“วิชา”ลั่นถ้าไม่มียึดอำนาจปท.พินาศไปแล้ว ยันปชช.ต้องร่วมกันต้านโกง
”วิชา” ลั่นกลางงานสัมนาผนึกกำลังผู้นำศาสนาป้องทุจริต “ถ้าไม่มีการยึดอำนาจ ประเทศพินาศไปแล้ว” ชี้ประชาชนทุกคนต้องมีส่วนร่วมต้านโกง ไม่ใช่แค่ ป.ป.ช. ระบุต้องใช้ยุทธศาสตร์แยกกันเดิน ร่วมกันตี - "วีระวุฒิ" ยังไม่เข้าชี้แจง ป.ป.ช. คดีระบายข้าว - คดีข้าว BULOG คืบไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2557 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จัดโครงการสัมนารวมพลังผู้นำศาสนาป้องกันการทุจริต เดินหน้าเสริมสร้างทัศนคติค่านิยมในความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ระยะที่ 2 โดยใช้กลไกของแต่ละศาสนา ซึ่งจะเป็นการผนึกกำลังของผู้นำศาสนาพุทธ อิสลาม คริสต์ พราหมณ์ และซิกซ์ โดยมีตัวแทนจากแต่ละศาสนาเข้าร่วมการสัมนาเป็นจำนวนมาก
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวเปิดงานสัมนาว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีปัญหาที่บั่นทอนการพัฒนาประเทศคือปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบ ซึ่งการรวมพลังหรือผนึกกำลังขององค์กร หรือกลุ่มต่าง ๆ เพื่อขับเคลื่อนแก้ปัญหาการทุจริต หากมีการผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อปลูกจิตสำนึกการต่อต้านการทุจริต เน้นการปรับเปลี่ยนฐานความคิดของคนในทุกภาคส่วนในการรักษาผลประโยชน์สาธารณะ ส่งเสริมค่านิยมสุจริต และการมีระเบียบวินัย โดยเฉพาะเยาวชนะ ให้มีค่านิยมที่สุจริต รักษาประโยชน์สาธารณะ ให้มีการต่อต้านการทุจริต โปร่งใส และมีธรรมาภิบาล ซึ่งเชื่อว่าการทุจริตในระบบราชการ และภาคเอกชนจะลดลง
นายวิชา กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายแนวทางการรวมพลังผู้นำศาสนาป้องกันการทุจริตว่า ค่านิยมสังคมทุกวันนี้เปลี่ยนไป เงินเป็นพระเจ้าแทนศาสนา หากวันนี้ไม่มีการยึดอำนาจ ประเทศคงจะพินาศไปแล้ว เพราะมีการข่าวชัดเจนว่ามีกองกำลังต่างชาติเข้ามา อีกทั้งหลากหลายภาคส่วนก็สามารถซื้อได้ด้วยเงิน วันนี้ทุกคนในสังคมต้องช่วยกันในการต่อต้านการทุจริต อย่าให้เป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ฝ่ายเดียว เพราะการทุจริตชาติ เป็นการโกงภาษีของประชาชน โกงสาธารณะประโยชน์ของแผ่นดิน ซึ่งทุกคนในประเทศมีส่วนเป็นเจ้าของ หากเราไม่ผนึกกำลังกัน สมบัติเหล่านี้ก็จะหมด
“เราต้องร่วมกันรณรงค์ อาจจะใช้ยุทธศาสตร์แยกกันเดิน ร่วมกันตี โดยต้องตีเรื่องทุจริตที่มีการปกปิดเพื่อให้เกิดการตรวจสอบ และต้องร่วมกันเป็นเครือข่ายอย่างเอาจริงเอาจัง” นายวิชา กล่าว
ทั้งนี้ภายหลังการบรรยาย นายวิชา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีระบายข้าวให้กับบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ปรับปรุงข้าวเพื่อส่งมอบแก่อินโดนีเซีย 3 แสนตัน (BULLOG) โดยมีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรมว.พาณิชย์ เกี่ยวข้อง ว่า เรื่องดังกล่าวอยู่ระหว่างไต่สวน โดยมีการไต่สวนนัดแรกไปแล้ว ในวันที่ 5 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา ซึ่ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาให้ถ้อยคำกับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะผู้ร้อง และพยานที่สำนักงาน ป.ป.ช.
(อ่านประกอบ : “หม่อมอุ๋ย”โผล่ให้ถ้อยคำป.ป.ช.คดีระบายข้าวอินโดฯ 3 แสนตันปี’54)
เมื่อถามว่า พ.ต.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ หนึ่งในผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาคดีระบายข้าวได้เข้ามาชี้แจงข้อกล่าวหาแล้วหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า เบื้องต้น พ.ต.วีระวุฒิ ยังไม่ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับ ป.ป.ช. ซึ่งทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็ยังรอให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อยู่
อ่านประกอบ :
“หม่อมอุ๋ย”โผล่ให้ถ้อยคำป.ป.ช.คดีระบายข้าวอินโดฯ 3 แสนตันปี’54
โชว์หนังสือ ป.ป.ชแจ้งข้อกล่าวหา อดีต เลขาฯ"บุญทรง”คดีขายข้าว