ป.ป.ช.คาดคณะทำงานฯสรุปคดีข้าว “ปู”ต.ค.นี้-ลั่นต้องทำให้กระจ่างชัด
ป.ป.ช. วางกรอบถกคณะทำงานร่วมฯ อสส. เสร็จไม่เกินสิ้นเดือน ต.ค. คาดประชุมอีก 2 ครั้งรู้ผล ลั่นต้องทำให้สังคมกระจ่างชัด
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2557 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมร่วมระหว่าง ป.ป.ช. กับอัยการสูงสุด (อสส.) ในคดีโครงการรับจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เป็นการประชุมครั้งแรกของคณะทำงานร่วมฯในกรอบของการที่ผู้แทนอัยการฯนำเสนอความเห็นว่ามีข้อไม่สมบูรณ์อยู่ 4 ประเด็นที่เสนอมาอย่างไร และต้องการให้ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในเรื่องใดบ้าง เช่น เรื่องพยานบุคคล พยานเอกสาร ที่เห็นว่ายังไม่ครบถ้วน และเมื่อ ป.ป.ช. ให้เหตุผลในแต่ละประเด็นทั้ง 4 ประเด็นนั้นแล้ว เห็นด้วยหรือไม่ อย่างไร
“ได้คุยในกรอบทั้ง 4 ประเด็นแล้ว ป.ป.ช. ได้ยืนยันในข้อไม่สมบูรณ์ไปว่า ในสำนวนนั้นมีพยานหลักฐานหมดแล้ว สามารถไปเปิดในพยานเอกสาร แฟ้มที่เท่าไหร่ หน้าที่เท่าไหร่ รวมทั้งพยานบุคคล ป.ป.ช. ได้สอบไว้แล้ว และอยู่ในเอกสารแฟ้มที่เท่าไหร่ หน้าที่เท่าไหร่ ซึ่งทางฝ่ายอัยกาฯก็ต้องกลับไปดูอีกครั้งว่าที่ ป.ป.ช. ระบุว่าสอบแล้ว รวบรวมแล้วนั้น พอฟังได้หรือไม่ และข้อไม่สมบูณณ์ที่อัยการฯตั้งมานั้นรับได้หรือไม่” นายสรรเสริญ กล่าว
นายสรรเสริญ กล่าวอีกว่า หากอัยการฯรับไม่ได้จริง ๆ ในการประชุมครั้งหน้าที่นัดกันวันที่ 10 ตุลาคม 2557 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ก็จะกลับมาบอกให้ที่ประชุมทราบ หากอัยการฯรับได้หรือไม่ได้ แล้ว ป.ป.ช. รับได้หรือไม่ ถ้าตกลงกันไม่ได้ ก็จะถือว่ายังไม่สามารถตกลงกันในเรื่องการดำเนินคดีได้ แต่ถ้ารับได้ ทำร่วมกันได้ ก็ต้องไปดำเนินการร่วมกัน
นายสรรเสริญ กล่าวด้วยว่า คณะทำงานร่วมฯได้ตั้งปฏิทินไว้ว่าจะประชุมอีก 2 ครั้งจึงจะทำการสรุปได้ แต่ยกเว้นหากจะต้องมีการไต่สวนเพิ่มเติมก็ต้องเพิ่มเวลานิดหน่อย ก็ต้องดูก่อน อย่างไรก็ดีหลังจากนัดที่สองประชุมในวันที่ 10 ตุลาคมนี้แล้วไม่มีอะไร ก็นัดกันได้อีกภายในไม่เกิน 10 วัน
“ผมพยายามที่จะขอว่า เรื่องนี้จะต้องทำให้กระจ่าง เพื่อสังคมจะได้กระจ่างด้วย ดังนั้นตามกรอบปกติ เชื่อว่าสามารถสรุปได้ไม่เกินสิ้นเดือนตุลาคมนี้ว่า อัยการฯจะส่งฟ้องคดีดังกล่าวเองหรือไม่” นายสรรเสริญ กล่าว