ป.ป.ช.ถกถอด 39 ส.ว.ปมแก้รธน. 14 ต.ค.นี้-เมิน“ทนายปู”เสนอปฏิรูป
ป.ป.ช. ถกถอดถอน “39 ส.ว.” ปมแก้รัฐธรรมนูญที่มาของ ส.ว. 14 ต.ค.นี้ จ่อลงนามคดีถอดถอน “ยิ่งลักษณ์” จำนำข้าวส่ง “พรเพชร” 13-14 ต.ค. – ยันดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ไม่ได้เร่งรีบ – เมิน “ทนายปู” เสนอปฏิรูป ชี้หากดีอยู่แล้วก็ไม่ต้องทำเพิ่ม ระบุเคารพความเห็น แต่การปรับปรุงต้องฟังทั้งแง่บวกแง่ลบ
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2557 นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมส่งสำนวนคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีไม่ระงับยับยั้งความเสียหายโครงการรับจำนำข้าวว่า ภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช. ลงมติพิจารณาส่งสำนวนคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วนั้น ในวันที่ 13 ตุลาคม หรือวันที่ 14 ตุลาคม 2557 เจ้าหน้าที่จะนำหนังสือนำส่งพร้อมเอกสารประกอบทั้งหมดมาให้ตนลงนาม เพื่อส่งถึงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ส่วนกรณีถอดถอนอดีต ส.ว. จำนวน 39 ราย ผู้ถูกกล่าวหาส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฎหมายอื่นตามมาตรา 58 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 นั้น เจ้าหน้าที่ได้เตรียมรายงานให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาในวันที่ 14 ตุลาคมนี้เช่นเดียวกัน เพื่อพิจารณาส่งสำนวนดังกล่าวให้ สนช. ต่อไป
ขณะที่น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อดีตทนายความผู้รับมอบอำนาจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในคดีโครงการรับจำนำข้าว เตรียมเสนอให้มีการปฏิรูป ป.ป.ช. ว่า เป็นสิทธิของเขา เขาอาจจะมองจากข้างนอกมาข้างใน ต้องรับฟัง ไม่มีปัญหา แต่ต้องฟังข้อเท็จจริงว่า จริง ๆ สิ่งที่เขาเห็นตรงกับความเป็นจริงหรือไม่ การปฏิรูปก็คือการปฏิรูป การมีสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิมเป็นเรื่องดี เชื่อว่าหาก สปช. จะมีการปฏิรูปจริง อาจจะเชิญ ป.ป.ช. ไปรับฟัง
“ส่วนตัวเห็นว่า หน่วยงานที่ปฏิรูป หรือคนที่จะปฏิรูปต้องเข้าใจ ต้องมองทั้งบวกทั้งลบ มองด้วยความเป็นกลาง ไม่มีธง ส่วนที่มีการเสนอให้มีกลไกตรวจสอบ ป.ป.ช. นั้น จะเห็นว่าในอดีตมี ป.ป.ช. ชุดหนึ่ง ถูกตรวจสอบกรณีเพิ่มค่าตอบแทนตัวเอง โดยมี ส.ว. ไปร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ดังนั้น กลไกตรวจสอบมีอยู่แล้ว และเวลาพิจารณาเรื่องต่าง ๆ เราดูกฎหมายกันระวังมาก และมีความเป็นอิสระ” น.ส.สุภา กล่าว
น.ส.สุภา กล่าวว่า กรณีนี้ต้องดูข้อเท็จจริงก่อนว่าจะปฏิรูปเรื่องอะไร หากเป็นเรื่องการตรวจสอบ ป.ป.ช. ต้องดูว่ามีกระบวนการตรวจสอบอยู่แล้วหรือไม่ หากมีกระบวนการตรวจสอบแล้ว มีปัญหาหรือไม่ หากไม่มีปัญหาก็ไม่เห็นต้องปฏิรูป แต่หากมีปัญหาเขาคงเสนอแนะกันเข้ามา อย่างไรก็ดีสำหรับข้อเสนอการปฏิรูปในครั้งนี้ที่เขาสะท้อนเข้ามา เราเคารพ แต่การจะปรับปรุงต้องรับฟังทั้งแง่บวกและแง่ลบ ใครจะมีความเห็นอย่างไรไม่เป็นไร เพราะสุดท้ายจะปฏิรูปต้องใช้ดุลยพินิจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงการส่งสำนวนคดีถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้กับ สนช. ว่า เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ไม่ได้เร่งรีบ เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติแล้ว ก็ต้องส่งเรื่องให้ สนช. ดำเนินการต่อ ส่วนที่ทีมทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตั้งข้อสังเกตว่า ป.ป.ช. รีบส่งสำนวนคดีถอดถอนให้ สนช. ดำเนินการโดยไม่รอคำทักท้วงของอัยการสูงสุด (อสส.) เรื่องความไม่สมบูรณ์ในคดีโครงการรับจำนำข้าวนั้น เป็นคนละส่วนกัน เนื่องจากสำนวนที่ ป.ป.ช. ส่งให้ สนช. เป็นคดีถอดถอน แต่ที่ อสส. ทักท้วงนั้นเป็นสำนวนคดีอาญา