มาเลย์มองกลุ่มเคลื่อนไหวชายแดนใต้ของไทยเป็นหนึ่งในภัยคุกคาม
รัฐมนตรีมหาดไทยมาเลเซีย ระบุ นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัก ได้เสนอรายงานปกขาวต่อรัฐสภา เกี่ยวกับมาตรการที่จะใช้ต่อสู้และป้องกันการก่อการร้าย
นายอาห์หมัด ซาอิด ฮามิดิ รัฐมนตรีมหาดไทยของมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคามอย่างต่อเนื่อง จากการที่กลุ่มเคลื่อนไหวในประเทศได้ร่วมมือกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางตอนใต้ของไทย ฟิลิปปินส์ และจากพื้นที่ต่างๆ ในภูมิภาค ทำให้เกิดความวิตกว่าภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในมาเลเซียจะเพิ่มสูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่งแล้ว เพราะการที่กลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นกับต่างชาติสามารถติดต่อสื่อสารระหว่างกันผ่านทางโซเชียลมีเดีย ทำให้มีการหาทุนเพื่อสนับสนุนกิจกรรมก่อการร้ายได้จำนวนมาก
รายงานปกขาวที่นายนาจิบเสนอต่อรัฐสภานั้น เป็นการให้รายละเอียดเกี่ยวกับภัยคุกคามอันแท้จริงที่กลุ่มก่อการร้ายอย่างกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส และกลุ่มอื่นๆ ในภูมิภาคมีต่อมาเลเซีย
นายอาห์หมัด ระบุด้วยว่า กองกำลังติดอาวุธเหล่านี้ไม่เพียงแต่พยายามหาสมาชิกใหม่เท่านั้น แต่ยังพยายามทำให้องค์กรของตัวเองมีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งในรายงานปกขาวได้มีการเสนอมาตรการเพื่อต่อสู้และป้องกันการก่อการร้ายดังกล่าวด้วย
"ภัยคุกคามนี้เป็นเรื่องจริง และเราหวังว่ารายงานฉบับนี้จะทำให้เกิดการตระหนักถึงภัยนี้มากขึ้นทั้งในฝั่งของการเมือง และชาวมาเลเซียทั่วไป" นายอาห์หมัดระบุ และว่า ประชาชนควรจะตื่นตัวในเรื่องนี้ และควรมีการวางมาตรการป้องกันล่วงหน้า
รายงานฉบับดังกล่าวยังพูดถึงเรื่องที่มีชาวมาเลเซียเข้าไปเกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย และความจำเป็นที่จะต้องมีการปรับปรุงกฎหมายฉบับปัจจุบัน หรือออกกฎหมายฉบับใหม่เพื่อต่อสู้กับการก่อการร้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางกระทรวงมหาดไทยกำลังพิจารณาอยู่
"เราจะทำทั้งการปรับปรุงกฎหมายที่มีอยู่ 7 ฉบับให้เข้มแข็งขึ้น ผ่านการแก้ไขมาตรการต่างๆ หรือเสนอให้มีการออกกฎหมายต่อต้านก่อการร้ายฉบับใหม่เพื่อเป็นมาตรการป้องกัน" นายอาห์หมัด ระบุ พร้อมเสริมว่า ความมั่นคงของประเทศตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคาม เพราะกลุ่มไอเอสดัดแปลงคำสอนของศาสนาอิสลามเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของกลุ่มที่ต้องการใช้กำลังโค่นล้มรัฐบาลประชาธิปไตย และก่อตั้งรัฐอิสลามขึ้นมา ทั้งยังไม่ลังเลที่จะสังหารทุกคนที่ไม่เห็นพ้องกับเป้าหมายของกลุ่ม แม้คนคนนั้นจะเป็นชาวมุสลิมเหมือนกันก็ตาม
นายอาห์หมัด ซึ่งเป็นรองประธานพรรคอัมโน พรรครัฐบาลของมาเลเซีย ยังแสดงความหวังว่า ทุกฝ่ายในสภาจะได้อภิปรายรายงานปกขาวตามเนื้อหาที่เป็นจริง โดยย้ำว่า สิ่งสำคัญสำหรับมาเลเซีย คือ ต้องร่วมมือกันเพื่อประโยชน์ของประเทศ
อนึ่ง ข้อมูลจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย ระบุว่า มีชาวมาเลเซียราว 100 คนที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายก่อการร้ายต่างๆ รวมถึง 39 คนที่เชื่อว่าร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มติดอาวุธในซีเรียและอิรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มไอเอส โดยในจำนวนนี้มีอยู่ 5 คนที่เดินทางกลับมาเลเซียแล้ว ซึ่ง 3 คนถูกจับกุม ส่วนอีก 2 คนยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน
อย่างไรก็ดี ทางการมาเลเซียมีความวิตกว่าตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นหากไม่มีการวางมาตรการป้องกันในเรื่องนี้ ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่ทางการมาเลเซียดำเนินการ คือ การจับตาความเคลื่อนไหวในสื่อสังคมออนไลน์ของทั้งฝ่ายที่ทำหน้าที่ชักจูงชาวมาเลเซียเข้าร่วมอุดมการณ์ และเครือข่ายการะดมทุน หาเงินบริจาคสำหรับการเคลื่อนไหว
นายอาห์หมัด ยืนยันในการให้สัมภาษณ์คราวเดียวกันว่า มาเลเซียไม่ได้ถูกใช้เป็นฐานสำหรับการก่อเหตุหรือฝึกนักรบของเครือข่ายก่อการร้าย เพราะทางการได้จับตาความเคลื่อนไหวเหล่านี้อย่างเข้มงวด
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพแผนที่มาเลเซียจากเว็บไซต์ http://www.teachaway.com/teaching-jobs-malaysia
* กันยาภรณ์ เผือกวิสุทธิ์ เป็นบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ NOW TV26