เมื่อ4รมต.พร้อมใจพูดถึงปัญหาชายแดนใต้
เมื่อวันจันทร์ที่ 15 ก.ย.57 รัฐมนตรีใหม่หลายคนได้เดินทางเข้าทำงานที่กระทรวงของตนเองเป็นวันแรก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และได้พร้อมใจกันให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
"ทีมข่าวอิศรา" ขอสรุปสาระสำคัญมานำเสนอ เพื่อให้เห็นถึงมุมมองต่อปัญหาและทิศทางการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลชุดนี้
ประวิตร : นโยบายชัดพูดคุยสันติสุข
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ในส่วนของการดูแลพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่ในความรับผิดชอบของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แต่ตนยังไม่ได้ลงไปพิจารณาในรายละเอียด
สำหรับการพูดคุยเพื่อสันติสุขกับกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐนั้น ยังต้องไปดูในเรื่องของรายละเอียด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นการพูดคุยเพื่อสันติสุข
ส่วนกรณีที่ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เดินทางไปหารือกับเลขาธิการ สมช.ของมาเลเซีย ถึงแนวทางการพูดคุยนั้น พล.อ.ประวิตร บอกว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่มั่นใจว่ารัฐบาลนี้ และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะนำพาประเทศชาติเดินหน้าไปได้อย่างแน่นอน
อนุพงษ์ : ต้องชนะใจคนใต้-จำกัดเสรีผู้ก่อการ
ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีต ผบ.ทบ. กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น หัวใจคือต้องชนะใจคนใต้ ขณะเดียวกันต้องจำกัดเสรีของขบวนการที่สร้างสถานการณ์รุนแรง แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย
"ถามว่าขณะนี้สิ่งที่ทำหรือโครงการต่างๆ โดนใจประชาชนหรือไม่ เพราะใช้การพัฒนาเข้าไปแก้ไข โดยมีงบประมาณปีละ 2 หมื่นกว่าล้าน ฉะนั้นต้องทำให้ประชาชนเชื่อถือ เพื่อนำไปสู่ความร่วมมืออย่างยั่งยืน และต้องไม่ให้คนก่อการทำได้สำเร็จ เราต้องสกัดกั้นผู้ก่อการตามกฎหมาย"
สุวพันธุ์ : ขอโอกาสทำงาน 3-6 เดือนดีขึ้นแน่
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ กล่าวว่า ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ถ้ายึดหลักของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา และหลักของนายกรัฐมนตรี คือ ฟังก่อน ทำทันที มีผลสัมฤทธิ์และยั่งยืน แล้วดำเนินการจัดทำแผนปฏิบัติการให้สอดคล้อง ก็เชื่อว่าน่าจะดีขึ้น
ทั้งนี้ งานด้านภาคใต้นั้นหากมีคนที่มีความรู้หลายคนเข้ามาช่วยกันก็น่าจะไปได้ ส่วนสถานการณ์ที่ยังไม่ค่อยดี เชื่อว่าเป็นเพราะขณะนี้อยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน หากรออีกสักระยะหนึ่งให้รัฐบาลได้มีโอกาสได้ทำงานตามแนวทางของรัฐบาล และหน่วยงานในพื้นที่ก็ทำงานไปตามนโยบาย รวมทั้งการพูดคุยสร้างสันติสุขที่เดินหน้าไปส่วนหนึ่งแล้ว ก็ให้เดินต่อไปตามที่ควรจะเป็น ทั้งหมดนี้ก็คิดว่าน่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น แต่ไม่อยากพูดว่าจะดีขึ้นอย่างทันอกทันใจ
"ผมคิดว่าให้โอกาสรัฐบาลชุดนี้ทำงานภาคใต้อย่างจริงๆ จังๆ สัก 3-6 เดือนก็น่าจะเห็นอะไรที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น บางอย่างรัฐบาลและเจ้าหน้าที่เขาก็กำลังทำอยู่ แต่เขาพูดไม่ได้ว่าทำอะไรอยู่บ้าง แต่เท่าที่ผมทราบมันจะทำให้การแก้ปัญหาภาคใต้เป็นเอกภาพมากขึ้น เกิดความไว้วางใจระหว่างรัฐบาลไทยกับข้างนอก กับในพื้นที่ ลองให้รัฐบาลได้ทำในสิ่งที่รัฐบาลได้วางแนวทางไว้ นายกรัฐมนตรีและคนที่เข้ามาทำงานภาคใต้ไม่มีวาระส่วนตัว ทุกอย่างมีวาระเดียวคือทำให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน ไม่มีเรื่องอื่น และนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันเรื่องนี้มาตลอด"
เมื่อถามว่า การเจรจารอบใหม่ที่จะเกิดขึ้นจะส่งผลดีหรือไม่ นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า การเจรจานั้นคือกระบวนการสร้างสันติสุข เป็นกระบวนการหนึ่งที่จะทำให้เกิดสันติสุข แต่ไม่ใช่กระบวนการทั้งหมด และเป็นวิธีที่จะทำให้เกิดความไว้วางใจ ความเชื่อมั่นต่อกัน และเดินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนตัวคิดว่าต้องทำผสมผสานกันทั้งในทางลับและเปิดเผย ทำทั้งสองอย่าง ส่วนหัวหน้าทีมพูดคุยนั้น นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้กำหนดตัวบุคคลอีกครั้ง
ประยุทธ์ : ทหารตายไม่ใช่รบไม่เก่ง
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในงานแถลงยุทธศาสตร์ชาติ และยุทธศาสตร์ทหาร พ.ศ. 2558-2562 ของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นปี 2556 ตอนหนึ่งว่า ปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นมีมาก บางคนไม่เข้าใจกองทัพ ทหารตายทุกวัน สู้เขาไม่ได้หรืออย่างไร เป็นสิ่งที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ต้องอธิบาย
"ไม่ใช่เราสู้ไม่ได้ มันแอบยิงเราแล้วจะทำอย่างไร หรือต้องแอบยิงกับมัน เลยไม่รู้ใครเป็นใคร บ้านเมืองยิงกันเละไปหมดทั้งเมือง แล้วต่างชาติก็จะเข้ามา ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องระวัง ตอนนี้ที่พูดอะไรไม่ได้เต็มปาก เพราะไม่ให้ต่างชาติเข้ามา ให้ถือเป็นกิจการภายในของไทย อาเซียนก็บอกเป็นเรื่องของไทยแก้ไขไป สิ่งที่น่าพอใจตอนนี้คือยังไม่ลุกลามให้ต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง"
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาต้องแก้ด้วยความเข้าใจและพัฒนา ต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
"มีคนเจ็บคนตายคิดว่าไม่เสียใจหรือที่ลูกน้องตาย ลูกเมียทหารไม่มีหัวใจหรืออย่างไร พูดจาเสียหายไปหมด อย่าใช้เงินทองเป็นตัววัด วันนี้เราสู้กันในสายเลือดมาตลอดเป็นร้อยปี เราจะเร่งรัดทำให้เร็วและดีที่สุด เราต้องไปพุดคุยสันติภาพ ไม่ใช่ใช้กำลังอย่างเดียว บางคนบอกไม่ต้องคุย เอาทหารทุ่มเทกวาดล้างทั้งหมด ถ้าทำแบบนั้นจะเข้าเงื่อนไขของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทันที"
"ถ้ามีการใช้กำลังขนาดใหญ่เมื่อไร เมื่อยิงกันสนั่นทั้งเมือง รบกับประชาชนที่นับถือคนละศาสนา ยูเอ็นสามารถส่งกำลังเข้ามาได้ทันที ต้องเข้าใจอย่าไปเชื่อการวิพากษ์วิจารณ์ กลายเป็นว่าทหารรบไม่เก่ง เสียหายไปหมด ถ้ารบไม่เก่งจะไปรบให้ตายทุกวันทำไม เบี้ยเลี้ยงวันละไม่เกิน 240 บาทยังไปอยู่ให้เลย ถ้าไม่แต่งเครื่องแบบ นอกเครื่องแบบ ไปรบต่างคนต่างดัก ไม่รู้ใครเป็นใครแล้วพวกมั่วก็มีอีก ทั้งอิทธิพล ค้าของเถื่อน ผสมอยู่ตลอด ต้องค่อยๆ แก้กันไป"
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : (บนซ้าย) พล.อ.ประวิตร (ขวา) พล.อ.ประยุทธ์ (ล่างซ้าย) นายสุวพันธุ์ (ล่างขวา) พล.อ.อนุพงษ์
ขอบคุณ : ข่าวจากสำนักข่าวเนชั่น