ก.ล.ต.สั่งคกก.ADAM แจงข้อมูลซื้อบ.เครือข่าย"เสี่ยเปี๋ยง"คดีข้าว!รายบุคคล
ก.ล.ต. สั่งคกก."อาดามัส" หรือ ADAM เจ้าของใหม่ บ.กีธาฯ เครือข่าย เสี่ยเปี๋ยง แจงข้อมูลเข้าซื้อกิจการ 800 ล้าน รายบุคคล เพื่อใช้พิจารณาการปฏิบัติหน้าที่กรรมการตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ หลังพบข้อสังเกตเข้าข่ายรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้มีหนังสือให้คณะกรรมการบริษัทอาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) หรือ ADAM ชี้แจงเกี่ยวกับการซื้อหุ้นบริษัท กีธา พร๊อพเพอร์ตี้ส์ จํากัด หรือ กีธา ตามมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น รวมทั้งบทบาทการดำเนินการของกรรมการในการประชุมผู้ถือหุ้นในวาระดังกล่าว โดยขอความเห็นและข้อมูลของกรรมการเป็นรายบุคคล เพื่อนำมาใช้พิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการแต่ละรายตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ ต่อไป
ก.ล.ต.ระบุว่า การดำเนินการเรื่องนี้ สืบเนื่องจากบริษัท อาดามัส ฯ ได้แจ้งมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2557 ซึ่งผู้ถือหุ้นได้เสนอเพิ่มวาระซื้อหุ้นสามัญของบริษัท กีธาฯ ในมูลค่าทั้งสิ้นไม่เกิน 800,000,000 บาท
โดยที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณาและได้รับการอนุมัติ ซึ่งการซื้อหุ้นกีธาดังกล่าวเข้าข่ายรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญและเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกัน ซึ่งการใช้มติที่ประชุมผู้ถือหุ้นที่ได้จากการเพิ่มวาระในที่ประชุมไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่ออกตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ดังนั้น แม้รายการดังกล่าวจะได้รับมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว คณะกรรมการบริษัทที่จะนำมติมาดำเนินการยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายด้วย ตาม พ.ร.บ. หลักทรัพย์ฯ การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินที่มีนัยสำคัญต้องผ่านการพิจารณาให้ความเห็นของคณะกรรมการบริษัท มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับรายการดังกล่าวในหนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้น โดยมีความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระประกอบด้วย เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับทราบข้อมูลที่ครบถ้วนและมีโอกาสพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจอนุมัติรายการ
ก.ล.ต. ยังระบุว่าได้ประสานงานกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาโดยตลอดเพื่อสนับสนุนการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ จำเป็นต้องบังคับใช้กฎเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนโดยอ้อม (Backdoor Listing) ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์อย่างจริงจัง เพื่อคุ้มครองผู้ถือหุ้นและรักษาความเป็นระเบียบโดยรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด มีชื่อเดิมว่า บริษัท สิราลัย จำกัด ของคนใกล้ชิดและนามสกุลเดียวกับ นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ "เสี่ยเปี๋ยง" นักธุรกิจขายค้าชื่อดังผู้ก่อตั้งบริษัทสยามอินดิก้า จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์
ขณะที่ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทฯ ปรากฎชื่อเป็นหนึ่งในเอกชน 91 ราย ที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) แจ้งข้อกล่าวหาในคดีทุจริตระบายข้าวโครงการรับจำนำ แบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
ต่อมา สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า ภายหลังจากที่ นางสาวธันยพร จันทร์สกุลพร ถูก ป.ป.ช. แจ้งข้อกล่าวหาคดีข้าวดังกล่าว บริษัท สิราลัย จำกัด ได้แจ้งเปลี่ยนชื่อบริษัทใหม่ เป็น "บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด" และปรากฏรายชื่อ นายยุทธพงษ์ เสรีดีเลิศ และ นายผ่านชัย อรุณไพโรจน์ เข้ามาร่วมเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ
พร้อมเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหารและผู้ถือหุ้น จำนวน22,000 หุ้น มูลค่า 2,200,000,000 บาท จากผู้ถือหุ้นกลุ่มเดิมจำนวน 3 ราย คือ นางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข จำนวน 8,800,000 หุ้น มูลค่า 880,000,000 บาท นางสาว ธันยพร จันทร์สกุลพร และนายสรวิศ จันทร์สกุลพร ถืออยู่คนละ 6,600,000 หุ้น มูลค่า 660,000,000 บาท
มาเป็นบริษัท ที แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่สุด 21,999,998 หุ้น มูลค่า 2,199,999,800 บาท ตามด้วยนาย พีรศักดิ์ ไชยกุลงามดี และนาย ยุทธพงศ์ เสรีดีเลิศ ถืออยู่คนละ 1 หุ้น มูลค่า 100 บาท
ก่อนที่บริษัทอาดามัส อินคอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จะเข้ามาซื้อกิจการต่อจาก บริษัท ที แลนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในราคา 800 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในการทำธุรกิจของบริษัท สิราลัย จำกัด ถูกจับตามองอย่างมาก เกี่ยวกับที่มาของเงินเพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 2.2 พันล้านบาท ว่า นำมาจากไหนกันแน่ เนื่องจากการเพิ่มทุนของบริษัทสิราลัย เกิดขึ้นหลังจากที่ บริษัท “GSSG IMP AND EXPORT CORP” จากเมืองกวางเจา ประเทศจีน เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวกับกรมการค้าต่างประเทศ และมีการตรวจพบว่า ตัวแทนบริษัทที่เข้ามาดำเนินการ คือ “รัฐนิธ โสติกุล” (“ปาล์ม” ) และ นายนิมล รักดี มีความเกี่ยวโยงกับ บริษัทสยามอินดิก้า ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2555 ก่อนที่จะมีการนำข้าวไปเร่ขายต่อให้กับโรงสี ตามข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน
ขณะที่แหล่งเงินทุนเกือบทั้งหมด ที่นำมาใช้ในการเพิ่มทุนล้วนแล้ว ถูกระบุว่าเป็นเงินสด มาจากคนใกล้ชิดและมีนามสกุลเดียวกับ นายอภิชาติ แทบทั้งสิ้น
อ่านประกอบ :
เปิดหลักฐาน คนสกุล"เสี่ยเปี๋ยง"ขนเงินสด2.2พันล.ลงขันธุรกิจ ก่อนเจอคดีข้าว
เจาะลึก!หุ้นใหญ่บ.เครือข่าย"เสี่ยเปี๋ยง"โยงทุนสิงคโปร์-"ADAM"โผล่ฮุบ 800 ล.
ฮือฮา!คนใกล้ชิด"เสี่ยเปี๋ยง"โอนหุ้นบ.เอี่ยวคดีข้าวจีทูจี เกลี้ยง 2.2 พันล.
บ.เครือข่าย"เสี่ยเปี๋ยง"เอี่ยวคดีข้าว!ดอดเปลี่ยนชื่อใหม่-เซียนหุ้นนั่งกก.
พลิกปูม“บ.สิราลัย”โผล่สั่งจ่ายเช็คระบายข้าวจีทูจี“เก๊” กล่องดวงใจ“เสี่ยเปี๋ยง"?
เช็คชื่อเอกชน 91 ราย ในบัญชีแจ้งข้อกล่าวหา ป.ป.ช. คดีระบายข้าวจีทูจี!