6 ทศวรรษ ‘สกุลไทย’ นิตยสารหัวไทย คุณภาพคับเล่ม
1 พฤศจิกายน 2497 เป็นวันถือกำเนิดนิตยสารหัวไทยคุณภาพคับล้น ‘สกุลไทย’ คอยมอบความสุขให้แก่ผู้อ่านมานานนมจนครบ 60 ปี หากเปรียบเป็นชีวิตมนุษย์ดุจเสมือนไม้ใกล้ฝั่งที่รอความตายมาพรากนำชีวิต แต่สำหรับนิตยสารฉบับนี้ยังคงเต็มเปี่ยมด้วยเนื้อหาสาระและก้าวเดินต่อไปอย่างมีพัฒนาการไม่จบสิ้น
‘สกุลไทย’ ผลิตโดยบริษัท อักษรโสภณ จำกัด นับเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นแบบอย่างในเรื่องการใช้ภาษาไทยถูกต้องและสละสลวย ภายใต้หลักการที่ว่า “นิตยสารเพื่อสาระและบันเทิงสำหรับครอบครัว” วางจำหน่ายทุกวันอังคาร ในราคา 55 บาท ปัจจุบันมี ‘นรีภพ สวัสดิรักษ์’ เป็นบรรณาธิการ
ถ้าจำไม่ผิด ผมเปิดอ่าน ‘สกุลไทย’ ครั้งแรกในชีวิต ที่เรือนของคุณป้า สมัยเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ด้วยภาพหน้าปกของพระบรมวงศานุวงศ์อันงดงาม ชวนต้องหยิบขึ้นมาสัมผัสและชื่นชมในพระบารมีอันสูงส่ง พร้อมกับซึมซับไปกับพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ภูมิพลอดุลยเดช
หากจุดเด่นสำคัญที่ทำให้ผมติดตรึงในรสอักษรไม่แพ้ ‘ขวัญเรือน’ ที่เสพมาตั้งแต่วัยประถมศึกษา คงหนีไม่พ้น ‘นวนิยาย’ จากนักเขียนชื่อดัง ทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ทมยันตี กฤษณา อโศกสิน ว.วินิจฉัยกุล กิ่งฉัตร พงศกร เข็มพลอย หรือกนกวลี พจนปกรณ์
ความโดดเด่นของเรื่องราวในจินตนาการที่ปรากฏใน ‘สกุลไทย’ มิได้เป็นภาษาที่ฉาบฉวย ไร้รสนิยม แต่ความจริงแล้วถูกเขียนขึ้นด้วยภาษาชั้นครู ถูกต้องตามหลักกลวิธี และมักจะแฝงไปด้วยแง่คิดคติธรรมที่ดี เหมาะสำหรับนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หาใช่มีเฉพาะเนื้อหาประโลมโลก ปราศจากแก่นแท้จรรโลงสังคม จนได้รับการคัดสรรนำไปผลิตภาพยนตร์ ละคร และละครเวที หลายต่อหลายเรื่อง
นอกจากนวนิยายแล้ว ‘สกุลไทย’ ยังมีเรื่องสั้นดี ๆ มานำเสนอตลอดเวลา พร้อมกับบทวิจารณ์วรรณกรรม ภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่ง ‘จันทร์จิรา’ ที่คอยจับตามองความเป็นไปของวงการบันเทิงไทยชนิดถึงลูกถึงคน ตลอดจนเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยว ลองลิ้มชิมรสอาหาร หรือสัมผัสแนวคิดจาก ‘อ.วรากรณ์ สามโกเศศ’ ผ่านคอลัมน์ สำรับโลก
เวทีวัดฝีมือสำหรับเด็กก็มีให้เห็นในนิตยสารเล่มนี้ เพื่อหวังจุดประกายปลุกไฟความทะยานอยาก ‘จะเขียน’ ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะนิทานที่ทำให้ผมต้องอ่านทุกครั้ง และจะอมยิ้มไปกับการใช้ทักษะการเขียนอันสุดยอด โดยต้องขอบอกว่าเด็กเดี๋ยวนี้มีพัฒนาการทางการเขียนที่ดีค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับสมัยบทความของผมถูกตีพิมพ์ใน ‘ขวัญเรือน’ ตอน ป.6 ฉะนั้นใครจะมาบอกว่าเด็กไทยไม่เก่ง...ผมขอเถียงขาดใจ
ส่วนที่พลาดไม่ได้ ต้องยกให้เรื่องราวความเป็นไปของคนในวงการนักเขียนที่ถูกถ่ายทอดในนิตยสารเล่มนี้ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร เราก็จะได้ชื่นชมและยินดี ประหนึ่งเป็นครอบครัวเดียวกัน ที่สำคัญ มีการจัดประกวดนวนิยาย ‘รางวัลสุภัทร สวัสดิรักษ์’ อดีตบรรณาธิการอาวุโส ‘สกุลไทย’ ผู้ยิ่งใหญ่ ทุก ๆ 2 ปี ให้ประชันฝีมือกันด้วย
ทั้งนี้ ผมคงไม่สามารถจะชี้ชวนให้ผู้อ่านสัมผัสถึงคุณค่าของนิตยสารเล่มนี้ได้ดีนัก เท่ากับการได้ลองอ่านเองสักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่าของดีมีคุณภาพเป็นอย่างไร พิสูจน์ส่วนหนึ่งจากรางวัลการันตี ทั้งรางวัลพระเกี้ยวทองคำเชิดชูเกียรติ ในฐานะนิตยสารส่งเสริมภาษาไทยดีเด่น รางวัลพระราชทานเทพทอง องค์กรดีเด่น รางวัลสื่อมวลชนดีเด่น และนิตยสารรางวัลดีเด่นระดับชาติ
จึงนับว่า ‘สกุลไทย’ เป็นนิตยสารหัวไทยที่คุณภาพเกิน ‘ร้อย’ ทะลุ ‘ล้าน’ สมดังการยึดมั่นในอุดมการณ์นำคุณค่าสร้างประโยชน์แก่ผู้อ่านเสมอมา
พร้อมก้าวเดินต่อไปอย่างมั่นคงในขวบปีที่ 61 .