อธิบดีศาลเยาวชนฯยันทหารไม่มีอำนาจจับ"เด็ก"โดยพลการ แม้มีกฎอัยการศึก
อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนฯ ร่อนบันทึกถึงผู้พิพากษา-บุคลาการทั่วประเทศ ยันทหารไม่มีสิทธิ์จับกุมตัวเด็กโดยพลการ แม้ประกาศกฎอัยการศึก ยึดทำตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนฯ ม.66 เคร่งครัด
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายสุภัทร อยู่ถนอม อธิบดีผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ทำเอกสารเรียนถึงผู้พิพากษา ผู้พิพากษาสมทบ และบุคลากรของศาลเยาวชนและครอบครัวทั่วราชอาณาจักร ระบุว่า ตามที่กองทัพบกได้ออกประกาศกองทัพบกฉบับที่ 1/2557 เรื่อง ประกาศใช้ พ.ร.บ. กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารมีอำนาจเต็มที่จะตรวจค้นได้ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ มาตรา 8 โดยไม่ต้องมีหมายค้นนั้น
ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางขอเรียนชี้แจงว่า อำนาจการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารโดยไม่มีหมายค้นตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ มาตรา 8 เป็นอำนาจพิเศษไม่อยู่ภายใต้บังคับตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึกฯ ไม่ได้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารจับกุมเด็กหรือเยาวชนได้ แม้เจ้าหน้าที่ทหารจะมีอำนาจตรวจค้นโดยไม่ต้องมีหมายจับ
แต่การที่จะทำการจับกุมเด็กหรือเยาวชนได้ ต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ศาลและเยาวชนและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 มาตรา 66 คือ ห้ามมิให้จับกุมเด็กซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด เว้นแต่เด็กนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้า หรือมีหมายจับ หรือคำสั่งของศาล ส่วนการจับกุมเยาวชนซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิด ต้องยึดถือตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 คือ พนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจจะจับเยาวชนโดยไม่มีหมายจับหรือคำสั่งของศาล ไม่ได้ เว้นแต่
(1) เยาวชนนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้า (2) เมื่อพบเยาวชนะโดยมีพฤติการณือันควรสงสัยว่าน่าจะก่อเหตุร้ายให้ภยันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น โดยมีเครื่องมือ อาวุธ หรือวัตถุอย่างอื่นอันสามารถใช้ในการกระทำความผิด (3) เมื่อมีเหตุที่จะออกหมายจับเยาวชนตามมาตรา 66 (2) ได้ แต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับได้ (4) เ)นการจับเยาวชนที่เป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยที่หนีหรือจะหลบหนีในระหว่างการถูกปล่อยตัวชั่วคราว
“ดังนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารตรวจค้นสถานที่ใด หากจะจับกุมเด็กหรือเยาวชนต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ศาลเยาวชนฯ มาตรา 66 มิฉะนั้นจะเป็นการจับโดยมิชอบ จึงเรียนมาเพื่อทราบ และถือเป็นแนวปฏิบัติร่วมกันต่อไป” เอกสารดังกล่าว ระบุ
แหล่งข่าวจากศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กล่าวว่า เหตุผลที่อธิบดีศาลฯ ต้องทำสารแจ้งเวียนดังกล่าว เป็นเพราะเกิดกรณีทหารเข้าจับกุมเด็กในจังหวัดแห่งหนึ่ง มีหมายค้น แต่ไม่เข้าเงื่อนไข กม.เช่น ไม่มีหมายจับหรือไม่ได้ทำผิดซึ่งหน้า จนมีการส่งตัวมาที่ศาล ซึ่งต้องไต่สวนการจับ พบว่าจับไม่ชอบ เพื่อให้มีแนวปฏิบัติชัดเจนจึงทำหนังสือเวียนแจ้งทุกศาล