ดร.มานะเชื่อรบ."บิ๊กตู่"เอาจริงต้านโกงมากกว่ายุคอื่น

เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันเชื่อมั่นรัฐบาล "บิ๊กตู่" เอาจริงต้านโกงมากกว่ายุคอื่น ชี้เพราะมีโรดแมปชัดเจน เผยผลงานประทับใจประชาชนลุกต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรม

หลังจากเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2557 องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นได้จัดงาน “HAND IN HAND… ปฏิรูปการต่อสู้ เพื่อชัยชนะอย่างยั่งยืน” และดำเนินการมาแล้วถึง 4 ปี ซึ่งในปีที่ผ่านมาผลงานในเรื่องของการต่อต้านคอร์รัปชันก็มีให้เห็นหลายเรื่อง ดร.มานะ นิมิตมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ถึงผลงานที่ประสบความสำเร็จและความคาดหวังต่อรัฐบาลยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ดร.มานะ  กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นและรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมาว่า องค์กรได้รับการติดต่อจากรัฐบาลในชุดต่างๆ และได้ให้ความร่วมมือทุกครั้ง ถึงแม้ว่าจะมีผู้ใหญ่บางท่านติงในกรณีที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล ซึ่งจะไม่เกิดผลดีต่อองค์กรเอง และประเทศชาติ แต่สำหรับรัฐบาลที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทางองค์กรมีความเชื่อมั่นมากกว่ารัฐบาลชุดที่ผ่านมา เนื่องจากมีการประกาศโรดแมปไว้อย่างชัดเจนว่า จะขจัดคอร์รัปชั่นภายใน 1 ปี รวมถึงการประกาศเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่าจะต่อสู้อย่างจริงจัง

“นายกฯรัฐมนตรีชุดที่ผ่านๆ มา บอกจะเข้ามาทำงานอย่างซื่อสัตย์สุจริต แต่สิ่งที่เห็นคือทุกคนพูดว่าจะบริหารประเทศอย่างซื่อสัตย์สุจริต แต่ก็ปล่อยให้คนในรัฐบาลหรือพวกพ้องของตัวเองทำการฉ้อโกง คอร์รัปชั่นทำให้ประเทศเสียหายไปมากแล้ว เพราะฉะนั้นนายกฯคนแรกที่จะมาต่อสู้กับคอร์รัปชั่น และประกาศว่าจะทำให้เห็นผลภายใน 1 ปี ผมก็เชื่อมั่นมากกว่าที่ผ่านๆมา” เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นฯ กล่าว

เมื่อถามถึงผลงานที่โดดเด่นและถือว่าประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา ดร.มานะ กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของการต่อต้านพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556 เนื่องจากในช่วงนั้นมีการตื่นตัวของภาคประชาชนในการลุกขึ้นมาต่อต้านนับว่า เป็นเหตุการณ์และจุดเริ่มต้นที่ดีที่คนในสังคมเกิดการตื่นตัวและเริ่มมองเรื่องทุจริตเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ 

"ส่วนการร่วมมือกับบริษัทและผลงานขององค์กรที่ผ่านมาที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นพึ่งพอใจโดยมีการตื่นตัวของหลายภาคส่วนทั้ง ภาครัฐและเอกชนที่พร้อมใจกันลุกขึ้นมาแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นภายในองค์กร โดยมีความพยายามแสวงหาแนวทางและมาตรการต่างๆในบทบาทที่องค์กรนั้นสามารถดำเนินได้ ยกตัวอย่างองค์กรภาครัฐเช่น กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงพาณิชย์, สำนักงานพัฒนาระบบราชการ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เป็นต้น รวมถึงองค์กรเอกชน เช่น กลุ่มของธุรกิจตลาดทุน สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้าง ,วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นต้น