ป.ป.ช.เพิ่มชื่อจนท."พาณิชย์-อคส.-คต."พ่วง"กิตติรัตน์"คดีข้าวอินโดฯ3 แสนตัน
ป.ป.ช.เผยความคืบหน้าคดีปรับปรุงข้าวส่งอินโดฯ 3 แสนตัน ผ่านขั้นตอนใช้สิทธิ์คัดค้านรายชื่ออนุฯไต่สวน เริ่มเข้าสู่กระบวนการรวบรวมหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคลทางการ -จำนวนผู้ถูกกล่าวหา เพิ่ม 4 ราย จนท."พาณิชย์-อคส.คต."โดนครบ ชื่อ กิตติรัตน์ ยังอยู่ ระบุชัดพฤติการณ์เอื้อประโยชน์ "สยามอินดิก้า" ต่อเนื่องมายาวนานตั้งแต่สมัยยุค "เพรซิเดนท์ฯ"
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนขึ้นมารับผิดชอบคดีการระบายข้าวจำนวน 3 แสนตัน ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ปรับปรุงข้าวเพื่อส่งมอบให้แก่ประเทศ อินโดนีเซีย (BULOG) โดยปรากฎรายชื่อนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้ถูกกล่าวหา นั้น
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ลุยสอบ"สยามอินดิก้า" ปรับปรุงข้าวส่งอินโดฯ -"กิตติรัตน์" โดนด้วย)
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์ ป.ป.ช. ได้เผยแพร่ความคืบหน้าการไต่สวนคดีนี้เป็นทางการ ระบุว่า ผ่านขั้นตอนการแจ้งคำสั่งคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีนี้ ให้ผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วยนายกิตติรัตน์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ เจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ใช้สิทธิ์คัดค้านรายชื่อคณะอนุฯ ไต่สวนแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำพยานบุคคล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับข้อกล่าวหาที่แจ้งเข้ามา ยังคงเป็นประเด็นการทจริตเปิดประมูลให้เอกชนดำเนินการปรับปรุงข้าวเพื่อส่งมอบให้แก่ประเทศอินโดนีเซีย (BULOG) ตามสัญญา การซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) จำนวน 300,000 ตัน เมื่อเดือน ธ.ค. 2554
โดยเอื้อประโยชน์ให้บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล ทั้งที่ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงในลักษณะนอมินีของ บริษัท เพรซิเดนท์ อะกริ เทรดดิ้ง จำกัด ของนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร ที่ถูกศาลล้มละลายพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย ตามคำพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ ล.18747/2552 รวมทั้งเคยเป็นคู่สัญญาการค้าขายข้าวกับรัฐบาลในโครงการ รับจำนำข้าวเปลือกปี 2544/2545 และปี 2546/2547 จำนวน 1.9 ล้านตัน และไม่สามารถส่งมอบข้าวได้ตามสัญญา
"ผลประโยชน์ที่รัฐควรได้จึงตกไปเป็นของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด กับพวกพ้องที่เป็นนักการเมือง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ เอื้อประโยชน์แก่กันและกันต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน" ป.ป.ช.ระบุในข้อกล่าวหา