เลขาฯป.ป.ท รับชงชื่อ"ผอ.สำนักฯ"ขึ้นตำแหน่งรองฯ-ยันใช้วิธีการสรรหาด้วย
"ประยงค์ ปรียาจิตต์" เลขาธิการ ป.ป.ท. ปัดทำ"บายพาส" เสนอชื่อ "ผอ.สำนักฯ" 2 ราย ขึ้นเสียบตำแหน่งรองฯ ระบุทำเรื่องถึง "พล.อ.ประยุทธ์" แค่แจ้งให้รับทราบตามนโยบาย คสช. แต่หลังได้รับอนุมัติต้องผ่านกระบวนการสรรหาอีกครั้ง ไม่มีลัดขั้นตอน ลั่นไม่เคยกลั่นแกล้งใส่ร้ายใคร-แค่ให้ข้อมูลใครมีคุณสมบัติเหมาะสมทำงานอะไรเท่านั้น
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับเรื่องร้องเรียนความไม่ถูกต้องของข้าราชการกระทรวงยุติธรรม ต่อกรณีนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอให้มีการแต่งตั้งรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. จำนวน 2 ตำแหน่ง ในช่วงต้นเดือนส.ค.57 โดยไม่ผ่านกระบวนการสรรหา ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอข้อมูลไปก่อนหน้านี้
(อ่านประกอบ : โวย"เลขาฯ ป.ป.ท." ชงตั้ง "รองฯ" ไม่ผ่านการสรรหา-ยกขบวนดูงานตปท. , เบื้องลึก! ป.ป.ท.ชง "ประยุทธ์" บายพาส"ผอ.สำนักฯ"เสียบเก้าอี้รองเลขาฯ)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ก.ย.57 นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า ได้ทำเรื่องไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในต้นเดือนส.ค.57 เพื่อขอแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ จำนวน 2 ราย ให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ป.ป.ท. ตามที่ปรากฎเป็นข่าวไปจริง แต่ยืนยันว่าในขั้นตอนการแต่งตั้ง ผู้อำนวยการทั้ง 2 ราย จะต้องผ่านกระบวนการสรรหาอีกครั้ง ไม่มีการลัดขั้นตอนตามที่ถูกร้องเรียนอย่างแน่นอน
"การทำเรื่องขอแต่งตั้งรองเลขาธิการฯ ใหม่จำนวน 2 ราย เป็นการดำเนินการตามคำสั่งของ คสช. ที่แจ้งให้ส่วนราชการนำเสนอรายชื่อข้าราชการในสังกัดของตนเอง ที่ต้องการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ ส่งมาให้ คสช.รับทราบล่วงหน้า ตามคำสั่งของ คสช. ที่ออกมาก่อนหน้า คำสั่งเรื่องการห้ามโยกย้ายเปลี่ยนแปลงตำแหน่งข้าราชการ เพื่อรอรัฐบาลใหม่จะออกมา ผมก็ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ทุกกระทรวงหรือหน่วยงานอื่นก็ทำแบบนี้"
นายประยงค์ ยังกล่าวด้วยว่า การนำเรื่องแต่งตั้งข้าราชการในสังกัด ป.ป.ท. ที่เสนอ คสช.ในครั้งนี้ ผ่านการพิจารณาตามขั้นตอนของกระทรวงยุติธรรม รองปลัดกระทรวงยุติธรรม ที่ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งรมว.ยุติธรรม ก็ลงนามเห็นชอบตามขั้นตอน ตนไม่ได้ใช้อำนาจดำเนินการโดยพลการ
"ขณะนี้ รอความเห็นชอบจาก คสช.อยู่ ซึ่งถ้ามีคำสั่งเห็นชอบออกมา ก็จะให้ผู้อำนวยการสำนักฯ ทั้ง 2 ราย เข้าสู่กระบวนการสรรหาตามขั้นตอนปกติของ สำนักงาน ป.ป.ท. ไม่มีการลัดขั้นตอนแต่งตั้งเลยอย่างแน่นอน"
นายประยงค์ ยังยืนยันว่า การเสนอขอโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการระดับสูงในขณะนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะมุ่งร้ายหรือกลั่นแกล้งใครให้ได้รับความเสียหาย เพราะเน้นเจตนาที่เนื้องานเป็นหลัก ซึ่งงานปราบปรามการทุจริตของ ป.ป.ท.ปัจจุบันจำเป็นที่จะต้องได้บุคคลที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญงานด้านนี้ เข้ามาทำงาน จึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงบางตำแหน่งให้เกิดความเหมาะสม
เมื่อถามว่า มีการเสนอขอย้ายนายฉัตรชัย ยอดอุดม รองเลขาธิการ ป.ป.ท.ไปดำรงตำแหน่งรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ หรือส่วนราชการอื่น เพื่อเปิดทางให้ตำแหน่งรองเลขาฯ ป.ป.ท.ว่างลง อีกหนึ่งตำแหน่ง นายประยงค์ ตอบว่า "ผมพิจารณาแล้ว เห็นว่าท่านมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องงานกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว ท่านมีคุณสมบัติและประสบการณ์ที่ดีในด้านนี้ ก็รายงานให้ คสช.รับทราบไป ไม่เคยคิดที่จะไปกลั่นแกล้งหรือให้ร้ายใครเลย"
เมื่อถามว่า การโยกย้ายตำแหน่งข้าราชการระดับสูงครั้งนี้ จะทำให้การปฏิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ท.มีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใด นายประยงค์ ตอบว่า "ป.ป.ท.กำลังอยู่ในช่วงการจัดทัพทำงานด้านการปราบปรามการทุจริตอย่างเต็มรูปแบบ เราต้องคนที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความเข้าใจด้านการทุจริตมากทำงานด้วย ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า การทำงานของ ป.ป.ท.ในเรื่องนี้มีปัญหาเกิดขึ้นมา ถูกครอบงำ จนทำงานกันไม่ได้ ระบบมีปัญหา ฝ่ายการเมืองมักเป็นผู้กำหนดตัวบุคคลในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ"
"วันนี้ ป.ป.ท.กำลังจัดทัพใหม่ ต้องการเปลี่ยนระบบงานให้ดีขึ้น ผมไม่เคยคิดเลยว่าต้องเอาแต่พรรคพวกตัวเองขึ้นมาทำงาน เพราะคนใน ป.ป.ท.ทุกคนเป็นเพื่อนผมทั้งหมด ผมไม่เคยจะไปกลั่นแกล้งหรือให้ร้ายใคร แต่เมื่อเราได้รับมอบนโยบายให้ทำหน้าที่ปราบปรามการทุจริต เราก็ต้องทำงานเต็มที่ ผมต้องหาคนที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญงานด้านนี้มาช่วย ผมคิดแค่นี้จริงๆ"
เมื่อถามว่า มีข่าวว่าพาผู้อำนวยการสำนักฯ ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งรองเลขาฯ ป.ป.ท. ไปดูงานในต่างประเทศด้วย นายประยงค์ กล่าวว่า "ผมเพิ่งเดินทางกลับจากการไปร่วมประชุมเรื่องการปราบปรามการทุจริตในต่างประเทศ คณะที่เดินทางไปมี 3 คน ผม ผู้อำนวยการรายหนึ่ง และเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง เป็นการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ ตามแผนงานที่วางไว้แล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะดำเนินการ เป็นการไปปฏิบัติราชการตามปกติ"
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับ นายฉัตรชัย ยอดอุดม รองเลขาฯ ป.ป.ท. หรือยัง นายประยงค์ ตอบว่า "เราพูดคุยกันอยู่ทุกวัน แต่หลังจากที่เอกสารเรื่องนี้หลุดรั่วออกมายังไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกัน และผมเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ"
เมื่อถามว่า ได้รายงานข้อมูลให้ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รับทราบเรื่องนี้หรือยัง เลขาฯ ป.ป.ท. ตอบว่า "ได้รายงานข้อมูลให้ท่านไพบูลย์รับทราบเรื่องแล้ว ท่านก็บอกว่า ให้ไปทำความเข้าใจกับสื่อให้ดี และถ้ามีความตั้งใจในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาทุจริตอยู่แล้ว ก็ให้ทำหน้าที่นี้ต่อไปอย่างตั้งใจ ทำงานออกมาให้ดีที่สุด"
เมื่อถามว่า กระบวนการสรรหาผู้อำนวยการทั้ง 2 ราย จะเริ่มขึ้นเมื่อไร เลขาฯ ป.ป.ท. ตอบว่า "ยังไม่ทราบ ต้องรอให้ผลการพิจารณาของทาง คสช.ออกมาก่อน ตามข้อมูลที่ได้ทำเรื่องเสนอไป เมื่อได้รับความเห็นชอบ ก็จะเริ่มต้นกระบวนการสรรหาตามขั้นตอนต่อไป"