‘ศ.วิริยะ’ หนุนเก็บภาษีสลากฯ ตัดส่วนแบ่งเข้ารัฐ ตั้งกองทุนพัฒนาชีวิตคนจน
‘ศ.วิริยะ’ เห็นด้วยจัดเก็บภาษีสลากฯ แนะแต่ต้องปรับวิธีคิด นำเงินตั้งกองทุนพัฒนาชีวิตช่วยคนจนให้เพิ่งตัวเองได้
จากแนวคิดของ ดร.สมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่เสนอให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ไปศึกษาการเก็บ "ภาษีสรรพสามติสลากกินแบ่งรัฐบาล" เช่นเดียวกับภาษีบาป เก็บจากเหล้าและบุหรี่ นั้น
สำนักข่าวอิศรา(www.isranews.org) ได้พูดคุยกับศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธ์ุ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงเรื่องความเป็นไปได้ของแนวคิดการเก็บภาษีดังกล่าว
ศ.วิริยะ กล่าวว่า การเก็บภาษีสรรพามติสลากกินแบ่งรัฐบาลจะเป็นไปได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับวิธีคิดของรัฐบาลว่า จะนำภาษีที่ได้มาช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตเครือข่ายภาคประชาสังคมเรียกร้องหรือไม่ ทั้งนี้หากจะเก็บภาษีจากสลากกินแบ่งรัฐบาลจริงก็เห็นด้วย โดยเงินภาษีที่เก็บมาต้องนำมาช่วยเหลือภาคประชาชนในรูปแบบต่างๆ อาทิ นำรายได้เข้ากองทุนกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ที่มีอยู่แล้ว หรือจัดตั้งกองทุนขึ้นใหม่เพื่อช่วยเหลือคนจน กองทุนการส่งเสริมการศึกษา ส่งเสริมเรื่องอาชีพให้สามารถเพิ่งตนเองได้และเป็นที่เพิ่งของคนอื่น รวมไปถึงการจัดตั้งกองทุนสำหรับคนจน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ เป็นต้น
“เวลาเก็บภาษีอย่านำเงินที่เก็บไปแล้วนำไปเข้าคลัง เพราะรัฐมีรายได้เยอะมากพอแล้ว หรือนำเงินภาษีไปช่วยคนรวย ผมขอร้อง อย่างน้อยเงินจากสลากกินแบ่งฯ ที่มาจากคนจนต้องคืนให้คนจน ไปส่งเสริมในด้านต่างๆ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสามารถเพิ่งตัวเองได้ดีกว่า อย่ากดให้กลุ่มคนเหล่านี้ต้องคอยแบมือขอนักการเมืองไปเรื่อยๆ เพราะสังคมสร้างระบบขึ้นมาทำให้ต้องเป็นเช่นนั้น ไม่เช่นนั้นการปฏิรูปประเทศจะไม่สำเร็จ” อาจารย์นิติศาสตร์ มธ.กล่าว
ศ.วิริยะ กล่าวถึงการเก็บภาษีสลากฯ สามารถแบ่งมาจากอัตราที่รัฐเคยรับร้อยละ 28 ซึ่งจะไม่ทำให้การจำหน่ายสลากแพงขึ้น ดังนี้ เป็นรางวัลของผู้เสี่ยงโชคร้อยละ 60 เท่าเดิม แต่การแบ่งให้รัฐฯ ไม่เกินร้อยละ 15 จากเดิมร้อยละ 28 ในส่วนของคนขายจากเดิมร้อยละ 9 ก็เพิ่มให้ไม่เกินร้อยละ 12 ทั้งนี้เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับคนขายสลาก ส่วนสำนักงานสลากฯ ได้รายได้ร้อยละ 3 เท่าเดิม และไปเพิ่มให้กับการเก็บภาษีร้อยละ 10 ของราคาสลาก
“การเก็บภาษีต้องใคร่ครวญให้ดี ถ้าจะเก็บภาษีแล้วนำไปเข้ากองคลังของรัฐจะเป็นการทำยิ่งกว่าค้ากำไรเกินควร ซึ่งปกติเก็บร้อยละ 28 อยู่แล้ว ไม่มีประเทศไหนในโลกนำเงินสลากไปเข้ากองคลังมีแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่ทำ ประเทศอื่นมีแต่นำเงินสลากไปช่วยคนจน” อาจารย์นิติศาสตร์ มธ. กล่าว และตั้งคำถามว่า ที่รัฐบอกว่านำไปลงทุนคือนำไปลง ทุนอะไรหากนำไปลงทุนทำให้จีดีพีของประเทศสูงขึ้นก็อย่าทำ เพราะเป็นการช่วยคนรวยมากกว่าคนจน