คตง. มีมติด่วนมอบผู้ว่าฯ สตง. ลุยตรวจคดียักยอกเงิน สจล.1.6 พันล.
คตง. มีมติด่วนมอบ ผู้ว่าฯ สตง.ลุยตรวจคดีเงินในบัญชีกองกลางของ สจล. ถูกยักยอกไปสูงถึง 1,600 ล้านบาท พร้อมให้รายงานความคืบหน้าโดยเร็ว ชี้หากตรวจพบการกระทำผิดเตรียมดำเนินการทางอาญา-ปกครองผู้เกี่ยวข้องต่อไป
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค.57 ศาสตราจารย์พิเศษชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนกรณีที่เงินในบัญชีกองกลางของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) จำนวนกว่า 3,000 ล้านบาท ถูกยักยอกไปเป็นจานวน 1,600 ล้านบาท และตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาจำนวนสองราย พร้อมตั้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ปลอม และใช้เอกสารสิทธิปลอม นั้น ขอเรียนให้ทราบว่า กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยเฉพาะในแง่ของระบบการตรวจสอบและควบคุมการกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐ ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) จึงได้มีมติเป็นเอกฉันท์ มอบให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินไปเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้รายงานความคืบหน้าโดยเร็ว
นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า สาหรับกรณีที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการตรวจสอบของ สตง. โดยเฉพาะในส่วนของเงินฝากธนาคาร นั้น ขอเรียนชี้แจงว่า ในการตรวจสอบของ สตง. จะถือตามหลักการ มาตรฐานวิชาชีพบัญชี โดยมีการสอบยันยอดเงินฝากกับธนาคาร ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวปรากฏใบยืนยันยอดเงินฝากที่มีตราประทับของธนาคารชัดเจน และเจ้าหน้าที่ สตง. ได้ตรวจสอบตามเอกสารหลักฐานที่ปรากฏ ดังนั้น ประเด็นที่ สตง. ให้ความสำคัญและกำลังเร่งดำเนินการก็คือ การประสานไปยังธนาคารเพื่อให้ยืนยันความถูกต้องของใบยืนยันยอดเงินฝากว่าเป็นเอกสารที่ออกและรับรองโดยธนาคารจริงหรือไม่
เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีผู้ต้องหาซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้ หากพบว่าเป็นการจัดทำเอกสารเท็จหรือมีการปลอมแปลงเอกสารขึ้น สตง. จะได้ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
“ขณะนี้ สตง. กำลังอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมีการแบ่งทีมผู้ตรวจสอบเป็นสองทีม กล่าวคือ ทีมผู้ตรวจสอบบัญชีการเงินจะเข้าไปตรวจสอบพยานหลักฐานในส่วนอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้มีการส่งมอบให้พนักงานสอบสวน และทีมผู้ตรวจสอบสืบสวน ซึ่งจะเข้าไปค้นหาข้อมูลเพื่อดำเนินการตามมาตรการอื่น ๆ ต่อไป เช่น การดำเนินการทางวินัยงบประมาณและการคลัง และหากพบการกระทาผิดเพิ่มเติมจะได้มีการดำเนินคดีอาญาและดำเนินคดีทางปกครองตามนโยบายของ คตง. ต่อไป” นายพิศิษฐ์ กล่าว