วิกฤตทะเลไทย! อ๊อกแฟม ชี้สัตว์น้ำวางขายท้องตลาดเต็มไปด้วยฟอร์มาลีน
ชาวประมงพื้นบ้านเผยสถานการณ์ทะเลไทยย่ำแย่ ถูกทำลายล้างจากเรือพาณิชย์ ค้านรัฐสั่งงดจับสัตว์น้ำฤดูวางไข่ ผู้ประสานงานฯ อ๊อกแฟม ชี้สัตว์น้ำวางขายท้องตลาดเต็มไปด้วยฟอร์มาลีน
วันที่ 14 พฤศจิกายน 2557 สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงานแถลงข่าว เทศกาลรวมพลคนกินปลา ตอน ‘เรือเล็กในทะเลใหญ่’ ณ โรงแรม Mystic Place กรุงเทพฯ
นายปิยะ เทศแย้ม สมาคมสมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์ประมงในทะเลไทยว่า ชาวประมงรุ่นใหม่ถูกปลูกฝังแนวคิดเกี่ยวกับการทำประมงแบบเน้นผลประโยชน์สูงสุด โดยใช้เครื่องมือทำลายล้าง ได้แก่ อวนลาก อวนรุน และอวนล้อมจับ สร้างความเสียหายแก่ทรัพยากรในทะเล เพราะสัตว์น้ำขนาดเล็ก ปะการัง หรือกัลปังหา ล้วนติดอวนขึ้นมาด้วย
ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านจะตั้งเป้าหมายจับชนิดสัตว์น้ำในแต่ละวัน โดยวันนี้อาจเลือกจับปูม้า อีกวันเลือกจับปลากะพง และไม่ใช้เครื่องมือทำลายล้างดังเช่นเรือประมงพาณิชย์ ที่สำคัญ เครื่องมือพื้นบ้านอิงกับธรรมชาติเป็นหลัก หมายความว่า หากน้ำไม่ไหลจะจับสัตว์น้ำไม่ได้
“ทรัพยากรทางทะเลลดลงเกิดจากพื้นฐานความรู้ของชาวประมงที่ถูกปลูกฝังจากกรมประมงให้ได้มาซึ่งรายได้ เพื่อหวังปริมาณการเติบโตของจีดีพีประเทศ และให้ไทยขึ้นชื่อเป็นประเทศส่งออกติด 1 ใน 10 ของโลก” ผู้แทนสมาคมสมาพันธ์ชาวประมงฯ กล่าว และว่า ทั้งหมดเกิดจากแนวคิดของกรมประมงส่งเสริมการจับสัตว์น้ำเน้นปริมาณ ทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดมาก เพราะเรือประมงพาณิชย์ใช้วิธีการแบบล้างผลาญ ใครคัดค้านอาจเจ็บตัวได้
นายปิยะ ยังกล่าวไม่เห็นด้วยกับการห้ามจับปลาในฤดูวางไข่ เพราะปลาโตเต็มวัยต้องจับได้ แต่สิ่งที่ควรอนุรักษ์มากกว่า คือ ลูกปลา เพราะกว่าที่ปลาจะโตเต็มวัยจะสามารถวางไข่ได้หลายช่วง ดังนั้นนโยบายดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง และเมื่อมองโดยรวมว่า กรมประมงขาดประสิทธิภาพในการทำงาน วิสัยทัศน์ย่ำแย่ และขาดการบริหารจัดการคอร์รัปชัน โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายล้าหลัง
ด้านนายจิรศักดิ์ มีฤทธิ์ สมาคมประมงพื้นบ้าน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ประกอบอาชีพประมงในอ่าวประจวบคีรีขันธ์ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เมื่อก่อนเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์ เพียงแจวเรือออกไปนอกชายฝั่งก็ได้ปลากลับมา หากปัจจุบันสถานการณ์ในพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะมีเรือประมงพาณิชย์ใช้เครื่องมือทุ่นแรงชนิดทำลายล้าง ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านถูกตัดตอนและสัตว์น้ำขาดการสืบพันธุ์
ด้วยความกังวลจึงรวมตัวกันในชุมชนอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล เพราะหากจ้องจับอย่างเดียวรับรองจะต้องสูญพันธุ์แน่ ดังนั้นการตั้งกฎกติกาภายในชุมชนไม่ให้ใช้อวนตาถี่จึงเป็นทางออก และเมื่อจับสัตว์น้ำมีไข่ ยกตัวอย่าง ปูม้า จะนำมาใส่ไว้ในกระชัง เพื่อให้เขี่ยไข่ขยายพันธุ์ต่อ โดยปูม้า 1 ตัว สามารถขยายพันธุ์ได้สูงถึง 4 แสนตัว ซึ่งอดีตเคยหายไปจากอ่าวประจวบฯ ครั้งหนึ่งแล้ว
ขณะที่น.ส.เสาวลักษณ์ ประทุมทอง ผู้จัดการร้านคนจับปลา ระบุถึงทางออกของชาวประมงไม่ต้องพึ่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ว่า ที่ผ่านมาจับสัตว์น้ำในปริมาณมากเกินไป สมาคมรักษ์ทะเลไทยจึงเข้ามาสร้างความเข้าใจแก่ชาวประมงในพื้นที่ จ.ประจวบฯ เพื่อสร้างความยั่งยืนในการทำประมง แต่การฟื้นฟูทรัพยากรอย่างเดียวไม่ได้ผล เพราะปัญหาส่วนหนึ่งอยู่ที่พ่อค้าคนกลางเอาเปรียบผู้บริโภคไม่ให้กินอาหารปลอดภัยและมีคุณภาพ
สุดท้าย ชาวประมงในพื้นที่ ร่วมกับผู้บริโภค สมาคมรักษ์ทะเลไทย และสมาคมสมาพันธ์ประมงพื้นบ้านฯ ตั้งกลุ่มจัดการดูแลผลผลิตร่วมกัน เพื่อสร้างความตระหนักในการจับและรับประทานสัตว์น้ำอย่างรับผิดชอบ ซึ่งกระบวนการของร้านคนจับปลาทั้งหมดไม่มีการใส่สารเคมีใด ๆ จนกระทั่งถึงมือผู้บริโภค
สุดท้าย นายจักรชัย โฉมทองดี ผู้ประสานงานด้านการรณรงค์และนโยบาย องค์การอ็อกแฟม ประเทศไทย กล่าวถึงการไม่มีระบบรับประกันสารเคมีปนเปื้อนในสัตว์น้ำว่า ที่ผ่านมามีงานวิจัยหลายชิ้นที่สุ่มตัวสัตว์น้ำวางจำหน่ายตามท้องตลาด ยืนยันมีสารฟอร์มาลีนปนเปื้อนจริง ซึ่งเกิดจากการไม่มีระบบรับประกัน ทำให้ผู้บริโภคมีโอกาสเสี่ยง และเมื่อศึกษาในเชิงประจักษ์ ตั้งแต่สัตว์น้ำถูกถ่ายออกจากเรือของชาวประมงพื้นบ้านก็จะเริ่มมีการปนเปื้อนตลอดทาง แม้กระทั่งน้ำแข็งแช่สัตว์น้ำยังใช้สารเคมีเลย
"ทะเลไทยเคยอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในโลก แต่ขณะนี้กลับเหมือนทะเลร้าง ปลาตัวใหญ่ในซุปเปอร์มาเก็ตที่เห็นแทบไม่ได้มาจากทะเลไทย โดยจากสถิติเมื่อปี 2504 ชาวประมงเคยจับสัตว์น้ำได้ 297.6 กก./ชั่วโมง ทว่า ในปี 2553 กลับลดเหลือเพียง 17.8 กก./ชั่วโมง" ผู้ประสานงานฯ อ๊อกเเฟม กล่าว
สำหรับสถิติการประมงพบว่า ปี 2554 มีการจับสัตว์น้ำจากทะเลทั้งหมด 1,610,418 ตัน ในจำนวนนี้มีสัตว์น้ำที่ถูกจับด้วยเรือใช้อวนลาก อวนรุน และอวนล้อมจับ มากถึง 1,325,938 ตัน หรือร้อยละ 82.33 ของการจับสัตว์น้ำทั้งหมด จึงเป็นสาเหตุสำคัญในสัตว์น้ำในทะเลไทยลดลง
งานเทศกาลรวมพลคนกินปลา ตอน เรือเล็กในทะเลใหญ่ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 พฤศจิกายน 2557 ณ สวนสันติชัยปราการ กรุงเทพฯ เวลา 11.00-19.00 น. ในงานพบกับเรือประมงตามลักษณะภูมินิเวศต่าง ๆ เช่น เรือกอและ เรือหัวโทง เรือพรี๊ด เป็นต้น สัมผัสกับวิถีชุมชนทะเล เชิญชิมอาหารปลอดภัย ดูอย่างไรไร้ฟอร์มาลีน และสนุกกับการแข่งขันเกมจุ๊บหอย เกมแคะหอยชักตีน .