นศ.สาวสิ้นใจ - มือมืดทำลายต้นยางพารา - ไล่ฆ่ากำนันคลองมานิง
ใต้ระอุต่อเนื่อง มือมืดตัดฟันต้นยางพาราของชาวบ้านเสียหายเกือบ 2 พันต้น เจ้าหน้าที่กู้ระทึกระเบิดถังแก๊ส 25 กิโลฯที่สุไหงปาดี นักศึกษาสาวนราฯเหยื่อกระสุนสิ้นใจแล้ว ควบปิคอัพยิงถล่มรถกำนันคลองมานิง ดับ 2 เจ็บ 3
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียดและมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันพุธที่ 5 พ.ย.57 เจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ตัดฟันทำลายต้นยางพาราของชาวบ้านในพื้นที่่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ได้รับความเสียหายรวม 1,841 ต้น
ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุมี 2 พื้นที่ คือ 1.บ้านควน หมู่ 6 ต.สุไหงปาดี มีต้นยางพาราได้รับความเสียหาย 1,061 ต้น เป็นสวนของ นายธนาธิป พรหมชื่น กำนัน ต.สุไหงปาดี นายประเสริฐ มณีไสย อายุ 54 ปี นางสายใจ ขุนอำไพ อายุ 50 ปี และ นางปัทมา วรพงษ์พิบูลย์ อายุ 50 ปี 2.บ้านโคกตา หมู่ 1 ต.ปะลุรู มีต้นยางพาราได้รับความเสียหาย 780 ต้น เป็นสวนของ นายสมโชค ธรรมโสภณ อายุ 64 ปี
กู้ระทึกระเบิดถังแก๊ส 25 กิโลฯ
เวลา 10.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด นำกำลังเข้าตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยที่ถูกซุกไว้บริเวณบ่อซิเมนต์ทรงกลม หน้าประตูทางเข้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) โต๊ะเด็ง หมู่ 1 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี เบื้องต้นพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ในถังแก๊ส น้ำหนัก 25 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ยังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน โดยคนร้ายใส่วัตถุระเบิดในถุงพลาสติกขนาดใหญ่สีดำเพื่ออำพรางเจ้าหน้าที่ โชคดีมีพนักงานของ อบต.พบเห็น จึงแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และใช้ปืนแรงดันน้ำพลังสูงยิงทำลายอย่างปลอดภัย
นศ.สาวนราฯเหยื่อกระสุนสิ้นใจ
ช่วงเช้ามืดวันเดียวกัน น.ส.สุธิดา ตั้งใจ อายุ 20 ปี นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ที่ถูกคนร้ายประกบยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสบนถนนสายเลี่ยงเมืองนราธิวาส ช่วงบ้านทำเนียบ หมู่ 6 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส ในเย็นของวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์เพื่อนเดินทางไปมหาวิทยาลัย และได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์นั้น ได้เสียชีวิตลงแล้ว
นางสุดาพร ตั้งใจ มารดาของ น.ส.สุธิดา พร้อมเครือญาติ ได้เดินทางไปรับศพออกจากโรงพยาบาล เพื่อไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบางปอ หมู่ 6 ต.บางปอ อ.เมือง จ.นราธิวาส
สำหรับความคืบหน้าทางคดีนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงยังปักใจเชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพราะบิดาของ น.ส.สุธิดา ซึ่งเป็น อส. (อาสารักษาดินแดน) เคยถูกยิงเสียชีวิตเมื่อปี 49 และคนในบ้านยังเคยเห็นกลุ่มวัยรุ่นขับรถวนเวียนในละแวกบ้าน ซึ่งวัยรุ่นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดิมเคยเคลื่อนไหวลักษณะเดียวกันตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุสังหารบิดาของ น.ส.สุธิดา อย่างไรก็ดี ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ที่เก็บได้ในที่เกิดเหตุ เมื่อนำไปตรวจเทียบกับปลอกกระสุนปืนในคดีอื่นๆ แล้ว ยังไม่ตรงกับคดีใด โดยเฉพาะไม่ตรงกับอาวุธปืนของกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ ต.บางปอ
ยิงถล่มรถกำนันคลองมานิงดับ 2 เจ็บ 3
วันจันทร์ที่ 3 พ.ย. เวลา 16.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนมีรถกระบะเป็นพาหนะ ขับตามประกบรถกระบะของ นายแวดาโอ๊ะ เจ๊ะเซะ อายุ 32 ปี กำนัน ต.คลองมานิง อ.เมือง จ.ปัตตานี จากนั้นใช้อาวุธสงครามยิงถล่มจนทำให้รถเสียหลักตกลงข้างทาง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 3 ราย เหตุเกิดบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 บริเวณสามแยกทางเข้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลตะลุโบะ บ้านแบรอจะรัง หมู่ 2 ต.ตะลุโบะ อ.เมือง จ.ปัตตานี
ผู้เสียชีวิต ประกอบด้วย นายไซนูดิง เจ๊ะมิง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 106 บ้านสระมาลา หมู่ 3 ต.คลองมานิง และ นายแวสะแม แวดือมาลี อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133/1 บ้านสระมาลา หมู่ ต.คลองมานิง โดยทั้งคู่เสียชีวิตคาที่
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมี 3 คน คือ นายนิเฮง หะยีสามา อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118/2 บ้านสระมาลา หมู่ 3 ต.คลองมานิง นายแวดาโอ๊ะ เจ๊ะเซะ กำนัน ต.คลองมานิง และ นายอับดุลรอมัน เจ๊ะเลาะ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 บ้านคลองมานิง หมู่ 2 ต.คลองมานิง ทั้งหมดอาการสาหัส โดยเฉพาะ นายนิเฮง
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้นำกำลังรุดไปตรวจสอบ และสอบสวนจนทราบว่า ขณะที่ นายแวดาโอ๊ะ พร้อมพวกอีก 4 คน เดินทางด้วยรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน กร 2904 สงขลา กลับจากการประชุม ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองปัตตานี กำลังมุ่งหน้าไปทำธุระที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถกระบะตามประกบ แล้วใช้อาวุธสงครามยิงใส่จนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นความขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น
สำหรับพื้นที่ ต.คลองมานิง มีปัญหาเกี่ยวกับการเมืองท้องถิ่นระหว่างกลุ่มของนายแวดาโอ๊ะ กับกลุ่มอดีตนายก อบต. ทำให้มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นทั้งในและนอกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
ตร.เชื่อกราดยิงเทพา"สร้างสถานการณ์"
ด้านความคืบหน้าเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามกราดยิงชาวบ้านที่หน้าร้านขายของชำเลขที่ 57/1 หมู่ 8 บ้านหนองสาหร่าย ต.ท่าม่วง องเทพา จ.สงขลา เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จนมีชาวบ้านเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 8 รายนั้น
พ.ต.อ.ศุภวัฒน์ ทับเคลียว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา (รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา) เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนสอบสวน เพื่อหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน สำหรับผลการตรวจสอบอาวุธปืน ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นอาวุธปืนที่เกี่ยวข้องกับคดีใดในอดีตบ้าง ต้องรอผลจากเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานก่อน แต่สิ่งที่สามารถยืนยันได้ก็คือ อาวุธปืนที่คนร้ายใช้เป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก และคนร้ายที่ก่อเหตุมี 4 คน
ส่วนสาเหตุของการกราดยิงอย่างโหดเหี้ยมนั้น มีความเป็นไปได้มากที่จะเกี่ยวข้องกับการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ เนื่องจากพฤติกรรมการก่อเหตุของคนร้ายมีความพยายามหยิบยกเหตุการณ์อื่นมาเป็นข้ออ้างในการก่อเหตุ รวมไปถึงมีเหตุลักษณะใกล้เคียงกันในพื้นที่อื่นอีกในวันถัดมา แต่ก็ต้องรอความชัดเจนการการสืบสวนและตรวจสอบพยานหลักฐานทั้งหมดอีกครั้งจึงจะระบุได้อย่างชัดเจน
เผาศาลาที่พักริมทางที่บาเจาะ
วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ย. เวลา 18.30 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ลอบวางเพลิงศาลาที่พักริมทาง ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 ฝั่งขาออกจากนราธิวาส ท้องที่หมู่ 3 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส แต่หลังเกิดเหตุผู้ใหญ่บ้านได้ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันดับเพลิงไว้ได้ ทำให้ศาลาได้รับความเสียหายบางส่วน เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าเป็นความพยายามก่อกวนสร้างสถานการณ์
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : สภาพรถกระบะของกำนัน ต.คลองมานิง ที่ถูกคนร้ายยิงถล่มจนพรุนและเสียหลักตกถนนย่านตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี
ขอบคุณ : ภาพจากทีมภาพข่าวสมาคมกู้ชีพ กู้ภัย สันติปัตตานี