ไดอารีชีวิต (ลางร้าย) มิตร ชัยบัญชา
8 ตุลาคม ร่วมย้อนรำลึก 44 ปี เเห่งการจากไปของพระเอกตลอดกาล 'มิตร ชัยบัญชา' บุรุษอมตะวงการเเผ่นฟิล์ม ขวัญใจเเฟนชาวไทยที่ยากจะเลือนหายจากความทรงจำ
ในวงการหนังไทยจะมีนักแสดงสักกี่คนที่เป็นขวัญใจแฟนทุกคน แทบจะมิเสื่อมหายไปจากความทรงจำ สู่ความเป็นอมตะสุดยิ่งใหญ่ที่ยากหาใครแทนที่ บุคคลผู้นั้น คือ ‘พันจ่าอากาศโท พิเชษฐ์ พุ่มเหม’ หรือที่รู้จักในนาม ‘มิตร ชัยบัญชา’
เกือบ 5 ทศวรรษ แห่งการจากไปของพระเอกตลอดกาล ภายหลังประสบอุบัติเหตุตกเฮลิคอปเตอร์ระหว่างถ่ายทำ ‘อินทรีย์ทอง’ เมื่อบ่ายวันที่ 8 ตุลาคม 2513 ณ พัทยา จ.ชลบุรี แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานเพียงใดก็ตาม ยังคงรำลึกถึงเรื่อยมาร่ำไป
‘ดาวดิน ปาฏิหาริย์แห่งรัก ลิขิตแห่งหัวใจ’ นวนิยายจากชีวิตจริง มิตร ชัยบัญชา เป็นอีกหนึ่งไดอารีบันทึกที่ ‘อิงคศักย์’ ได้รังสรรค์ประพันธ์ไว้ ด้วยจิตคารวะ เพื่อชี้ให้เห็นเส้นทาง ความรัก ความฝัน จากหนุ่มลูกทัพฟ้า สู่พระเอกหนังระดับตำนาน ล้วนต้องพบเจอกับขวากหนามอุปสรรคมากมายที่ให้ตัดสินใจ
โดยยอมรับว่า ผู้เขียนได้ศึกษาข้อมูลเป็นอย่างดี และนำมาร้อยเรียงด้วยภาษาเข้าใจง่าย บอกเล่าถึงชีวิตนับแต่วัยเด็ก ชวนให้ผู้อ่านติดตามตั้งแต่หน้าแรกจนอวสาน ซึ่งผมใช้เวลาสัมผัสลิ้มรสอักษรเพียง 3 ชั่วโมงเศษ ก็เหมือนได้ย้อนเวลากลับสู่อดีต แห่งความเรืองรองและมั่งคั่ง ยุคฟิล์ม 16 มม.
ที่สำคัญ ผมสัมผัสได้ถึงชีวิตที่มุ่งมั่น ตั้งใจ มีระเบียบวินัย สมชายชาติทหาร รู้สึกหลงใหลในรูปหล่อเหลา สง่าผ่าเผย คิ้วคมเข้ม และแววตาหวานปนเศร้า อีกทั้ง ความไม่ถือตัว อยู่ง่าย สบายใจ ทำให้มีมิตรรักมากหลาย เชื่อว่าสาว ๆ คงอยากมอบหัวใจให้เขาเสียเต็มประดา น่าเสียดายที่ชีวิตอันรุ่งโรจน์ ต้องแตกดับลง
ทั้งนี้ ผู้เขียนพยายามนำเสนอภาพให้เห็นว่า ก่อนที่ ‘มิตร ชัยบัญชา’ จะเสียชีวิต ได้มีลางบอกเหตุแก่เขา แต่ด้วยฟ้าลิขิต สวรรค์กำหนดโชคชะตา ให้มีตำนานเพียงหนึ่งเดียว จึงต้องพรากชีวิตนี้เขาไป
“พ่อหนุ่ม...ภายในเจ็ดวันนี้...ลื้ออย่าไปรับปากใคร อย่าอาสาทำอะไร...อั๊วเห็นลื้อตกเครื่องบิน...ลื้อจะตายเพราะเครื่องบิน...จำไว้!”
หมอดูตาบอดกล่าวทัก ‘มิตร ชัยบัญชา’ ระหว่างที่เขาช่วยจูงมือหล่อนมาตรงม้านั่ง ซึ่งเขากำลังรอเวลานัดหมายพูดคุยรับบท ‘ไวย ศักดา’ กองถ่าย ‘ชาติเสือ’ แต่มิทันที่จะได้คิดทบทวนในคำเตือน เขาก็ตอบตกลงรับเล่นหนังเรื่องนี้แล้ว
ในเวลาต่อมา กองถ่ายหนัง ค่าน้ำนม ‘คำเตือนเจ้าแม่แสง’ เจ้าที่เจ้าทางเข้าสิงป้าเนียน หญิงวัยกลางคน “ที่นี่เป็นบ้านของข้า...พวกเอ็งมารื้อถอนทิ้งไปหมด ทำให้ข้าเดือดร้อน พวกเอ็งต้องตาย”
‘มิตร ชัยบัญชา’ ท้ากลับว่าหากเขาสร้างศาลเพียงตาคืนเสร็จภายในเย็นวันนี้ ตามที่เจ้าแม่แสงขอ จะมีรางวัลอะไร
“ได้...ถ้าเสร็จทัน ขอให้โด่งดังไปอีกร้อยชาติ”
แม้ฝนจะตกหนักเพียงใด เขาก็สามารถสร้างเสร็จทันเวลา ‘ศาลเพียงตา’ ที่สร้างจากความตั้งใจ ถึงจะรีบร้อน แต่ก็ค่อนข้างสมบูรณ์ ทันใดนั้น เจ้าแม่แสงเข้าสิงร่างป้าเนียนอีกครั้ง
“ไอ้หนุ่ม มึงต้องดัง ต้องรวย แต่...ต้องเสียของรัก”
ซึ่งท้ายที่สุด ‘มิตร ชัยบัญชา’ ก็สูญเสีย ‘นุช’ คนรักไปจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ภายหลังพบกันครั้งสุดท้ายในงานเปิดตัว ‘ชาติเสือ’ ณ ศาลาเฉลิมกรุง
ในที่สุด ดวงวิญญาณของเขาก็ถูกพรากไป ท่ามกลางข้อสงสัยมากมายถึงสาเหตุการจากไป ซึ่งผู้เขียนได้ตั้งคำถามไว้ในบทประพันธ์อยู่ตลอด เสมือนเรียกร้องความเป็นธรรมอยู่กลาย ๆ เพราะด้วยอุปนิสัยละเอียด รอบคอบ ของเขา จึงไม่น่าจะผิดพลาดจนเกิดอุบัติเหตุได้
“ตอนคืนวันที่ 7 ตุลาที่ผ่านมานี้ ผมรับงานขับรถบรรทุกขนอุปกรณ์ไฟฟ้าให้กองถ่ายหนังเรื่อง ‘นางฟ้าชาตรี’ ผมต้องอยู่ด้วยจนสว่าง ตอนดึก...พี่เชษฐ์ (มิตร ชัยบัญชา) เขามาเข้าฉากบู๊ เป็นคิวบู๊ชกกันในสลัมที่ต้องต่อยกับตัวประกอบ แล้วข้อมือซ้ายของพี่เชษฐ์ก็ไปฟาดกับขอบสังกะสีจนถูกบาดเป็นแผลเลือดออก ต้องหยุดถ่ายมาทำแผล แต่พี่เชษฐ์ได้แต่เอายาทาแผลไว้ แล้วก็ถ่ายกันต่อจนสว่าง...” น้อย บอกเล่าให้แม่พระเอกฟัง
ก่อนจะตอบคำถามเส้นบันไดสลิงบาดลึกไม่ใช่หรือ “นั่นไง...ผมว่าแล้ว ผมไปคุยกับพรรคพวกในกองถ่ายอินทรีทอง...ที่เห็นพี่เชษฐ์ตกลงมา ตอนนั้นเฮลิคอปเตอร์มันบินลดระดับลงมาแล้ว จากตอนแรกที่เห็นมันบินลากพี่เชษฐ์ไปบนท้องฟ้าสูงมาก พี่เชษฐ์ก็เลยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการเอาสลิงที่เหลืออยู่มาพันข้อมือซ้ายไว้ เพื่อเป็นตัวล๊อกป้องกันมือหลุดในเวลาที่หมดแรง
...พวกผมเดาว่าพี่เชษฐ์คงทนเจ็บปวดที่ข้อมือไม่ไหว เลยแกะสลิงออกและตั้งใจจะให้ร่วงลงหนองน้ำ...มันต้องเจ็บปวดจนสุดที่จะทนแล้วเท่านั้น คงเป็นเพราะโดนสังกะสีบาดมาก่อนด้วย พอมาโดนสลิงรัดซ้ำเข้าที่แผลเดิมอีก บาดแผลมันเลยลึกไปถึงเส้นเอ็นได้ง่าย ๆ”
‘มิตร ชัยบัญชา’ ตายฟรี?!?! (ไม่มีใครทราบเท่ากับตัวเขาเอง)
ทั้งนี้ ผู้เขียนได้ระบุเหมือนกับว่า ผู้ที่ทำให้พระเอกผู้นี้เสียชีวิต คือ ผู้ที่ทำหน้าที่แทน ขณะที่เขาขึ้นไปแสดง
“...มันนั่งมองพี่เชษฐ์ตกลงมาตายต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร โดยเฉพาะไอ้คนที่ทำหน้าที่แทนพี่เชษฐ์ ตอนพี่เชษฐ์ขึ้นไปแสดงน่ะ...”
ผมจะไม่เชื่อเลย หากไม่มีข้อความนี้มาสนับสนุนที่ว่า พลัน!...สายลมที่นิ่งสนิทอยู่เมื่อครู่ก็พัดวูบ! ...เสมือนรับรู้ความจริงใจ เสมือนจะบอก...ขอบคุณ!
ผมยอมรับโดยสุจริต เมื่อนั่งอ่านถึงข้อความนี้แล้ว ขนลุกซู่ขึ้นทันที
หากยิ่งเสียวสันหลังวาบมากขึ้น เมื่อผมเอ่ยถามคู่ชีวิตว่า “ตัวเองรู้มั้ย...คำร่ำลือเกี่ยวกับ ‘มิตร ชัยบัญชา’ ตอนแม่ตักบาตรคืออะไร”
เธอตอบโดยพลันกลางศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง “ใส่ชุดทหารเดินผ่านตอนตักบาตรไง แม่เค้าเคยเล่าให้ฟัง”
................................................................................
(บนถนนเบื้องหน้านั้น...นักเรียนจ่าอากาศคนหนึ่งในชุดเครื่องแบบเต็มยศกำลังเดินตัวตรงผ่านทุก ๆ คนไปอย่างเข้มแข็งสง่างาม และเมื่อเห็นว่าสายตาทุกคู่ต่างจับจ้องเขาอยู่ ชายหนุ่มคนนั้นก็หันมายิ้มน้อย ๆ ด้วยประกายตาสดใสให้กับทุกคน...ก่อนจะเดินตัวตรงผ่านไปท่ามกลางแสงสีทองเรื่อเรืองอร่ามตาม และเดินหายลับไปกับสายหมอกยามเช้าในต้นฤดูหนาวนั้น...)
ภาพประกอบ:เว็บไซต์วิกิพีเดีย