ป.ป.ช.ห่วงแม่พิมพ์ของชาติ!พบพิรุธขอให้บอก-ขีดกรอบสอบสนามฟุตซอลฉาว
อนุฯป.ป.ช. เตรียมถกนัดแรก 22 ธ.ค. ปมจัดซื้อสนามฟุตซอลฉาว ระดมพลจากทั้ง ป.ป.ช. จังหวัด-สตง. ประสานขอข้อมูลจาก ก.ศึกษาฯ ชี้ปัญหาหลักดูว่ามีฮั้วหรือไม่ ห่วงครู-จนท.ระดับล่าง ขอพบพิรุธให้บอก แบ่งโซนสอบภาคอีสานบน-ล่าง
นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะอนุกรรมการไต่สวนสำนวนกรณีการจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอลในโรงเรียน 3 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวถึงความคืบหน้าในกรณีดังกล่าวว่า ได้นัดประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวนฯครั้งแรกในวันที่ 22 ธันวาคม 2557 โดยวางกรอบการประชุมเบื้องต้นไว้คือรอดูข้อมูลจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และกระทรวงศึกษาธิการ ที่กำลังประสานอยู่ และจะพูดคุยกันในประเด็นปัญหาหลักคือ การเสนอราคาต่อหน่วยงานรัฐถูกต้องหรือไม่ หลังจากนั้นจะเป็นเรียกพยานเข้ามาสอบปากคำ และเข้าไปสอบในเนื้อหาของเรื่องว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร สเป็คถูกต้องหรือไม่ ส่วนเรื่องเงินมีบิดเบี้ยวอะไรก็ค่อยไปว่ากัน ส่วนการตรวจสอบในจังหวัดภาคเหนือ ต้องรอหารือกับนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. ที่เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนฯก่อนว่า จำเป็นต้องตั้งแยกเป็นอีกคณะอนุกรรมการฯหรือไม่ อย่างไรก็ดีก็อยากจะแยกอยู่ เพื่อจะได้มีความคล่องตัว การทำงานจะได้เร็วขึ้น เพราะภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีปัญหาเยอะ
“เรื่องนี้น่าเป็นห่วง เพราะครูถือเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศเราหากครูต้องโดนวินัยทางอาญา อาจกระทบต่อการศึกษาได้ ดังนั้นก็พยายามจะดูแลกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นหากครูทำถูกต้องตามขั้นตอนก็ไม่น่าจะมีปัญหา ข้อสำคัญคือว่า หากคุณพบพิรุธอะไรให้พูดตรง ๆ เหมือนมีเงินทอน หรือมีความไม่ถูกต้อง อะไรอย่างนี้ ส่วนเรื่องรู้เห็นก็ค่อยว่ากันอีกทีหนึ่ง” นายปรีชา กล่าว
นายปรีชา กล่าวว่า ปัญหาที่หลายฝ่ายกังวลคือในส่วนของคนที่เป็นผู้ตรวจรับงาน ทางเราก็ต้องตรวจสอบว่าการตรวจรับถูกต้องหรือไม่ เนื้อหาเป็นอย่างไร คุณสมบัติหรือสัญญาจะมีรายละเอียดของสเป็คงานอยู่ ถ้าถูกต้องก็ไม่มีปัญหา ทั้งนี้ในส่วนความผิดเรื่องฮั้วนั้น จะดูกระบวนการของการได้เงินมา กับนำเงินไปใช้ และมีอะไรบิดเบี้ยวระหว่างนั้นหรือไม่ เช่น มีผู้รับเหมาเป็นใคร มีใบสั่ง มีข้อมูล มีการโน้มน้าว มีบทบาทในการทำ E-Auction หรือประกวดราคา และบริษัทที่ประกวดราคามาโดยชอบหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า การไต่สวนเป็นไปด้วยความลำบากหรือไม่หากสาวไม่ถึงคนสั่งการ นายปรีชา กล่าวว่า อาจแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือ ขั้นแรกที่มีการแปรญัตตินำเงินงบประมาณ ขั้นถัดมาเป็นในส่วนของผู้บังคับบัญชา ส่วนกลาง หรือผู้รับเหมา และขั้นสุดท้ายคือเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่เป็นผู้ปฏิบัติงาน ดังนั้นจะดูว่ากลุ่มไหนทำตามหน้าที่ ถ้าเจ้าหน้าที่ระดับล่างไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรก็ไม่เป็นอะไร
“เราวางแผนการสอบ เรากังวลในเรื่องเกี่ยวกับครูบาอาจารย์มีปัญหา แต่ถ้าเกิดเขาทำตามหน้าที่ถูกต้อง ก็ไม่เป็นไร เราก็ต้องทำตามข้อเท็จจริงกับคนที่ได้รับผลกระทบ” นายปรีชา กล่าว
ส่วนจะแจ้งข้อกล่าวหาได้เลยในการประชุมวันที่ 22 ธันวาคมนี้หรือไม่นั้น นายปรีชา กล่าวว่า คงยังไม่ถึงขั้นนั้น แต่ต้องรอการสอบพยานก่อน นี่เป็นเพียงการแจ้งการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯครบกำหนด 15 วัน เราก็จะมาดูว่าเขาคัดค้านใครบ้างที่เป็นกรรมการไต่สวนฯ ถ้าไม่คัดค้านก็ดำเนินการได้ทันที แต่หากมีการคัดค้านก็จะมาหารือกันว่าจริงตามที่เขาคัดค้านหรือไม่ ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง
นายปรีชา กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 22 ธันวาคมนี้จะนำข้อมูลจากทั้ง ป.ป.ช. จังหวัด และ สตง. มาประกอบกับหลักฐานที่เคยได้มาก่อนหน้านี้จากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) โดยจะระดมกรรมการที่อยู่ในชุดอนุกรรมการไต่สวนฯให้เข้าร่วมประชุมกันโดยพร้อมเพียง ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่าย ป.ป.ช. หรือ สตง. ซึ่งจะหารือในหลักการและแบ่งงานกันทำ มีการตั้งทีมแสวงหาข้อเท็จจริง แบ่งเป็นพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และตอนล่าง หลังจากนั้นก็จะนำประเด็นเข้ามาถกในวงประชุมอีกครั้ง แล้วค่อยไปว่าในรายละเอียดอีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ดีไม่น่าจะล่าช้า เพราะเราพยายามจะทำในส่วนของผู้กระทำผิดหลัก ๆ ก่อน
อ่านประกอบ :
ป.ป.ช.ตั้งอนุฯร่วมสตง.สอบสนามฟุตซอลฉาว-จ่อกล่าวหาอดีตเลขาฯสพฐ.
ป.ป.ช.ลุยสอบ"บิ๊กขรก.-เอกชน" 92 ราย พันปมจัดซื้อสนามฟุตซอลฉาว