ป.ป.ช.ตั้งอนุฯร่วมสตง.สอบสนามฟุตซอลฉาว-จ่อกล่าวหาอดีตเลขาฯสพฐ.
ป.ป.ช. ตั้ง “ประสาท-ปรีชา” อนุฯไต่สวนร่วม สตง. สอบข้อเท็จจริงปมจัดซื้อสนามฟุตซอลฉาว 3 จังหวัดอีสาน 277 ล้าน โยงกลุ่มการเมือง จ่อแจ้งข้อกล่าวหาอดีตเลขาฯสพฐ.-ผอ.สำนักงานเขตประถม-มัธยม-ผอ.ร.ร.
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเกี่ยวกับกรณีเรื่องกล่าวหาร้องเรียนกรณีทุจริตในการก่อสร้างสนามฟุตซอลของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ส่งเรื่องให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการ ซึ่งเรื่องดังกล่าวปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชน ดังนั้นคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้สั่งการให้สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัด แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานนั้น
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า สำหรับเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นเรื่องที่มีพยานหลักฐานเชื่อมโยงตามพฤติการณ์ที่ถูกกล่าวหา และมีมูลเพียงพอต่อการไต่สวนข้อเท็จจริง จึงมีมติแต่งตั้งนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. และนายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นคณะอนุกรรมการไต่สวน เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค รวมทั้งตัวแทนของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ร่วมเป็นองค์คณะอนุกรรมการไต่สวน จึงถือเป็นมิติใหม่ในความร่วมมือขององค์กรอิสระระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. และ สตง. ในการไต่สวนเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้จะมีการแจ้งคำสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาที่เกี่ยวข้องได้รับทราบต่อไป ประกอบด้วย อดีตเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา รวมทั้งผู้อำนวยการโรงเรียนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าว โดยจะแบ่งการทำงานเป็นคณะย่อยเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงในภูมิภาค หรือจังหวัดที่เกิดเหตุ เพื่อความรวดเร็ว ถ้าหากพบว่ามีจังหวัดอื่นที่ส่อไปในทางทุจริตในการก่อสร้างสนามฟุตซอล ก็จะดำเนินการไต่สวนเพื่อขยายผลต่อไป
ส่วนเขตพื้นที่ภาคเหนือและภาคอื่นทีเกี่ยวข้อง ได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพิ่มเติมแล้วนำเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ปรากฏว่า ในเขตพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2555 ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในจังหวัดต่าง ๆ โดยในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 3 จังหวัด ประกอบด้วย นครราชสีมา มุกดาหาร และอำนาจเจริญ รวม 76 แห่ง เป็นเงินจำนวน 277.5 ล้านบาท โดยงบประมาณดังกล่าวได้มาจากการแปรญัตติของ ส.ส. ที่ระบุเป็นค่าก่อสร้าง-ปรับปรุง ซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมที่ประสบอุบัติภัย แต่การดำเนินการได้นำไปก่อสร้างสนามฟุตซอล โดยเจาะจงส่งงบประมาณไปในจังหวัดข้างต้นที่กลุ่มการเมืองต้องการ
การดำเนินการดังกล่าว พบว่า มีกลุ่มการเมืองไปติดต่อสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา หรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ให้นำงบประมาณไปก่อสร้างตามโรงเรียนที่กำหนด โดยกำหนดให้ดำเนินการตามแนวทางการจัดซื้อจัดจ้าง การประกวดราคา การกำหนดราคากลาง รวมทั้งร่างบันทึกการกำหนดขอบเขตงาน (TOR) เป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อต้องการให้บริษัทห้างร้านของกลุ่มการเมืองดังกล่าวเป็นผู้ได้รับงาน ซึ่งการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างมีข้อพิรุธโดยมีผู้ยื่นเสนอราคาเป็นกลุ่มเดียวกัน จึงเป็นการส่อแสดงว่ามีการสมยอมราคา รวมทั้งการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน โดยพื้นคอนกรีตไม่ถูกต้องตามคุณลักษณะเฉพาะ และนำวัสดุแผ่นยางสังเคราะห์สำหรับสนามในร่มมาใช้ในสนามกลางแจ้ง จึงทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ และไม่มีความทนทาน เป็นการใช้วัสดุผิดประเภท เพื่อเป็นการลดต้นทุนในการก่อสร้าง
อ่านประกอบ :
เจาะสนามฟุตซอลอาชีวะฯ66 แห่ง128 ล.บ.อดีตกุนซือรมต. กวาดเรียบ
บ.เก่าผู้ช่วย รมต.เก็บเรียบสนามฟุตซอลหน่วยงานรัฐ 344 สัญญา 1,124 ล.
ผ่ารับเหมาฟุตซอล อบจ.อุบลฯ กลุ่มบริษัทเก่ากุนซือรมต. 69.5 ล้าน
เปิดครบ 21 บริษัทรับเหมาสนามฟุตซอล สพฐ. ภาคเหนือ-อีสาน 16 จังหวัด
โผล่ 2 แห่ง!สนามฟุตซอล จ.นครปฐม 4.7 ล้าน “ผู้ถือหุ้น”ชุดเดียวกัน
ข้อมูลใหม่!อีก 6 บริษัทฟันรับเหมาสนามฟุตซอล-สตรีทซอคเกอร์ 4 จว.อีสาน
หมายเหตุ : ภาพประกอบสนามฟุตซอลจาก ASTVmanager