"สมยศ" ลั่นใหญ่แค่ไหนก็ต้องจับ-โชว์ทรัพย์สิน "พงศ์พัฒน์-พวก” ซุก2พันล.
สตช. แถลงตรวจค้นบ้าน “พงศ์พัฒน์-โกวิทย์-อัครวุฒิ์” พบทรัพย์สินรวม 2 พันล. ยัน “อัครวุฒิ์”ฆ่าตัวตาย ชงผลชันสูตรให้อัยการแล้ว บอกรายละเอียดไม่ได้ “สมยศ” ลั่นพร้อมยกเครื่อง บช.ก. ใหม่ จ่อจับผู้ร่วมอีก บอกข้อมูลเชิงลึกไม่ได้ อยู่ระหว่างกระบวนการยุติธรรม "ใหญ่แค่ไหนก็ต้องจับ"
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มีการแถลงข่าวกรณีการดำเนินคดีกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กับพวก นำโดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมทั้งนายตำรวจระดับสูงเป็นผู้แถลง
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก สตช. กล่าวว่า สตช. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวก ประพฤติตนไม่เหมาะสม แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบหลายประการ จึงได้สืบสวนทางลับ พบว่า มีมูล ดังนั้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557 จึงได้ออกคำสั่งให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรอง ผบช.ก. มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. ต่อมา เมื่อทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพอมีมูลเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง
พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวอีกว่า ผบ.ตร. ได้รายงานให้รัฐบาลรับทราบ และรัฐบาลได้มีคำสั่งให้สนธิกำลังร่วมกับฝ่ายทหาร โดย ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้กองทัพภาคที่ 1 จัดหน่วยเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ และได้ทำการตรวจค้นสถานที่ที่สืบสวนแล้วพบว่า มีความเกี่ยวข้องกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และเครือข่ายจำนวน 15 แห่ง ตรวจยึดทรัพย์สินที่สามารถประเมินราคาได้มูลค่าประมาณ 2 พันล้านบาท ก่อนที่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2557 พนักงานสอบสวนได้ยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญาและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับมอบตัว พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กับพวกรวม 10 คน หลังจากนั้นในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2557 ได้ขอหมายจับเพิ่มอีก 2 คน
ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เบื้องต้นเรียนว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เปราะบางมาก จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกได้ คำถามใดอยากทราบแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างกระบวนการยุติธรรม ส่วนคำถามใด ๆ ที่ตอบเองได้ก็จะเป็นผู้ตอบ หรือให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจง โดยหลักฐานที่นำมาแสดงนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งนำมาแถลงได้ในวันนี้ ยังมีหลักฐานบางส่วนที่เรายังหาไม่เจอ และเราไม่สามารถนำเสนอในรายละเอียดได้
“แต่ส่วนที่ยังไม่ได้นำมานั้น จากการตรวจสอบมีการเกี่ยวพันกับบุคคลอื่นอีก ซึ่งมีทั้งตำรวจระดับสูง และอาจมีการแจ้งจับกุมเพิ่มเติม อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่าการแถลงข่าวในวันนี้มีข้อจำกัดจริง ๆ” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่ระบุว่า พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และ พล.ต.ต.โกวิทย์ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้น ทำอย่างไร พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการแอบอ้างเบื้องสูง นำไปสู่การหาผลประโยชน์ แต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจ รวมถึงการเปิดบ่อนการพนัน และค้าน้ำมันเถื่อน ส่วนกรณีที่มีการบุกรุกพื้นที่ป่านั้น เป็นพื้นที่ในส่วน จ.ราชบุรี มีการทำธุรกิจ ซึ่งเชื่อได้ว่ามีการเชื่อมโยงกับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ หลิมรัตน์ อดีตผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม นั้น พล.ต.ต.วิสูตร ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557 พนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้รับแจ้งเหตุว่า พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ หลังจากนั้นได้มีการตรวจชันสูตรศพ และรวบรวมพยานหลักฐาน พยานสถานที่เป็นที่เรียบร้อย สรุปได้ว่า พ.ต.อ.อัครวุฒิ์ เสียชีวิตผิดธรรมชาติ เป็นการฆ่าตัวตาย และไม่เกี่ยวกับการทำผิดทางอาญา ซึ่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ได้ส่งผลชันสูตรศพให้กับอัยการเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา แต่รายละเอียดอื่นไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากจะเป็นการก้าวล่วงอำนาจของอัยการ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีดังกล่าวมีการกระทำมานานแค่ไหนแล้ว และเหตุใดถึงไม่ระแคะระคายถึงผู้บังคับบัญชา พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ที่ถามว่าทำมานานแล้วหรือไม่ ก็คงทำมานานแล้ว ส่วนในอดีตผู้บัญชาการจะทราบหรือไม่ ไม่ทราบ แต่ยุคสมัยของตนจะไม่ยอมปล่อยให้เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น พร้อมจะเปลี่ยนแปลงวางมาตรฐานใหม่ให้กองบัญชาการสอบสวนกลาง
"ส่วนผู้เกี่ยวข้องเป็นใครถ้ามีหลักฐานไปถึง ใหญ่แค่ไหนก็ต้องจับ" พล.ต.อ.สมยศ ระบุ