ป.ป.ช.เกาะติด คสช. จี้ขสมก.จัดซื้อรถเมล์3พันคัน-เปิดแข่งขันเสรีทั่วโลก
ป.ป.ช.เกาะติดข้อท้กท้วงโครงการรถเมล์เอ็นจีวี 3,183 คัน ขสมก.วงเงิน 1.3 หมื่นล้าน หลังส่งให้ คสช.พิจารณา-สั่งการ ขสมก.นำไปปฏิบัติให้เป็นผลเป็นรูปธรรม ชูผลการศึกษา 2 ส่วน หลีกเลี่ยงจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ เปิดแข่งขันเสรีทั่วโลก-ทุกชนิดเชื้อเพลิง
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้รวบรวมมาตรการป้องกันการทุจริตเพื่อเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาและสั่งการให้หน่วยงานของรัฐนำไปปฏิบัติ ในช่วงต้นเดือนก.ค.57 ที่ผ่านมา โดยมีข้อเสนอเกี่ยวกับโครงการจัดซื้อรถโดยสารสาธารณะใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162.20 ล้านบาท ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ (ขสมก.) รวมอยู่ด้วยนั้น
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.เล็งเสนอมาตรการป้องกันการทุจริตให้ คสช.)
แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ขณะนี้ ป.ป.ช.อยู่ระหว่างการติดตามการปฏิบัติงานโครงการจัดซื้อรถเมล์ (NGV) จำนวน 3,183 คัน ตามที่ ป.ป.ช.นำเสนอไปว่าจะผลออกมาเป็นอย่างไร มีการปรับปรุงรายละเอียดการดำเนินงานตามข้อสังเกตที่ ป.ป.ช.ส่งไปให้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงมาตรการอื่นที่นำส่งให้ คสช.ไปพิจารณาด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในรายงานผลการศึกษาโครงการนี้ของ ป.ป.ช. ที่ส่งไปให้ คสช. รับทราบ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 รายงานข้อคิดเห็นที่คณะทำงานเพื่อทำการศึกษา เฝ้าระวัง และติดตามการจัดหารถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ของ ขสมก. มีต่อร่างข้อกำหนดและขอบเขตของงาน (TOR) และร่างเอกสารประกาศประกวดราคาโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน ของ ขสมก.
มีประเด็นสำคัญ คือ กระบวนการจัดซื้อควรหลีกเลี่ยงระบบการจัดซื้อแบบวิธีพิเศษที่อาจทำให้เกิดความไม่โปร่งใส ระบบการประมูลต้องเป็นระบบที่ตรวจสอบได้ มีความเป็นธรรม เปิดกว้างให้มีการแข่งขันอย่างเสรีจากผู้ประกอบการทั่วโลก ไม่ควรจำกัดให้ผู้เข้าประมูลต้องเป็นผู้ที่เคยหรือมีประสบการณ์การทำธุรกิจในด้านนี้มาแล้วในประเทศไทยเท่านั้น คุณสมบัติของรถไม่ควรกำหนดที่มีลักษณะจำกัดจนมีผู้ประกอบการเพียงบางรายเท่านั้นที่จะเสนอราคาได้
ส่วนที่ 2 คือ วิเคราะห์ปัญหาข้อเสนอการซื้อรถโดยสารที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ จำนวน 3,183 คัน รวมทั้งวิเคราะห์ปัญหาระบบและการบริหารจัดการในการกำกับดูแลระบบการขนส่งทางบก ตลอดจนกฎ ระเบียบ ด้านความปลอดภัยในส่วนที่เกี่ยวข้องกับรถโดยสารสาธารณะ
มีประเด็นสำคัญ อาทิ ระบบการกำกับดูแลควรเปลี่ยนจากการให้สัมปทานหรือให้อำนาจผูกขาดแก่ ขสมก. เป็นการให้ใบอนุญาตในการเดินรถ ซึ่ง ขสมก. จะเป็นผู้ประกอบการรายหนึ่งเช่นเดียวกับเอกชน
โดยรัฐบาลไม่ควรจำกัดหรือบังคับให้เอกชนหรือรถร่วมเอกชนต้องใช้ก๊าซธรรมชาติ แต่ควรเปิดทางเลือกให้กับทุก ๆ เชื้อเพลิง และปรับปรุงการตรวจสภาพทั้งรถใหม่และรถเก่าทุกประเภท รวมทั้งให้ความสำคัญกับความปลอดภัยให้มากขึ้น แผนปฏิรูปหรือฟื้นฟู ขสมก. จะต้องสะท้อนออกมาในเชิงปริมาณต่อรายได้และรายจ่าย สามารถได้รับการวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ อย่างเป็นระบบได้ เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกี่ยวกับรายงานผลการศึกษาโครงการจัดซื้อรถโดยสารใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน ของ ป.ป.ช.ดังกล่าว เคยมีการส่งเรื่องให้รัฐบาลในยุค น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รับทราบอย่างเป็นทางการ และมีการนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อพิจารณาในช่วงปลายเดือนเมษายน 2557 ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่จะเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจ
เบื้องต้น ที่ประชุม ครม.ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้มีมติรับทราบรายงานผลการศึกษาเรื่องนี้ และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม ขสมก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรายงานผลการศึกษาดังกล่าวไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามข้อกฎหมาย ระเบียบหลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป