"อส.ฮากิม"กลับบันนังสตา-ยิงสู้คนร้ายถล่มป้อมชรบ. เผยเตรียมสมัครผู้ใหญ่บ้าน
เหตุรุนแรงที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ซึ่งมีคนร้ายหลายคนขว้างระเบิดและใช้อาวุธสงครามยิงถล่มป้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) บ้านบันนังสาเรง หมู่ 4 ต.บันนังสตา เมื่อเวลา 02.30 น.ของวันอังคารที่ 11 พ.ย.57 นั้น คงไม่ใช่ข่าวเกรียวกราวมากมายนักหากผู้ที่อยู่ในป้อมและใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้กลุ่มคนร้ายจนล่าถอยไปไม่ใช่ อับดุลฮากิม ดาราเซะ
อับดุลฮากิม อายุ 26 ปี หรือที่รู้จักกันในนาม "อส.ฮากิม" อยู่บ้านเลขที่ 258 บ้านบันนังสาเรง หมู่เดียวกับที่ป้อม ชรบ.ถูกโจมตี
เหตุร้ายไม่คาดฝันเกิดขึ้นขณะที่ อับดุลฮากิม อยู่ในป้อมเพียงลำพัง โดยคนร้ายใช้ระเบิดขว้างเปิดทาง ก่อนระดมยิงอาวุธปืนสงครามใส่แบบไม่ยั้ง อส.ฮากิม จึงใช้อาวุธปืนอาก้ายิงตอบโต้จนคนร้ายล่าถอยไป โดยเขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ขณะที่หลังคาป้อม ชรบ.พังเสียหาย
ป้อมแห่งนี้ปกติมี ชรบ.ประจำการอยู่ 8 คน แต่ขณะเกิดเหตุ ชรบ.หลายคนแยกย้ายกันกลับบ้าน บ้างก็ไปอาบน้ำ บ้างก็ไปพักผ่อน เหลือแต่ อับดุลฮากิม คนเดียว
อส.ฮากิม หลบออกจากบันนังสตาบ้านเกิด แล้วไปพำนักเงียบๆ อยู่ที่ อ.เมืองยะลา กับสถานที่อื่นๆ นานหลายเดือน หลังจากที่บิดา มารดา และหลานสาววัยเพียง 2 ขวบของเขาถูกคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มจนเสียชีวิตทั้งคันรถขณะเดินทงด้วยรถกระบะกลับบ้าน เหตุเกิดเมื่อ 20 เม.ย.57
ก่อนหน้านั้น ชื่อของ อส.ฮากิม ปรากฏเป็นข่าวหลายครั้งหลังเกิดเหตุรุนแรงในหลายพื้นที่ของ จ.ยะลา ช่วงเดือน มี.ค.ถึง เม.ย.57 เพราะผู้ก่อเหตุได้ทิ้งใบปลิวเอาไว้ เขียนข้อความคล้ายๆ กันว่า "เป็นการแก้แค้นตอบโต้ที่รัฐปล่อยให้ อส.ฮากิม ระรานชาวบ้าน" คล้ายส่งสัญญาณเป็นนัยว่า เหตุรุนแรงหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งใน อ.บันนังสตา โดยเฉพาะที่บ้านบันนังกูแว และมีผู้สูญเสียเป็นพี่น้องมุสลิมนั้น เป็นการกระทำของ อส.ฮากิม
โดยที่บ้านบันนังกูแวก็เป็นบ้านเกิดของเขาเอง!
อย่างไรก็ดี ในอีกด้านหนึ่ง อส.ฮากิม เองก็เป็นฝ่ายถูกกระทำเช่นกัน แต่ไม่ค่อยมีข่าวหรือมีใครพูดถึง โดยเฉพาะเหตุลอบวางระเบิดหวังสังหารเขากับน้องชายและเพื่อน ขณะขับรถยนต์อยู่ในพื้นที่บ้านบันนังกูแว เมื่อ 16 ก.พ.57 แต่เขารอดชีวิตมาได้
กระทั่ง 20 เม.ย.57 ครอบครัวของ อส.ฮากิม คือ นายดอรอแม ดาราเซะ บิดาวัย 54 ปี นางอาอีเสาะ เฮงดาดา มารดาวัย 49 ปี และ เด็กหญิงนูรอีมาน ดาราเซะ หลานสาววัยเพียง 2 ขวบ ถูกคนร้ายยิงตายคารถทั้ง 3 คน บนถนนสาย 410 ที่เชื่อมระหว่างบันนังสตากับเมืองยะลา
หลังเกิดเหตุเพียง 1 วัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ในขณะนั้น) ได้สั่งการให้ พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 (ในขณะนั้น) เดินทางลงพื้นที่เพื่อแก้ปัญหาข้อขัดแย้งภายในท้องถิ่น และออกมาตรการควบคุมอาวุธปืนทุกประเภท กระทั่งนำมาสู่บทสรุปเบื้องต้นว่า เหตุรุนแรงดังกล่าวเป็นการแก้แค้นกันของ "คนสองตระกูล" ในบันนังสตา
ไม่แน่ชัดว่าเป็นเพราะมาตรการของฝ่ายความมั่นคง หรือเป็นเพราะ อส.ฮากิม ปลีกตัวออกจากอำเภอบ้านเกิดไปอย่างเงียบๆ ที่ทำให้สถานการณ์ในบันนังสตาค่อยๆ ลดระดับความร้อนแรงลง
ต่อมา อส.ฮากิม ยอมให้สัมภาษณ์กับ "ทีมข่าวอิศรา" โดยเปิดอกเล่าถึงเส้นทางชีวิตตั้งแต่ยังเด็กๆ กระทั่งถูกชักชวนเข้าร่วมขบวนการที่อ้างอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดน เคยได้รับการฝึกจนจบหลักสูตรระดับคอมมานโด และปฏิบัติการก่อเหตุรุนแรงหลายครั้ง แต่ภายหลังหันหลังให้ขบวนการ แล้วเปลี่ยนขั้วมาเป็น อส. (อาสารักษาดินแดน) อยู่กับฝ่ายรัฐ จนเกิดความเข้าใจผิดกันกับขบวนการ จึงนำมาสู่การตามล่าฆ่าฟัน (อ่านได้ใน เปิดใจ อส.ฮากิม ตัวตนที่แท้จริง กับปริศนาทำไมถูกไล่ล่า)
เรื่องราวของ อส.ฮากิม เงียบหายไปหลายเดือน ก่อนจะปรากฏเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อค่อนคืนของวันที่ 10 พ.ย.ต่อเนื่อง 11 พ.ย.57 ว่าเขายิงต่อสู้กับคนร้ายที่บุกโจมตีป้อม ชรบ.
อส.ฮากิม ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า ตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บันนังสตาแล้ว และเตรียมจะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านในเดือน ธ.ค.นี้ด้วย เพราะเชื่อว่าคนในหมู่บ้านเกินครึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับเขา เพียงแต่กลัวฝั่งตรงข้าม ฉะนั้นถ้าเขากล้ากลับไปยืนข้างชาวบ้าน ชาวบ้านก็จะกลับมาอยู่ข้างเขา
จริงๆ แล้วประเด็นการกลับไปวัดใจชาวบ้านในพื้นที่ของ อส.ฮากิม เขาเคยพูดไว้เมื่อครั้งที่ให้สัมภาษณ์พิเศษ "ทีมข่าวอิศรา" เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และยังไม่ได้ถูกนำเสนอบนเว็บไซต์
ครั้งนั้น อส.ฮากิม เล่าถึงความผูกพันที่มีต่อบ้านบันนังกูแว ซึ่งเป็นบ้านเกิดว่า "บ้านบันนังกูแวเป็นหมู่บ้านที่เริ่มต้นขึ้่นจากการเข้าไปจับจองพื้นที่ทำกินของคนในตระกูลเฮงดาดา (ตระกูลแม่ของฮากิม) 4 คน คือ ตาของผม และพี่น้องของตา โดยเดินทางมาจากบันนังสาเรง เข้าไปจับจองที่ดินทำสวน จนเริ่มปลูกบ้านอาศัย แล้วขยายจนกลายเป็นหมู่บ้าน"
"ทุกวันนี้ที่ยิงกันตายในหมู่บ้านบันนังกูแว ส่วนใหญ่ก็เป็นญาติกันทั้งนั้น แม้กระทั่งปัญหาความขัดแย้งของตัวผมกับขบวนการ มันก็เกิดจากทางญาติอยู่กับขบวนการ แต่ฝ่ายผมมาเป็น อส.อยู่กับฝ่ายรัฐ นี่เป็นสาเหตุหลักเลย"
อส.ฮากิม บอกอีกว่า จริงๆ แล้วชาวบ้านบันนังกูแวยังสนับสนุนเขากับครอบครัวอยู่มาก
"ชาวบ้านที่ยังดีกับผมและครอบครัวมีอยู่เยอะ แต่พวกเขาไม่กล้าแสดงตัว ผมมั่นใจเลยว่าชาวบ้านในบันนังกูแวกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ มีใจให้กับทางผมและครอบครัว แต่ถูกกดเอาไว้ด้วยความกลัว จึงต้องตามน้ำไปว่าอยู่ข้างพวกเขา (หมายถึงฝ่ายขบวนการ) ส่วนอีก 50 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ แบ่งเป็น 25 เปอร์เซ็นต์แรกถูกบังคับให้เป็นพวกเขา และ 25 เปอร์เซ็นต์สุดท้ายเป็นคนของพวกเขาเลย"
"สาเหตุที่ผมรู้และแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มได้นั้น มาจากเหตุการณ์ที่ผมโดนระเบิดเข้าโรงพยาบาล ชาวบ้านเดินทางมาเยี่ยมเยอะมาก ผมดูจากสีหน้าคนที่มาเยี่ยมก็สัมผัสได้ว่ามีคนที่มาเยี่ยมแบบเป็นห่วงจริงๆ ซึ่งก็จะมาด้วยสีหน้าแบบหนึ่ง แต่คนที่มาเพราะห่วงด้วยและมาหาข่าวผมด้วยก็มี และคนที่ไม่มาเลยก็มี หากรัฐกำจัดฝ่ายขบวนการในหมู่บ้านได้ ชาวบ้านและความสงบสุขทั้งหมดจะกลับมา"
เขาบอกอีกว่า ไม่เพียงแค่หมู่บ้านบันนังกูแวเท่านั้น แต่ทุกพื้นที่ใน อ.บันนังสตา มีคนของฝ่ายขบวนการอยู่ทั้งสิ้น เรียกได้ว่า 1 ต่อ 10 เลยก็ว่าได้ โดย 1 ส่วนอยู่กับรัฐ ที่เหลืออยู่กับฝ่ายขบวนการหมด แม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนก็คือคนของขบวนการ รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่นบางรายในพื้นที่
"เอาง่ายๆ ตอนที่เกิดกรณียิงถล่มโรงพัก ผมยังอยู่ฝั่งเขา (สมัยฮากิมเป็นสมาชิกขบวนการ และปฏิบัติการโจมตีโรงพักบันนังสตา) ข้อมูลทั้งหมดก็ได้จากคนของพวกเขาที่อยู่กับรัฐนี่แหละ มีหมดทุกส่วนราชการ ทั้งอำเภอ โรงพัก โรงพยาบาล อย่างเหตุรองผู้ว่าฯโดนวางระเบิด (หมายถึง นายอิศรา ทองธวัช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ที่ถูกลอบวางระเบิดรถยนต์เสียชีวิตเมื่อ 5 เม.ย.56 ขณะเดินทางไปปฏิบัติราชการที่ อ.เบตง) ทั้งที่ใช้รถส่วนตัว และไม่ได้บอกใครเลยว่าเปลี่ยนรถ หรือจะไปไหนอย่างไร ก็ยังมาโดนวางระเบิดได้"
เมื่อถามว่ารู้สึกท้อหรือไม่ที่ต้องมาเจอเรื่องร้ายๆ หลังเข้ามาทำงานให้กับฝ่ายรัฐ อส.ฮากิม ตอบว่า "ผมไม่เหนื่อย ผมไม่ท้อ ที่ผมมาทำตรงนี้ผมไม่ได้หวังผลประโยชน์อะไร ผมอยากให้บ้านของผมและชาวบ้านในพื้นที่มีความสุข อยากให้บันนังกูแวเป็นเหมือนเดิม ก่อนที่พวกเขา (ขบวนการ) จะเข้ามา"
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 ป้อม ชรบ.ที่ถูกโจมตี
2 หลังคาป้อมชรบ.แตกเสียหายเพราะโดนระเบิด
3 (ซ้าย) ใบปลิวที่เขียนโจมตี อส.ฮากิม ถูกทิ้งไว้หลังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น (ขวา) รถของครอบครัว อส.ฮากิม ถูกยิงถล่มจนเสียชีวิตทั้งคัน
ขอบคุณ : ภาพ 1-2 โดยเจ้าหน้าที่ชุดตรวจจุดเกิดเหตุ
อ่านประกอบ :
1 เปิดใจ อส.ฮากิม ตัวตนที่แท้จริง กับปริศนาทำไมถูกไล่ล่า
2 ดักบึ้มรถรองผู้ว่าฯยะลาดับพร้อมปลัดป้องกัน พลขับสาหัส