"ประวิตร" ปัดข่าว "อักษรา" บินมาเลย์แล้ว เผย "จูแว" ในพื้นที่เมินร่วมวงพูดคุย
"ประวิตร-อนุสิษฐ" ประสานเสียงโต้ข่าว "อักษรา" บินไปมาเลย์พบ "ซัมซามิน" แล้ว แถมไม่เคยได้ยินเรื่องตั้งสำนักงานขับเคลื่อนการพูดคุยในไทย แต่ข้อมูลจากทั้งฝั่งไทย-มาเลเซียระบุชัด วงหารือนอกรอบกับผู้อำนวยความสะดวกเปิดแล้ว จ่อดึง 3 กลุ่มร่วมโต๊ะ "บีอาร์เอ็น-พูโล-บีไอพีพี" ปูดนักรบในพื้นที่ไม่เอาด้วย ผวาก่อเหตุรุนแรงโต้
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปฏิเสธข่าวที่ว่าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย พล.อ.อักษรา เกิดผล หัวหน้าคณะฯ เดินทางไปพบกับ ดาโต๊ะ สรี อาหมัด ซัมซามิน ฮาชิม อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกกระบวนการพูดคุยสันติสุขแล้ว ซึ่งเร็วกว่ากำหนดการเดิมที่ระบุว่าจะเดินทางไปมาเลเซียวันที่ 16 ธ.ค. และในการพบปะยังมีการหารือเรื่องการตั้งสำนักงานขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยในประเทศไทย พร้อมคาดหมายว่าจะทำข้อตกลงหยุดยิงได้กลางปี 58
"ไม่เป็นความจริง หยุดยิงเรื่องอะไร ยังไม่ได้ทำอะไรเลย เราไม่ได้คุยให้หยุดยิง แต่เราคุยสันติสุข ทำอย่างไรให้เกิดสันติสุขขึ้น เพราะมันไม่ใช่การรบกัน แต่เป็นการพูดคุยเพื่อปกป้องคนดี ให้คนดีมีอาชีพ เราจะไปรบกับใคร เขาก็ไม่มีกองกำลัง มันเกี่ยวข้องกับความไม่เข้าใจกัน เรามาพูดคุยเพื่อให้เกิดความเข้าใจ" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุขเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่มี ใจเย็นๆ อย่างไรก็ตาม จะเปิดโอกาสให้ทุกกลุ่ม ใครอยากคุยก็เข้ามาคุยเลย
เมื่อซักว่า นายฮัสซัน ตอยิบ แกนนำบีอาร์เอ็น อดีตหัวหน้าคณะพูดคุยสันติภาพฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐ ในการพูดคุยกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ยังเป็นหัวหน้าคณะอยู่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า "ผมไม่รู้ว่าเป็นใคร มันเป็นเรื่องของคณะพูดคุย ซึ่งคณะพูดคุยยังไม่รู้เลยว่าเป็นใครบ้าง"
ขณะที่ นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ที่มีข่าวว่าทางมาเลเซีย ในฐานะผู้อำนวยความสะดวกในการพูดคุย ประสานให้มีการตั้งสำนักงานขับเคลื่อนการพูดคุยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ตนไม่ทราบ และไม่รู้ว่าข่าวมาจากไหน เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน
"คาดว่าหลังจากนี้หัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายไทยจะออกแบบการหารือและทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและผู้ที่เห็นต่างที่จะเข้ามาสู่กระบวนการการสร้างความสงบและสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ปกป้องดูแลประชาชนทุกคน แม้แต่ผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ" เลขาธิการ สมช. กล่าว
อนึ่ง แม้ว่าผู้รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงของรัฐบาลจะพากันออกมาปฏิเสธข่าวการเดินทางไปมาเลเซียของ พล.อ.อักษรา และคณะซึ่งยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะพูดคุยเต็มคณะอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งได้พบกับดาโต๊ะซัมซามินก็ตาม ทว่าแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาล และแหล่งจากจากมาเลเซียยืนยันตรงกันว่าคณะของ พล.อ.อักษรา เดินทางไปมาเลเซียแล้วจริง
ทั้งนี้ นอกจากการหารือถึงการยกร่างทีโออาร์ หรือร่างกำหนดขอบเขตและภารกิจของฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังมีการสอบถามความคืบหน้าการประสานกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่จะเข้าร่วมโต๊ะพูดคุยแล้ว โดยทางมาเลเซียแจ้งว่าประกอบด้วย กลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นระดับอาวุโสและเคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศไทยเป็นหลัก, กลุ่มพูโล ซึ่งแตกออกเป็นหลายกลุ่มหลายพวก ขณะนี้ทางมาเลเซียพยายามกดดันให้แต่ละกลุ่มหารือกันและส่งตัวแทนเข้าร่วมโต๊ะพูดคุยอย่างเป็นเอกภาพ
และสุดท้ายคือกลุ่มบีไอพีพี ซึ่งมีแกนหลักคือ ดร.กามาลุดดิน ในฐานะผู้ประสานงานของกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐที่เคลื่อนไหวอยู่นอกประเทศไทย
อย่างไรก็ดี มีรายงานทั้งจากฝั่งไทยและมาเลเซียตรงกันว่า กลุ่มบีอาร์เอ็นที่เป็นนักรบอยู่ในพื้นที่ ซึ่งเรียกตนเองว่า "จูแว" นั้น ยังไม่เห็นด้วยกับโต๊ะพูดคุยสันติสุขดังกล่าว เนื่องจากท่าทีของรัฐบาล คสช. (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ค่อนข้างแข็งกร้าวกับการเคลื่อนไหวและข้อเรียกร้องของพวกตน เช่น จะไม่คุยเรื่องเขตปกครองพิเศษ เป็นต้น
จากสถานการณ์ดังกล่าว ได้สร้างความกังวลให้กับประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตชุมชนเมือง เพราะคาดหมายกันว่าน่าจะมีปฏิบัติการก่อเหตุรุนแรงขนาดใหญ่ในพื้นที่เขตเมืองเพื่อแสดงการตอบโต้โต๊ะพูดคุยในเร็ววันนี้
สำหรับภารกิจของ พล.อ.ประวิตร เมื่อวันศุกร์ที่ 12 ธ.ค. ได้เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง รวมทั้ง พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการและกำชับเรื่องการจัดทำแผนงบประมาณปี 2559 ของจังหวัดชายแดนภาคใต้แบบบูรณาการ โดยต้องจัดลำดับความสำคัญของแผนงานและโครงการที่จะใช้งบของแต่ละพื้นที่ให้ชัดเจน เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด เพื่อให้การทำงานกระชับ รัดกุม และงบประมาณที่ลงไปในพื้นที่ตรงกับความต้องการของประชาชน
นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร) กล่าวว่า ที่ประชุมได้เร่งรัดงบประมาณในส่วนต่างๆ ให้มีการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทุกหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง กรมไหน จะต้องใช้งบประมาณไปในทิศทางเดียวกัน เป็นกรอบเดียวกัน และ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้ประเมินการใช้งบประมาณทุกเดือน อีกทั้งให้หน่วยงานความมั่นคงรายงานเรื่องความมั่นคงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกเดือนด้วย
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
อ่านประกอบ : "อักษรา"บินถก"ซัมซามิน"แล้ว จับตาข้อเสนอตั้งสนง.ขับเคลื่อนพูดคุยในไทย