ศาลปค.สั่งทุเลามติกสท.ยืดเวลาช่อง 3 ฉายอนาล็อคได้ถึง 11 ต.ค.

ศาลปกครองไต่สวน 5 ชั่วโมง สั่งทุเลาคำสั่ง กสท. วันที่ 8 ก.ย. ยืดเวลาช่อง 3 อนาล็อคออกอากาศบนโครงข่ายดาวเทียม-เคเบิ้ลได้ ถึงวันที่ 11 ต.ค. 16.30 น. หลัง กสท. ยืนยันข้อกฎหมายเปิดช่องออกคู่ขนานในระบบดิจิตอลได้ ลั่นไม่ใช่เป็นการเจรจาทางธุรกิจ

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2557 เวลา 14.00 น. นายดนัย ศรีโมรา ตุลาการศาลปกครอง ในฐานะตุลาการเจ้าของสำนวนได้ออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนฉุกเฉิน คดีสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ยื่นฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) คณะกรรมการ กสทช. และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ให้เพิกถอนมติ กสท. เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2557 ที่ห้ามไม่ให้โครงข่ายโทรทัศน์ดาวเทียม และเคเบิ้ลนำช่อง 3 ระบบอนาล็อคมาออกอากาศในโครงข่ายของตน และระหว่างนี้ให้ศาลกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยไม่ให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 อนาล็อคต้องจอดำนับตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2557 รวมทั้งไต่สวนคดีสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย และนายธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือ “เป็ด เชิญยิ้ม” ผู้บริหารบริษัท คอเมดี้ไลน์ จำกัด ผู้ผลิตรายการก่อนบ่ายคลายเครียด ยื่นฟ้องขอให้ศาลสั่งระงับการใช้มติ กสท. ที่จะทำให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 3 จอดำในวันที่ 30 กันยายน 2557 ด้วย

โดยผู้บริหารและทีมกฎหมายของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 และกรรมการ กสท. 3 คน ประกอบด้วย พล.ท.พีระพงศ์ มานะกิจ นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ที่เป็นเสียงข้างมากของมติ กสท. ดังกล่าว รวมทั้งนายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการสำนักงาน กสทช. และผู้แทนบริษัททีวีดาวเทียมและเคเบิ้ล เช่น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้เข้าให้ข้อมูลกับคณะตุลาการ

หลังการไต่สวนกว่า 5 ชั่วโมง เมื่อเวลาประมาณ 19.15 น. กรรมการ กสท. ทั้ง 3 ราย ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดย พล.ท.พีระพงศ์ กล่าวว่า ศาลปกครองมีคำสั่งทุเลาการบังคับใช้มติ กสท.ลงวันที่ 8 กันยายน 2557 ที่ให้ช่อง 3 อนาล็อคไม่สามารถออกอากาศในระบบโครงข่ายดาวเทียมและเคเบิ้ลหลังวันที่ 30 กันยายนนี้ ออกไป โดยยังคงให้ช่อง 3 อนาล็อคออกอากาศในระบบโครงข่ายได้ปกติไปจนถึงวันที่ 11 ตุลาคมเวลา 16.30 น. ซึ่งระหว่างนี้ทางช่อง 3 ก็จะทำหนังสือมายัง กสท.ให้มีการพิจารณา

พ.ท.พีระพงศ์ กล่าวอีกว่า ในการไต่สวน กสท. ได้อธิบายถึงแนวทางที่จะทำให้ช่อง 3 สามารถออกอากาศคู่ขนานโดยไม่ขัดกฎหมาย ทำให้ทางช่อง 3 คลายกังวล อย่างไรก็ดีทางช่อง 3 ขอให้ศาลขยายเวลาไป 30 วัน เพื่อจะได้มีเวลาในการจัดการระบบภายในก่อน แต่ทาง กสท. เห็นว่ากรณีดังกล่าวได้ให้โอกาสแล้วและในข้อเท็จจริงสามารถดำเนินการออกคู่ขนานได้เลย รวมทั้งระยะเวลา 15 วันก็น่าเพียงพอ ศาลจึงได้มีคำสั่งดังกล่าว ทั้งนี้ตามมติ กสท. เมื่อวันที่ 8 กันยายน ยังถือว่ามีผลอยู่เพียงแค่ถูกสั่งให้ทุเลาเท่านั้น ดังนั้นสำหรับช่อง 3 ต้องถือว่าสิ่งที่ได้ตกลงในศาลเป็นพันธสัญญาที่ต้องดำเนินการ จะไม่สามารถเลยวันที่ศาลมีคำสั่งได้ โดยศาลก็ได้ให้คู่กรณีรายงานผลการปฏิบัติตามคำสั่งศาลด้วย

“เราพูดกันต่อศาล ไม่ใช่การเจรจรธุรกิจ ซึ่งผู้แทนช่อง 3 ที่มา ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ซึ่งศาลก็ถามช่อง 3 ว่า ตกลงจะออกคู่ขนานไหม หลังจากที่เราให้ความชัดเจนในข้อกฎหมายว่าสามารถดำเนินการได้ ซึ่งช่อง 3 ก็ตกลงเลยว่าจะไปดำเนินการให้ได้ตามกรอบเวลานี้ แม้ว่าในทางเทคนิคทางเราจะเห็นว่าสามารถออกอากาศแบบคู่ขนานได้ทันทีก็ตาม เพราะในวันที่ 10 ตุลาคม ทาง กสท. ก็จะเริ่มแจกคูปองส่วนลดกล่องรับสัญญาณดิจิตอล ซึ่งถ้าหากมีการดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนการแจกคูปองได้ก็จะยิ่งดี ส่วนเรื่องเยียวยา ช่อง 3 ไม่ได้พูด ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็ได้เยียวยาไปเป็นจำนวนเงินพอสมควรแล้ว” พ.ท.พีระพงศ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำสั่งขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง ระบุว่า ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนของศาล ซึ่งคู่กรณีทั้งสองฝ่ายแถลงต่อศาลว่า จะไปตกลงทำความเข้าใจกันเพื่อหาข้อยุติข้อพิพาทในคดีนี้ ในชั้นนี้จึงมีความเห็นร่วมกันขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมติของ กสท. ในการประชุมครั้งที่ 37/2557 เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2557 และคำสั่งทางปกครองตามหนังสือที่ ทสช 0412/29664 ลงวันที่ 10 กันยายน 2557 ไปจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2557 เวลา 16.30 น. โดยให้คู่กรณีแจ้งผลความคืบหน้าผลการหารือวันดังกล่าวให้ศาลทราบภายในกำหนดเวลาดังกล่าว

จึงมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามมติของ กสท. ในคราวการประชุมครั้งที่ 37/2557 เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2557 ตามหนังสือที่ ทสช 0412/29664 ลงวันที่ 10 กันยายน 2557 ไปจนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2557 เวลา 16.30 น. เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น