เอาชนะจิตใจเพื่อเอาชนะความคิด... ยุทธศาสตร์พิชิตไฟใต้ของ"แม่ทัพปราการ"
ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วสำหรับแม่ทัพภาคที่ 4 ที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่ จะต้องจัดกิจกรรมพบปะ "สื่อ" ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อชี้แจงแนวทางการทำงานในภารกิจดับไฟใต้ และพัฒนาสัมพันธ์กับสื่อมวลชน
อาจเป็นเพราะ "สื่อ" มักเป็นจำเลยที่ 2 เสมอในสายตาของฝ่ายความมั่นคงโดยเฉพาะทหาร ทุกครั้งที่มีเหตุรุนแรงหรือมีการวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
พล.ท.ปราการ ชลยุทธ ก็เช่นกัน หลังรับตำแหน่งแม่ทัพภาค 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) มาได้เดือนเศษ ก็ได้ฤกษ์จัดกิจกรรมพบสื่อมวลชน
งานจัดขึ้นที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ภายในค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี รูปแบบงานค่อนข้างเป็นทางการ มีผู้แทนหน่วยราชการหลักๆ ในพื้นที่มาร่วมอย่างพร้อมหน้า นอกจากการให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการของ พล.ท.ปราการ แล้ว ยังมีการชี้แจงของหน่วยต่างๆ ประกอบด้วย
- สำนักนโยบายและแผน กอ.รมน.ภาค 4 สน. อธิบายถึง "การขับเคลื่อนแผนทุ่งยางแดงโมเดล"
- สำนักการบังคับใช้กฎหมายและสิทธิมนุษยชน กอ.รมน.ภาค 4 สน. อธิบายถึง "ยุทธศาสตร์การพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้"
- กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ อธิบายถึง "การใช้นิติวิทยาศาสตร์และความคืบหน้าคดีที่สำคัญ"
- ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อธิบายถึงการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่สอดคล้องกับงานด้านความมั่นคง
จากนั้น พล.ท.ปราการ กล่าวว่า วันนี้การปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐจะเน้นบูรณาการทุกภาคส่วนร่วมกัน โดยการแปลงนโยบายสู่การปฏิบัติให้บรรลุเป้าประสงค์ การเสริมสร้างสันติสุขและพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยในปี 2558 ได้กำหนดให้เป็นปีที่ทำงาน "เชิงรุก" ในด้านการเมือง ด้วยการเสริมสร้างความเข้าใจของรัฐบาล สร้างความเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐต่อประชาชน เน้นย้ำการปฏิบัติของกำลังพลว่าจะต้องไม่สร้างเงื่อนไข
ที่สำคัญคือเราจะต้องเข้าถึงประชาชน เพื่อเสริมสร้างความสงบในชุมชนและหมู่บ้านให้ได้ ภายใต้หลักคิด "การปรับทุกข์ ผูกมิตร ร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมพัฒนา" ให้ตรงกับความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่
ยุทธศาสตร์ที่สำคัญคือการเอาชนะที่จิตใจ เพื่อนำไปสู่การเอาชนะด้วยความคิด สำหรับในการปฏิบัติภารกิจของทหารนั้น จะเร่งรัดความปลอดภัยของพื้นที่ ไม่ให้ส่งผลกระทบกับงานด้านการเมือง โดยมีปัจจัยที่สำคัญ คือ การลดระดับการใช้กฎหมายพิเศษ ใช้เท่าที่จำเป็น เน้นการใช้งานนิติวิทยาศาสตร์เพื่อป้องกันการใส่ร้ายหรือถูกบิดเบือนของฝ่ายตรงข้าม และการเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้กับส่วนราชการปกติ ให้พี่น้องข้าราชการพลเรือนสามารถทำงานได้เต็มที่ พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้กับกำลังภาคประชาชน
"ทุกท่านเคยได้ยินเรื่อง 'ทุ่งยางแดงโมเดล' ซึ่งก็อยู่ในกรอบนี้ด้วย หัวใจสำคัญคือการสร้างศักยภาพประชาชนให้มีความเข้มแข็ง ดูแลพื้นที่ ถนน เส้นทางของโรงเรียน แทนกำลังเจ้าหน้าที่หลักของทหาร รวมทั้งการสร้างจิตสำนึกให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทั้งในการรักษาความปลอดภัยและการพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของชุมชนเอง ขณะนี้หน่วยงานหลักที่เรามุ่งหวังและเสริมสร้าง คือ ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอ (ศปก.อำเภอ) และกำลังภาคประชาชน 1,970 หมู่บ้านใน 37 อำเภอ ให้ขับเคลื่อนและลุกขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันดูแลพื้นที่ชุมชน"
"หัวใจของทุ่งยางแดงโมเดล คือ บูรณาการทั้ง 4 ภาคส่วน ได้แก่ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และประชาชน แบ่งกำลังกันดูแลเส้นทาง ดูแลข่าวสาร จัดกำลัง 1 หมวด 1 กองร้อย 1 ซุ่ม ปรับด่านตรวจ ติดตามจับกุมตามกระบวนการกฎหมาย ขณะที่กำลังประชาชนดูแลบ้านใครบ้านมัน ใช้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านดูแล จัดระบบแจ้งเตือนระดับโรงเรียน สถานีอนามัย ช่วยเหลือกัน แผนเผชิญเหตุมีระบบการแจ้งเตือนไปยังทหาร ตำรวจ มีการวางระบบการติดต่อสื่อสาร ส่วนด้านการเมืองต้องสลายโครงสร้างการจัดตั้ง สร้างชุมชนเข้มแข็ง ฝึกทบทวน และกำหนดมาตรการต่างๆ รองรับ"
"เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของเทอมที่ 2 มีพี่น้องประชาชนที่ทำหน้าที่เป็น ชรบ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) ออกมาดูแลการเดินทางของครูที่มาจากในเมืองเข้าสู่หมู่บ้านเกือบ 7,000 คน" แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุ
พล.ท.ปราการ กล่าวอีกว่า กอ.รมน.ภาค 4 สน.ยังได้มุ่งเน้นขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุยสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ยอมรับเป็นสากลว่าไม่มีความขัดแย้งใดยุติได้ด้วยความรุนแรงและการใช้อาวุธ เรามีการจัดเวทีประชาคมมากกว่า 40 ครั้งจาก 14 กลุ่ม รวมทั้งสื่อด้วย เพื่อเปิดช่องทางให้รัฐและประชาชนเข้าใจ
ผลการพูดคุยพบว่าประสบผลสำเร็จ จะเห็นได้ว่าไม่มีความรุนแรงใดๆ เกิดขึ้น และต้องเดินหน้าพูดคุยต่อไป โดยการสร้างความไว้วางใจต่อรัฐให้มากที่สุด ในการปฏิบัติการพูดคุยมี 3 ขั้นตอน แต่ กอ.รมน.สามารถปฏิบัติได้เพียงขั้นที่ 1 คือการสร้างความไว้วางใจ ส่วนขั้นที่ 2 การลงนามสัตยาบัน และการทำโรดแมพเป็นหน้าที่ของรัฐบาล
ก่อนหน้านั้น 1 วัน ที่กองพลทหารราบที่ 15 (พล.ร.15) ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.ท.ปราการ ได้ประชุมร่วมกับ นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการ ศอ.บต. ผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัดชายแดนใต้ พล.ต.ท.อนุรุต กฤษณะการะเกตุ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผบช.ศชต.) และกำลังทุกหน่วยที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่
พล.ท.ปราการ กล่าวว่า การประชุมเป็นการพบปะเพื่อทำความรู้จักเป็นครั้งแรกกับหน่วยงานหลักที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ทุกส่วน โดยได้เน้นย้ำนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาล และจาก กอ.รมน. เพื่อให้ทุกฝ่ายได้นำไปกำหนดเป็นแผนปฏิบัติของหน่วยตัวเอง นโยบายการพูดคุยกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ รัฐบาลได้กำหนดกรอบและนโยบายมาอย่างชัดเจนแล้ว ในพื้นที่เอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ก็ได้แบ่งงบประมาณ เป้าหมาย และผู้ปฏิบัติ ขณะที่ ศอ.บต.และตำรวจก็จะร่วมมือกันทั้งหมด
ในวันนี้เราได้กำหนดบุคคลเป้าหมาย กำหนดผู้รับผิดชอบ รวมทั้งทำในเรื่องของเวทีประชาคม ฟังเสียงจากชาวบ้านทุกภาคส่วน ทุกกลุ่ม ว่าเรามีความคิดเห็นอย่างไรต่อการพูดคุยสันติสุข ทาง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จะได้รวบรวมข้อมูลจากทุกภาคส่วนไปยังรัฐบาล เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการดำเนินการพูดคุยต่อไป สำหรับการเชื่อมระหว่างมาเลเซียก็จะเป็นเรื่องของรัฐบาล ไม่ใช่ระดับพื้นที่
ส่วนนโยบายการแจกอาวุธปืนให้อาสารักษาดินแดน (อส.) กับโครงการทุ่งยางแดงโมเดล ซึ่งหลายคนมองว่าอาจสวนทางกันนั้น พล.ท.ปราการ กล่าวว่า เรื่องอาวุธไม่ขัดแย้งกัน เพราะอาวุธที่ใช้ในทุ่งยางแดงโมเดล ไม่ได้เพิ่มเติมขึ้นมา เป็นอาวุธปืนลูกซองที่ ชรบ.มีอยู่แล้ว สิ่งที่เราเน้นใน "ทุ่งยางแดงโมเดล" คือการประสานแผนร่วมมือกันทุกภาคส่วน การกำหนดการทำหน้าที่อย่างสอดคล้องกัน ระหว่าง ชรบ. ชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) อส.อำเภอ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร ต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำไปพร้อมๆ กัน
"เมื่อรวมกันได้มันจะเกิดพลัง เราไม่ได้ต้องการฝึกประชาชนให้ไปสู้รบกับใคร ให้เขาเพียงแค่รู้จักป้องกันตัวเอง และระบบต่างๆ ตรงนี้ก็จะเกิดประสิทธิภาพที่จะเปลี่ยนแปลงความตั้งใจของผู้ที่จะก่อเหตุรุนแรงไปเองโดยอัตโนมัติ" แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวทิ้งท้าย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : พล.ท.ปราการ ขณะร่วมกิจกรรมพบปะสื่อมวลชนในพื้นที่
ขอบคุณ : ภาพต้นฉบับจากทีมประชาสัมพันธ์ ศอ.บต.