ป.ป.ช.แจงคดีปรส.ส่งอสส.ฟ้องศาลแล้ว 1 นอกนั้นยกหลัง“พร้อมพงศ์-พท.”ถาม
“…อสส. ได้ยื่นฟ้องนายมนตรี เจนวิทย์การ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ทั้งสองคดีแล้ว เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลปัจจุบันจึงไม่มีคดีกล่าวหาคณะกรรมการ ปรส. หรือผู้บริหาร ปรส. อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. อีกแต่อย่างใด…”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เป็นเอกสารชี้แจงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในคดีเกี่ยวกับองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ภายหลังนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมกฎหมายพรรคเพื่อไทย มาขอติดตามและขอทราบผลการพิจารณาคดี ปรส. ของคณะกรรมการ ป.ป.ช.
(อ่านประกอบ : “เด็จพี่-เรืองไกร”จี้ป.ป.ช.ฟ้องคดีปรส. ก่อนหมดอายุ-ทิ้งไว้ปชช.แบกหนี้50ปี)
----
สำนักงาน ป.ป.ช. ขอเรียนว่า เรื่องกล่าวหาเกี่ยวกับ ปรส. มีการร้องเรียนกล่าวหาคณะกรรมการ ปรส. และผู้บริหาร ปรส. ประกอบด้วย นายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ นายอมเรศ ศิลาอ่อน นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ นางวชิรา ณ ระนอง นางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ นางเกษรี ณรงค์เดช นางจันทรา อาชวานันทกุล นางนงนาท สนธิสุวรรณ และนายมนตรี เจนวิทย์การ มายังสำนักงาน ป.ป.ช. รวม 6 เรื่อง ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน เพื่อดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงทั้ง 6 เรื่องดังกล่าวแล้ว
ผลการไต่สวนข้อเท็จจริงปรากฏว่า กรณีกล่าวหาคณะกรรมการ ปรส. และผู้บริหาร ปรส. คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อกล่าวหาไม่มีมูล มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป จำนวน 3 เรื่อง และมีมติไม่ยกขึ้นพิจารณา เนื่องจากเป็นกรณีที่ศาลประทับฟ้องไว้แล้ว และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล จำนวน 1 เรื่อง
สำหรับอีก 2 เรื่อง เป็นกรณีกล่าวหานายมนตรี ในฐานะเลขาธิการ ปรส. ว่าดำเนินการจำหน่ายสินทรัพย์ให้กองทุนรวมแกมม่าแคปปิตอล และกรณีจำหน่ายสินทรัพย์ให้บริษัท เงินทุนเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) โดยมิชอบ เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ซื้อเป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหาย
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของนายมนตรีดังกล่าว มีมูลความผิดทางวินัย ฐานไม่ปกิบัติหน้าที่การงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ตามข้อบังคับขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงินว่าด้วยการพนักงาน พ.ศ.2540 และมีมูลความผิดทางอาญาฐานเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปกิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 ส่วนผู้ถูกกล่าวหารายอื่น ๆ เห็นว่าข้อกล่าวหาไม่มีมูล มีมติให้ข้อกล่าวหาตกไป
คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโทษทางวินัย และส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) พิจารณาฟ้องคดีต่อศาลที่มีเขตอำนาจและ อสส. ได้ยื่นฟ้องนายมนตรี เจนวิทย์การ ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ทั้งสองคดีแล้ว เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล
ปัจจุบันจึงไม่มีคดีกล่าวหาคณะกรรมการ ปรส. หรือผู้บริหาร ปรส. อยู่ระหว่างการดำเนินการของคณะกรรมการ ป.ป.ช. อีกแต่อย่างใด