คลอดแล้วกฎเหล็ก“ประยุทธ์” ห้าม ผช.รมต.มีผลประโยชน์ทับซ้อน
"..กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต รักษาประโยชน์..ต้องไม่ดํารงตําแหน่งกรรมการหรือที่ปรึกษา ของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือองค์กรอื่นของรัฐ เว้นแต่การเป็นกรรมการตามที่กฎหมายบัญญัติ หรือได้รับแต่งตั้งในการบริหารราชการแผ่นดิน และต้องไม่เป็นคู่สัญญาอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือ มีผลประโยชน์ใด ๆ ขัดหรือแย้งกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือ องค์กรอื่นของรัฐ.."
"คือเป็นไม่ได้ก็ไม่ได้ ไม่ได้ก็ลาออก จะยากอะไร ก็แค่ไม่มีคนมาช่วยงานผม ก็แค่นั้นเอง"
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบคำถามสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org แบบเสียงดังฟังชัดๆ เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 57 ที่ผ่านมา
ต่อกรณีการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ให้กลับไปใช้หลักการเดิม เรื่องการห้ามผู้ช่วยรัฐมนตรี มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งการนั่งเป็นกรรมการรัฐวิสาหกิจ และการเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐ
ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักก่อนหน้านี้ หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งตัดข้อห้ามเรื่องนี้ออกไป เพื่อเปิดทางให้ บุคคลกลุ่มหนึ่ง เข้ามาช่วยงานในตำแหน่งกรรมการผู้ช่วย รมต.ได้
ก่อนจะกล่าวย้ำถึงสาเหตุที่ตัดสินใจแก้ไขระเบียบดังกล่าวอีกครั้งว่า "ก็ขั้นแรกคือมันต้องเร็ว ต้องบริหาร คสช. ต้องการให้คนมาช่วยทำงาน เข้าใจไหม คือวาระวันนี้มันไม่ใช่วาระปกติ เป็นวาระที่ยึดอำนาจมา ไม่มีใครอยากมาทำงานกับผมหรอก ผมบอกให้เลย เพราะมันไม่ใช่เวลาปกติ คนที่เป็นรัฐมนตรีเขายังไม่อยากมาทำงานกับผมเลย เพราะผมยึดอำนาจเขามา เข้าใจหรือเปล่า แล้วก็เป็นรัฐบาลแค่ปีเดียว คนที่เชิญมาเขาก็ไม่อยากมา เขาขอช่วยงานข้างนอก ผมก็ เอ้า บอกว่าทำแบบนี้ไปก่อนได้ไหม แล้วเมื่อได้ระยะเวลาผมก็จะแก้ไข"
ล่าสุด เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่ผ่านการแก้ไขให้กลับมายึดมั่นหลักการเดิม เรื่องข้อห้ามการมีผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้ช่วยรัฐมนตรี
ระบุว่า "เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับการส่งเสริม การบริหารราชการแผ่นดินที่มีธรรมาภิบาล การป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ การมีผลประโยชน์ทับซ้อนในภาครัฐทุกระดับ และเพื่อประโยชน์แห่งรัฐ จึงเห็นสมควรให้กรรมการ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องไม่กระทําการใด ๆ อันเป็นการกระทําที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๑ (๖) และ (๘) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๗”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเปน็ ต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๑ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการ ผู้ช่วยรัฐมนตรี พ.ศ. ๒๕๔๖ ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยคณะกรรมการ ผู้ช่วยรัฐมนตรี (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ และให้ใช้ความตอ่ ไปนี้แทน
“ข้อ ๑๑ วินัย
กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต รักษาประโยชน์ และความลับของทางราชการ ไม่ให้สัมภาษณ์ในเรี่องนโยบายของรัฐบาลหรือกระทรวง เว้นแต่จะได้รับ มอบหมายจากรัฐมนตรี ดํารงตนเหมาะสมแก่ตําแหน่งหน้าที่ ไม่ก้าวก่ายงานราชการประจํา ไม่แทรกแซงการแต่งตั้ง โยกย้าย และการบริหารงานบุคคล และไม่ใช้ตําแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ ต่อตนเองหรือผู้อี่นโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย รวมทั้งต้องไม่ดํารงตําแหน่งกรรมการหรือที่ปรึกษา ของรัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือองค์กรอื่นของรัฐ เว้นแต่การเป็นกรรมการตามที่กฎหมายบัญญัติ หรือได้รับแต่งตั้งในการบริหารราชการแผ่นดิน และต้องไม่เป็นคู่สัญญาอันมีลักษณะเป็นการผูกขาดตัดตอน หรือ มีผลประโยชน์ใด ๆ ขัดหรือแย้งกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน หรือ องค์กรอื่นของรัฐ
ในกรณีที่ปรากฏว่ากรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีผู้ใดฝ่าฝืนความในวรรคหนึ่ง นายกรัฐมนตรี จะมีคําสั่งให้ผู้นั้นพ้นจากตําแหน่งโดยดําเนินการสอบสวนหรือไม่ก็ได้
หากปรากฏว่าการฝ่าฝืนความในวรรคหนึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดทางอาญา ให้ส่งเรื่อง ให้พนักงานสอบสวนดําเนิน คดีด้วย”
ประกาศ ณ วัน ที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
-----
ถือเป็นการประกาศและยืนยันต่อสาธารณชนชัดๆ อีกครั้งว่า "ผู้ช่วยรัฐมนตรี" ที่จะเข้ามาทำงานในประเทศ ยุคนี้ จะต้องไม่มีปัญหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
หากฝ่าฝืนเข้าข่ายความผิดทางอาญา จะต้องถูกดำเนินคดีด้วย!!
ส่วน "บุคคล" ที่มีความสำคัญมาก ถึงขนาดทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมแลกที่จะตัดกฎเหล็กข้อห้ามเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนออกไปก่อนหน้านี้ เพื่อเปิดทางให้เข้ามาช่วยงาน
จนถึงเวลานี่ ยังไม่มีใครตอบได้ ชัดเจน และเป็นปริศนากันต่อไป
อ่านประกอบ
เจาะปรากฎการณ์ “ประยุทธ์”สั่งตีความ-แก้ระเบียบตั้งคนช่วยงาน เมินปมผลปย.ทับซ้อน?