พีมูฟจี้รัฐหยุดใช้เเผนเเม่บทป่าไม้เป็นสะพานปล้นที่ดินคนจน
พีมูฟและเครือข่ายออกแถลงการณ์เรียกร้องรัฐบาล สนช. สปช. และกรรมธิการร่างรัฐธรรมนูญยุติปฏิบัติการทวงคืนผืนป่า พร้อมระงับและทบทวนการบังคับใช้แผ่นแม่บท ชี้ยิ่งทำยิ่งสร้างความขัดแย้งมากกว่าจะปรองดอง
17 ธันวาคม 2557 ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) หรือพีมูฟ ร่วมกับเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้ เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง เครือข่ายสลัม 4 ภาค เครือข่ายป่าชุมชนรอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก และเครือข่ายปัญหาที่ดินเทือกเขาบูโด-สุไหงปาดี จัดแถลงข่าว และเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนกรณีการดำเนินการตามแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้การบุกรุกที่ดินของรัฐ และการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มพีมูฟได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 6 รัฐต้องหยุด เข่นฆ่า คุกคาม ชุมชนด้วยแผนแม่บทป่าไม้ ยืนหยัดเพื่อ “สิทธิชุมชน” หยุด “ปล้นที่ดินคนจน”โดยเรียกร้องต่อรัฐบาล สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 4 ข้อดังนี้
1.ยุติปฏิบัติการทั้งหมดที่ส่งผลทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อชีวิต ที่อยู่อาศัย ทรัพย์สิน ของประชาชน และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างยุติธรรม ชะลอการดำเนินกระบวนการทางกฎหมายในคดีความอันเนื่องมาจากการปฏิบัติการตามแผนแม่บท
2.ระงับและทบทวนการบังคับใช้แผนแม่บท และจัดกระบวนการให้ผู้ได้รับผลกระทบมีส่วนร่วมในกระบวนการทบทวนและแก้ไขแผนแม่บท
3.ในระดับนโยบาย ผลักดันให้บัญญัติสิทธิชุมชน รวมทั้งคุ้มครองสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดิน ป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติไว้ในรัฐธรรมนูญ
4.ในเชิงกลไกจะต้องมีการทบทวนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับที่ดิน ป่าไม้ และทรัพยากรธรรมชาติ ปรับปรุงให้มีความทันสมัย และผลักดันกฎหมายที่ส่งเสริม คุ้มครอง การจัดการที่ดินโดยภาคประชาชน ได้แก่ พ.ร.บ.จัดเก็บภาษีที่ดินในอัตราก้าวหน้า พ.ร.บ.จัดตั้งธนาคารที่ดิน และพ.ร.บ.สิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากร
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตัวแทนเครือข่ายแต่ละภูมิภาคต่างเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าคำสั่งประกาศของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 64 และ 66 รวมทั้งแผนแม่บทการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรป่าไม้ การบุกรุกที่ดินรัฐและการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน 2557 เป็นการใช้นโยบายแบบ 2 มาตรฐานซึ่งจะก่อให้เกิดความรุนแรงมากกว่าที่จะมีการปรองดอง ที่สำคัญรัฐต้องให้คุณค่าของคนเท่ากับป่าไม้เพราะคนก็คือทรัพยากรหนึ่งของประเทศ