บังคับใช้แล้ว!ก.คลังเพิ่มวงเงินรักษาพยาบาล“ผู้ประสบภัยจากรถ”เป็น 3 หมื่นบาท
บังคับใช้แล้ว กระทรวงการคลัง ประกาศขยายวงเงินรักษาพยาบาล “ผู้ประสบภัยจากรถ” เป็น 30,000 บาท ช่วยประชาชนให้ได้รับการคุ้มครองเพิ่ม หลังลดภาระกองทุนรักษาพยาบาลจ่ายค่าส่วนต่าง พร้อมประสานโรงพยาบาลทั่วประเทศ ปรับหลักเกณฑ์การเบิกจ่าย เริ่ม 25 ธันวาคม 2557 เป็นต้นไป
สืบเนื่องจาก คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดความเสียหายที่จะให้ได้รับค่าเสียหา การร้องขอรับและการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2557 มีมติเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมาตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ล่าสุด วันที่ 30 ธันวาคม 2557 นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวเรื่อง “การเพิ่มวงเงินค่ารักษาพยาบาลของผู้ประสบภัยจากรถในส่วนของค่าเสียหาย เบื้องต้นกรณีได้รับบาดเจ็บ” ณ ศูนย์แถลงข่าว ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล
นายวิสุทธิ์ กล่าวถึงปรับเพิ่มวงเงินรับค่าเสียหายของผู้ประสบภัยจากรถ ซึ่งเป็นการการเพิ่มประโยชน์การคุ้มครองให้กับประชาชนที่ประสบภัยจากรถมากขึ้น นอกจากนี้ยังครอบคลุมรถที่ไม่มีการทำประกันภัย หรือถูกชนแล้วหนีอีกด้วย โดยจากการคำนวณภาระต้นทุนในการปรับเพิ่มรับค่าเสียหายเบื้องต้นของผู้ประสบภัยจากรถ รัฐฯ คาดว่าจะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ประมาณ 609 ล้านบาทต่อปี ในจำนวนนี้เป็นภาระค่าใช้จ่ายของบริษัทเอกชน 595 ล้านบาท และภาระกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ 14 ล้านบาท
“ขณะนี้กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เตรียมความพร้อมในการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นแล้ว และจะดำเนินการได้ทันที โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม ที่ผ่านมา และการปรับเพิ่มวงเงินรับค่าเสียหายในครั้งนี้ เป็นการปรับเพิ่มตามภาวะค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยที่ผู้ประสบภัยจากรถยังคงจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยในจำนวนเท่าเดิม” รมช.คลัง กล่าว
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การเพิ่มวงเงินดังกล่าวกำหนดให้ได้รับจากวงเงินเดิมจำนวนเงินไม่เกิน 15,000 บาทต่อคน เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน เมื่อรวมกับความเสียหายต่อชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรหรือสูญเสียอวัยวะ ที่ได้รับค่าสินไหมทดแทน 35,000 บาทต่อคน รวมแล้วจะมีวงเงินความคุ้มครองค่าเสียหายเบื้องต้นสูงสุด คนละไม่เกิน 65,000 บาท โดยกฎกระทรวงดังกล่าวได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2557 จึงมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2557 เป็นต้นไป