ส่งหนังสืออธิบดีกรมศิลป์ค้าน ทร.ทุบกำแพงรั้วพระราชวังเดิม
มูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิมส่งหนังสือถามอธิบดีกรมศิลปากร หลังพิมพ์เขียวสะพัด ทร.มีแผนรื้อกำแพงรั้วพระราชวังเดิมปรับปรุงภูมิทัศน์ ชี้ทำลาย ปวศ. ขึ้นทะเบียนโบราณสถานตั้งแต่ปี 2492
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่าเมื่อเร็วๆนี้ มูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม ( มอ.วด.) โดยพล.ร.อ.ประเจตน์ ศิริเดช ประธานกรรมการมูลนิธิฯ ได้ส่งหนังสือถึงอธิบดีกรมศิลปากร เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง กรณี กองทัพเรือมีแผนดำเนินการรื้อกำแพงรั้วพระราชวังเดิม เพื่อทำเป็นลานโล่ง สอดรับกับการปรับปรุงอาคารและบันไดขึ้นตัวอาคารพระราชวังเดิม ว่าทางกรมศิลปากรได้อนุญาตหรือไม่ อย่างไร เนื่องจากกำแพงพระราชวังเดิมนั้นได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โบราณวัตถุสถานที่พระราชวังเดิม กิ่งอำเภอ บางกอกใหญ่ ต.วัดอรุณ ตั้งแต่ วันที่ 18 พ.ย. 2492 (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 22 พ.ย.2492)
แหล่งข่าวจากมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานในพระราชวังเดิม เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา วันที่ 7 พ.ย.57 ว่า ในช่วงที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือเข้ามาประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับพระราชวังเดิม แต่ไม่ได้บอกรายละเอียด ทางมูลนิธิฯโดยประธานกรรมการได้มีคำสั่งให้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมศิลปากรเพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าการรื้อกำแพงรั้วพระราชวังเดิมสามารถกระทำได้หรือไม่ เพราะกำแพงดังกล่าวถูกขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้นานแล้ว อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ทางมูลนิธิฯยังไม่ได้รับการตอบกลับจากอธิบดีกรมศิลปากร
“มูลนิธิฯไม่เห็นด้วยที่จะรื้อกำแพงรั้วพระราชวังเดิมซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างมูลนิธิฯอยู่แล้ว ทางเราเห็นว่าการอนุรักษ์ควรทำควบคู่กับการพัฒนาก็จริงแต่ก็ต้องให้ความสำคัญกับคุณค่าทางประวัติศาสตร์ด้วย การรื้อกำแพงรั้วพระราชวังจะเกิดผลเสียหายทางประวัติศาสตร์ตามมา พอมีกระแสข่าวออกมา หลายฝ่ายไม่เห็นด้วย หลังจากนี้ทางมูลนิธิฯคงมีขั้นตอนดำเนินการแสดงออกคัดค้านมากขึ้น”แหล่งข่าวกล่าว
เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น.วันที่ 7 พ.ย.57 ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อสอบถามไปยัง สำนักงานเลขานุการกองทัพเรือ น.อ.อนุวัติ ดาผิวดี ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ชี้แจงว่า ยังไม่มีคำสั่งอย่างเป็นทางการจากกองทัพเรือในเรื่องดังกล่าว เพราะถ้ากองทัพเรือมีแผนดำเนินการต้อง ขออนุญาตจากหลายฝ่าย
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อมีกระแสข่าวออกมา อาจมีข้อมูลเท็จจริงบ้างแล้วหรือไม่ น.อ.อนุวัติ ไม่ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูล กล่าวสั้นๆเพียงว่า “ยังไม่ยืนยัน ขอตรวจสอบก่อน”
ผู้สื่อข่าวถามว่าหน่วยงานไหนของกองทัพเรือเป็นเจ้าของเรื่อง น.อ.อนุวัติกล่าวว่า ตามขั้นตอนต้นเรื่องคือกรมส่งบำรุงกำลังทหารเรือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพเรือมีแผนปรับปรุงภูมิทัศน์กองทัพเรือ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำขังใต้ตัวอาคารและบริเวณโดยรอบอาคาร การแก้ปัญหาความอับชื้น อาทิ งานซ่อมทำโครงหลังคา งานระบายน้ำฝนบนหลังคา งานระบบไฟฟ้าและการสื่อสาร งานปรับปรุงระบบปรับอากาศและระบายอากาศ รูปแบบการปรับปรุงพื้นที่ใช้งานอาคาร (ใหม่) ชั้นล่าง รูปแบบการปรับปรุงพื้นที่ใช้งานอาคาร (ใหม่) ชั้นบน การปรับปรุงโถงบันไดทางขึ้น การปรับปรุงโถงบันไดทางขึ้น การปรับปรุงห้องทำงาน ผบ.ทร. และการปรับปรุงภูมิทัศน์และลานภายนอก และมีเอกสารเพาเวอร์พ้อยท์บอกความเป็นมาการของการแผนการปรับปรุงอาคาร โดยระบุกรณีแผนการรื้อกำแพงรั้วพระราชเดิมอยู่ในแผนดังกล่าว และพยายามเร่งดำเนินการให้เสร็จภายในปีงบประมาณ 2558 และภายในกองทัพเรือมีเจ้าหน้าที่ไม่เห็นด้วยแต่ไม่มีใครกล้าคัดค้าน และได้ร้องเรียนมายังสำนักข่าวอิศรา