เอ็นจีโอค้านสภาฯ มก. ตั้งรองปธ.ซีพี นั่งประธานฯ ศูนย์วิจัยข้าวโพด 'ไร่สุวรรณ'
ภาคประชาสังคมค้านตั้ง ‘มนตรี คงตระกูลเทียน’ นั่งประธานฯ ไร่สุวรรณ หวังแปรรูปศูนย์พัฒนาวิจัยข้าวโพดเอื้อประโยชน์กลุ่มทุน ‘ผอ.มูลนิธิชีววิถี’ แนะส่งเสริมศักยภาพบุคลากร มก.ทำหน้าที่แทน
จากกรณีสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีหนังสือ ลงวันที่ 10 กันยายน 2557 เเต่งตั้งนายมนตรี คงตระกูลเทียน รองประธานกรรมการ กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะกรรมการสภามหาวิทยาลัย ผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ดำรงตำเเหน่งประธานคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการพื้นที่ไร่สุวรรณ (ศูนย์วิจัยข้าวโพดเเละข้าวฟ่างเเห่งชาติ)
โดยมีภารกิจหลักในการเสนอนโยบายการพัฒนาเเละเเนวทางการบริหารจัดการ เพื่อมอบให้ฝ่ายบริหารนำไปจัดทำเเผนงาน ซึ่งชั้นต้น ให้จัดทำผังพื้นที่เเละการใช้ประโยชน์ เสนอสภามหาวิทยาลัยฯ เพื่อพิจารณาภายใน 1 เดือน รวมถึงให้ภาคเอกชนเสนอเเผนการลงทุนเละการตลาด ที่เน้นให้เป็นสถานที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เเละผลผลิตทางการเกษตรของมหาวิทยาลัยเเละชุมชน พร้อมให้มีพื้นที่บริการเชิงพาณิชย์ ตลอดจนพื้นที่เเสดงนิทรรศการเเก่ประชาชน
ทั้งนี้ เครือข่ายภาคประชาสังคมได้เเสดงความเห็นคัดค้านต่อมติการเเต่งตั้งนายมนตรี เป็นประธานฯ โดยหวั่นว่าจะเอื้อประโยชน์ต่อการเเปรรูปทรัพยากรของประเทศเเละมหาวิทยาลัยตกเป็นของบริษัทเอกชนที่มุ่งเเสวงหาผลกำไร
นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงความสำคัญของไร่สุวรรณว่า ตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างเเห่งชาติ ตั้งอยู่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยมีบทบาทในการผลิตนักวิจัยด้านข้าวโพด โดยมีผลงานสำคัญ คือ การพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดผสมเปิดที่สามารถเก็บเกี่ยวและนำไปเพาะพันธุ์ต่อได้ เรียกว่า สุวรรณ 1 ซึ่งได้รับความนิยมแพร่หลายมากทั้งในไทยและต่างประเทศ
นอกจากนี้ไร่สุวรรณยังเป็นสถานีฝึกปฏิบัติของนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) และสถาบันการศึกษาอื่น ๆ จึงนับเป็นคุณูปการมากในการสร้างการศึกษาและวิจัย เพื่อตอบสนองต่อเกษตรกรรายย่อยในการพัฒนาสายพันธุ์ที่ดีและมีราคาถูก
“เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับไร่สุวรรณ โดยบริษัทเมล็ดพันธุ์พืช ไม่ว่าจะเป็น มอนซานโต้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้อาศัยข้าวโพดพันธุ์สุวรรณ 1 เป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาตลาดเมล็ดพันธุ์ของภาคเอกชนขึ้น” ผอ.มูลนิธิชีววิถี กล่าว และว่า แม้ธนาคารโลกและรัฐบาลจะให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทในการผลิตเมล็ดพันธุ์ แต่สถานะภาควิชาการสาธารณะยังจำเป็นต่อการพัฒนางานวิชาการเพื่อป้องกันการผูกขาดอยู่ และสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกร
ดังนั้นการที่นายมนตรีได้รับเเต่งตั้งเป็นประธานฯ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า อาจนำไปสู่การแปรรูปการวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งควรเป็นประโยชน์ในการศึกษาของเกษตรกรรายย่อยและสาธารณะไปสู่การดำเนินการในทิศทางตอบสนองผลประโยชน์ของบริษัทเอกชน ในฐานะที่ผู้บริหารระดับสูงบริษัทฯ เป็นผู้ดูแลธุรกิจเมล็ดพันธุ์อยู่
“ที่ผ่านมาเราเห็นบทเรียนที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยบางแห่งถูกแปรรูป เช่น กรณีศูนย์อาหารของมหาวิทยาลัย ให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการ ทำให้ราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้น นักศึกษาและบุคลากรต้องลำบาก ทั้งที่ไม่ควรเเสวงหาผลกำไร” ผอ.มูลนิธิชีววิถี กล่าว และว่าเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยที่ทำหน้าที่พัฒนาพันธุ์พืชราคาถูกแก่เกษตรกรรายย่อยและวิสาหกิจท้องถิ่น หากปล่อยให้บริษัทเอกชนผูกขาดตลาดมาทำหน้าที่จะย่ำแย่มากขึ้นไปอีก
นายวิฑูรย์ กล่าวถึงการพัฒนางานวิจัยให้ทันสมัยมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องให้บุคคลในภาคเอกชนเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานหรือกรรมการ เพราะผลประโยชน์ขัดแย้งกัน แต่สามารถให้คำแนะนำได้ในฐานะที่ปรึกษา หรือสภามหาวิทยาลัยจะเชิญเข้ามาให้แนวทางก็ได้
“เราไม่ต้องการให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหารจัดการ เพราะขัดแย้งผลประโยชน์ ฉะนั้นต้องหันมาส่งเสริมศักยภาพบุคลากรในมหาวิทยาลัยและหลักสูตรในการพัฒนาไร่สุวรรณแทน เช่น คณะเกษตร คณะเศรษฐศาสตร์ ทั้งนี้ ผมเชื่อมั่นว่า บุคลากรและศิษย์เก่าสามารถทำหน้าที่นี้ได้ แต่ไม่ใช่แต่งตั้งให้บริษัทเอกชนรายใดรายหนึ่งเข้ามาทำหน้าที่” ผอ.มูลนิธิชีววิถี กล่าวทิ้งท้าย
ด้านศ.ระพี สาคริก อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) กล่าวว่า คนเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นความสำคัญของอดีต เปรียบเสมือนเรือไม่มีหางเสือ ลอยไปเรื่อย ล่มที่ไหนก็ไม่รู้ เพราะไม่เคยนึกถึงประวัติศาสตร์ ฉะนั้นการจะทำอะไรอีลุ่ยฉุยแฉก ไม่มีความหมายทางจิตใต้สำนึก ถือเป็นเรื่องเสียหายมาก ดังนั้น หากผู้ใหญ่ไร้จริยธรรมคุณธรรม เราจะมองหาคุณธรรมได้ที่ไหน อนาคตจึงริบหรี่
“ผมรู้สึกว่าไม่ใช่เพียงภาพที่เราเห็น ขอโทษให้ไปสืบเอาเองด้วย พูดไปเหมือนเอาช้างมาชนกันไม่ดี เดี๋ยวนี้ในสภามหาวิทยาลัยเป็นอย่างไรบ้าง ผมรู้อยู่แก่ใจ แต่พูดไปเหมือนน้ำท่วมปาก รู้ว่าใครเป็นอย่างไรมาก่อน” อดีตอธิการบดี มก. กล่าว และว่า จำเป็นต้องส่งเสริมให้ไร่สุวรรณเป็นศูนย์พัฒนาการวิจัยต่อไป เราต้องซื่อสัตย์สุจริต อย่าคิดทรยศ
เมื่อถามถึงข้อกังวลการแต่งตั้งนายมนตรี คงตระกูลเทียน เป็นประธานฯ ไร่สุวรรณ ศ.ระพี ระบุสั้น ๆ เพียงว่า ใครเคยทำอะไรมาก่อน นิสัยคนไม่เปลี่ยนง่าย ๆ จะเปลี่ยนได้ต่อเมื่อตกทุกข์แล้ว
ขณะที่นายมนตรี คงตระกูลเทียน ได้โพสต์ข้อความถึงกระเเสคัดค้านว่า "เมื่อมีเสียงท้วงติง ผมยินดีรับฟังและจะขอกลับไปคุยกับสภามหาวิทยาลัย เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย เชื่อมั่น ว่าเกษตรของเรายังมีผู้มีความสามารถและจิตอาสาอีกมาก ขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่แสดงความห่วงใยเกษตรของเราด้วยบริสุทธิ์ใจ"
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา นายมนตรี คงตระกูลเทียน ดำรงตำเเหน่งสำคัญ อาทิ กรรมการบริหาร บริษัท สุวรรณชาด จำกัด ในพระบรมราชูปถัมภ์ กรรมการมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เเละที่ปรึกษาสมาคมพืชสวนเเห่งประเทศไทย