีฉลองปีใหม่ เด็กหญิง 7 ขวบรับเคราะห์
เรื่องสนุกจากความคึกคะนอง "ยิงปืนขึ้นฟ้า" ช่วงเฉลิมฉลองต้อนรับปีใหม่ กลายเป็นเรื่องเศร้าที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
บรรยากาศคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ชายแดนใต้ค่อนข้างเงียบเหงาจากพิษอุทกภัย จ.ยะลา กับนราธิวาสแทบไม่มีกิจกรรมเคาท์ดาวน์ (นับถอยหลังสู่ปีใหม่) ยกเว้นเพียงปัตตานีเท่านั้นที่ยังจัดกิจกรรมอยู่
แต่กิจกรรมที่ทำกันเองอย่างแพร่หลายช่วงนับถอยหลังสู่ปีใหม่ในระยะหลังๆ คือ การจุดพลุ ยิงพลุ และยิงปืนขึ้นฟ้า โดยเฉพาะการยิงปืนขึ้นฟ้านั้น ส่วนใหญ่กระทำเพราะความคึกคะนอง บ้างก็มึนเมา บ้างก็เมามัน แม้จะมีการแจ้งเตือนให้ระมัดระวัง กระทั่งขู่จะดำเนินคดี แต่ก็ยังมีคนระห่ำกระทำกันทุกปี ทั้งๆ ที่เกือบทุกปีต้องมีคนบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายจากการยิงปืนขึ้นฟ้า
และปีนี้ก็เช่นกัน...
ความสุขสนุกสนานของคนบางคน ได้กลายเป็นความทุกข์ของครอบครัว "มามุ" เมื่อ ด.ญ.นริศรา มามุ วัยเพียง 7 ขวบ ถูกกระสุนปริศนาได้รับบาดเจ็บ ขณะนอนหลับเฉยๆ อยู่ภายในบ้านของตนเอง
"ไม่รู้กระสุนมาจากทิศไหน ตกใส่หลังคาก่อนจะมาถูกน้องนริศรา 1 นัดจนได้รับบาดเจ็บ แม้อาการจะไม่หนัก แต่ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากให้เกิด เพราะเมื่อมันเกิดก็รู้สึกแย่" ไซฟูดีน มามุ บิดาวัย 38 ปีของน้องนริศรากล่าว เขาเป็นเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ เลขที่ 102/1 หมู่ 4 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี
เขาเล่าเหตุการณ์ระทึกขวัญในวันต้อนรับปีใหม่ให้ฟังว่า ตอนนั้นเวลาประมาณ 00.01 น. มีเสียงปืนและพลุดังมาก ดังจากทั้ง 4 ทิศของบ้าน แล้วมีกระสุนนัดหนึ่งตกมาบนหลังคาบ้าน ตรงกับที่ลูกสาวนอนอยู่พอดี จังหวะนั้นก็ได้ยินเสียงดังเหมือนระเบิด แล้วก็มีเสียงแตกกระจาย ใจนึกไปถึงลูกสาวที่นอนอยู่ทันที ก็รีบลุกไปดู พบลูกสาวนอนสั่นเพราะตกใจ จากนั้นก็ถามลูกว่าเป็นอะไร แกตอบว่าเจ็บ ร้อน ก็รีบเปิดผ้าห่มดู ก็พบกระสุนปืนกลิ้งออกมา ก็รีบโทรศัพท์หาหน่วยกูชีพสันติปัตตานีเพื่อขอให้ช่วยและพาส่งโรงพยาบาล
"รู้สึกเศร้าใจและน้อยใจมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับลูกสาว เพราะตั้งแต่เกิดเหตุมาไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาถามข่าวคราวหรือช่วยเหลือ แถมพอมีข่าวออกไป เจ้าหน้าที่บางหน่วยยังมาใช้คำพูดไม่ดีอีก เช่น บอกว่าเรื่องแค่นี้ไม่หนักหนาสาหัสอะไร อย่าให้ต้องถึงตำรวจเลย ผมฟังแล้วรู้สึกงง กับคำพูดของเจ้าหน้าที่คนนั้น ทั้งที่ตอนที่เขาพูด ผมก็อยู่ที่โรงพยาบาล กำลังวุ่นวายกับอาการของลูกสาว แต่เขาเหมือนตั้งใจมาบอกให้เราไม่ให้เอาเรื่อง ซึ่งจริงๆ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากถ้าตัวเองและครอบครัวได้รับความเป็นธรรมบ้าง ผมและครอบครัวอยู่ในบ้านดีๆ กระสุนมาหล่นใส่บ้านและมาถูกลูกอีก ต้องมาเจอคำพูดแบบนี้ทำให้รู้สึกแย่"
ไซฟูดีน เล่าต่อว่า หลังตัดสินใจเข้าแจ้งความ ร้อยเวรก็มาที่บ้าน มาดูที่เกิดเหตุ แล้วก็เก็บหัวกระสุนไป เท่าที่ได้ยินเจ้าหน้าที่คุยกัน คาดว่าวิถีกระสุนน่าจะมาทางด้านหลังโรงแรมซี.เอส.ปัตตานี ซึ่งอยู่ฝั่งซ้ายของบ้านและมีโอกาสมากที่สุด จุดนั้นมีฐานเจ้าหน้าที่บางหน่วยตั้งอยู่ ขณะที่ฝั่งขวาก็มีเหมือนกัน ส่วนด้านหลังของบ้านเป็นหมู่บ้าน หมู่ 1 บ้านรูสะมิแล ส่วนฝั่งด้านหน้า ตำรวจบอกว่าไม่น่าเป็นไปได้
"เจ้าหน้าที่บอกว่า 2 วันน่าจะรู้ว่ากระสุนใคร คิดว่าสาเหตุที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์คร่าวๆ แบบนั้น เพราะไม่มีหน่วยพิสูจน์หลักฐานมาร่วมตรวจวิถีกระสุนด้วย"
ไซฟูดีน บอกด้วยว่า ความจริงบ้านของเขาก็อยู่กลางทุ่งนา หลังเดียวโดดๆ ห่างไกลจากบ้านอื่น ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้
"ก่อนนอนก็ดูข่าว มีการแจ้งเตือนให้ประชาชนระวังกระสุนปริศนาที่อาจเข้ามาหาเราโดยไม่รู้ตัวจากการยิงปืนขึ้นฟ้าฉลองปีใหม่ ตัวเองก็ดู แล้วก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง พอมาเกิดจริงๆ จึงรู้สึกแย่ ซ้ำยังต้องมาเจอกับความเฉยเมยของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก น้อยใจมากๆ เหมือนครอบครัวถูกซ้ำเติม ก่อนหน้านี้ก็น้อยใจที่ไม่มีใครเอาถุงยังชีพมาให้เลย ทั้งๆ ที่บ้านก็ถูกน้ำท่วมอยู่กลางทุ่ง ะอน้ำลดได้วันเดียว ลูกต้องมารับกระสุนจากการฉลองปีใหม่อีก เราเป็นชาวบ้านคงต้องอดทนอย่างนี้ตลอดไป"
ต่อมา นายวีรพงศ์ แก้วสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้ทราบข่าวเกี่ยวกับครอบครัวมามุ จึงได้รีบเดินทางเข้าเยี่ยมอาการน้องนริศราถึงบ้าน พร้อมมอบกระเช้าของขวัญ ขนม และเงินทำขวัญอีกจำนวนหนึ่ง
ผู้ว่าฯปัตตานี กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการยิงปืนขึ้นฟ้าด้วยความคึกคะนอง ขาดวิจารณญาณของผู้มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง จึงขอฝากว่าการกระทำในลักษณะนี้ นอกจากจะไม่สร้างสรรค์แล้ว ยังก่อให้เกิดอันตรายแก่คนอื่น ต่อไปขอให้คิดว่าถ้าทำแบบนี้แล้วอาจจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับคนในครอบครัวได้ ขอให้ช่วยกันรณรงค์ไม่ให้มีการยิงปืนขึ้นฟ้ากันอีกเลย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ผู้ว่าฯปัตตานี นั่งคุยสอบถามอาการจากน้องนริศราหลังออกจากโรงพยาบาล
2 ไซฟูดีน ผู้เป็นบิดา ชี้ให้ดูรอยกระสุนที่ฝ้าเพเดานบ้าน
3 เด็กหญิงนริศราขณะนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล