6 องค์กรภาคปชช. ผนึกต้าน"ทหาร" หยุดคุกคามเสรีภาพ "สื่อ"กรณี"ณาตยา"
"...สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) เห็นว่าการใช้อำนาจของนายทหารกลุ่มดังกล่าวที่ปรากฎตามข้อเท็จจริงในข้างต้นนั้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของสื่อสารมวลชนและละเมิดสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญในระบอบประชาธิปไตย .."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : ภายหลังจากที่มีข่าวว่านายทหารกลุ่มหนึ่ง นำโดยพันเอกชื่อย่อ "ส." เดินทางมาพบผู้บริหารไทยพีบีเอส ขอให้ยุติการนำเสนอรายการ “เสียงประชาชนต้องฟังก่อนปฏิรูป” หลังไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ดำเนินรายการคือ น.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ ในการอัดเทปรายการ “ฟังเสียงคนใต้ก่อนการปฏิรูป” ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และมีการออกอากาศเมื่อวันที่ 8 พ.ย.2557 ที่ผ่านมา
ส่งผลทำให้ น.ส.ณาตยา แวววีรคุปต์ ตัดสินใจถอนตัวไม่ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการดังกล่าวอีกต่อไปนั้น
(อ่านประกอบ : "พันเอก"อ้างคำสั่ง"นาย"ตบเท้าบีบThaiPBSถอด "ณาตยา-รายการเสียงปชช." )
ล่าสุด สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน Human Rights Lawyers Association พร้อมด้วยมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ,สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ,มูลนิธินิติธรรมสิ่งแวดล้อม ,มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา และศูนย์ข้อมูลชุมชน ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องขอให้หยุดการกระทำอันเป็นการคุกคามเสรีภาพของสื่อมวลชน
ระบุว่า ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวอิศรา เมื่อวันที่11พ.ย.2557 ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มหนึ่ง เดินทางเข้าพบผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ขอร้องให้สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ยุติการเผยแพร่รายการ “เสียงประชาชนต้องฟังก่อนปฎิรูป” เนื่องจากรายการดังกล่าวมีเนื้อหาการพาดพิงการรัฐประหาร ซึ่ง ต่อมาผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสได้ออกคำสั่งเปลี่ยนแปลงรูปแบบการนำเสนอรายการใหม่ ให้เหลือแค่การนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของข่าวแทน และไม่มีผู้ดำเนินรายการเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) เห็นว่าการใช้อำนาจของนายทหารกลุ่มดังกล่าวที่ปรากฎตามข้อเท็จจริงในข้างต้นนั้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของสื่อสารมวลชนและละเมิดสิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
ประการแรก การใช้อำนาจหน้าที่กดดันสื่อมวลชนไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อให้นำเสนอข้อมูลข่าวสารไปในทิศทางที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องการ เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนตามกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง ข้อ๑๙ ระบุว่าประชาชนมีเสรีภาพแสวงหา รับและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างอิสระ การที่ทหารห้ามมิให้สื่อมวลชนนำเสนอรายการจึงเป็นการละเมิดเสรีภาพในการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงและไม่อาจยอบรับได้
ประการที่สอง สื่อมวลชนมีหน้าที่และเสรีภาพในการนำเสนอข่าวสารต่อประชาชน ตามหลักการสากลว่าด้วยจริยธรรมทางวิชาชีพของสื่อมวลชน (International Principles of Professional Ethics in Journalism) ในการให้ประชาชนรู้ความจริง ทำงานอย่างซื่อสัตย์เพื่อรักษาและรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อสร้างสังคมที่เป็นธรรมผ่านการเผยแพร่ข่าวสารในสังคม
สมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน (สนส.) และ องค์กรข้างท้ายนี้ จึงขอเรียกร้อง ดังต่อไปนี้
ประการแรก ขอให้เจ้าหน้าที่ทหารยุติการอ้างกฎอัยการศึกเพื่อกระทำการละเมิดสิทธิเสรีภาพของสื่อสารมวลชน โดยให้สื่อมวลชนสามารถเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างเสรีตามมาตรฐานวิชาชีพเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างอิสระ
ประการที่สอง ขอให้ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสและองค์กรวิชาชีพสื่อสารมวลชนแสดงความกล้าหาญทางจริยธรรมในการปกป้องเสรีภาพของสื่อมวลชนและสิทธิการรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน
ประการที่สาม ให้สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เป็นสื่อสารมวลชนสาธารณะที่เปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้าถึงและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศ ซึ่งเป็นหน้าที่ของพลเมืองในฐานะเจ้าของประเทศในการร่วมกำหนดวิถีชีวิตที่จะอยู่ร่วมกันของสังคมไทย
ด้วยความเคารพในสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์