ป.ป.ช.ลั่นไม่เสียหน้า อสส.ชี้สำนวนอ่อน ยันหลักฐานคดีข้าว“ปู”มีมาก
ป.ป.ช.รับไม่เสียหน้าหลัง อสส. สั่งตั้งคณะทำงานร่วมฯ ยันหลักฐานคดีจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” มีมาก ชี้ผลวิจัย TDRI แค่ส่วนวิชาการ ต่อไปมีหน้าที่ดูว่าสำนวนไม่สมบูรณ์แค่ไหน มีอำนาจเรียกพยานสอบเพิ่มได้ เล็งพิจารณารายละเอียด 9 ก.ย.นี้ – จ่อสรุปคดีระบายข้าว “บุญทรง” หลังแยกสอบเฉพาะส่วน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2557 นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยถึงกรณีอัยการสูงสุด (อสส.) มีมติให้ตั้งคณะทำงานร่วมฯเพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ก็เป็นไปตามกฎหมาย เมื่อ อสส. เห็นว่าสำนวนยังไม่เพียงพอต่อการฟ้องคดี เพราะไม่สมบูรณ์ก็ไม่เป็นไร เราก็ทำให้สมบูรณ์ต่อไป โดยหลังจากนี้ อสส. จะทำหนังสือมาถึง ป.ป.ช. โดยจะระบุว่า เรื่องที่ ป.ป.ช. ส่งไปยังไม่มีข้อสมบูรณ์ในเรื่องไหนบ้าง ซึ่งเท่าที่ฟังก็มี 3 เรื่อง ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมฯ โดยตามกฎหมายจะต้องตั้งบุคคลให้เท่ากัน และองค์ประกอบของคณะทำงานร่วมฯก็ต้องใกล้เคียงกัน โดยจะใช้เวลาภายใน 14 วัน หลังจากนั้นต้องมาดูข้อเท็จจริงต่าง ๆ และต้องทำให้สมบูรณ์ในกรอบระยะเวลาตรงนี้ คือเข้าใจว่าช่วงหลังอาจไม่มีกรอบระยะเวลาชัดเจน ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายเพื่อให้ข้อเท็จจริงสมบูรณ์ และดำเนินการฟ้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่า อสส. ระบุว่าหลักฐานของ ป.ป.ช. ไม่มีความแน่นหนาเพียงพอ นายปานเทพ กล่าวว่า หลักฐานก็เยอะ เท่าที่ทราบคือหลักฐานมีมาก แต่ในรายละเอียดต้องดูว่าอยู่ในส่วนไหนบ้าง ซึ่งเป็นหน้าที่ของคณะทำงานร่วมฯ พิจารณาดูว่าไม่สมบูรณ์ในขั้นตอนไหน แต่ ป.ป.ช. ก็คงทำได้แค่นั้น เพราะมันเลยระยะเวลาไปแล้ว เป็นหน้าที่ของคณะทำงานร่วมฯที่จะไปดูว่าสำนวนไม่เพียงพอขั้นไหน อาจต้องเพิ่มเติม หรือเรียกพยานสอบเพิ่มเติมก็ได้
“ที่ อสส. บอกว่า ยึดถือผลวิจัยของ TDRI มันไม่ใช่ มันแค่หลักฐานวิชาการ แต่หลักฐานอื่นอีกเยอะแยะ ขั้นตอนการทุจริตเราก็ไปดู จริง ๆ เราไม่ได้ดูเรื่องทุจริต เราแค่บอกว่าละเว้นการไม่ยับยั้งให้เกิดความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว” นายปานเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่า ป.ป.ช. มองประเด็นละเว้น แต่ อสส. มองประเด็นต้องมีการทุจริตเกิดขึ้นก่อนใช่หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ก็ต้องไปดูกัน แต่เราดูว่าตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งมีความเสียหายเกิดขึ้นแล้ว แต่กลับละเว้นไม่ดำเนินการยับยั้ง ซึ่งก็อยู่ในอำนาจเดียวกัน ส่วนเรื่องความเสียหายหรือทุจริตต่าง ๆ ก็ประกอบอยู่ในนั้นแล้ว และเข้าใจว่าเขาจะส่งมาเร็ว ๆ นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งคณะทำงานร่วมฯจะใช้เวลาพิจารณานานหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า คิดว่าไม่น่าจะนาน เพราะคดีนี้ประชาชนสนใจติดตามอยู่ ก็ต้องรีบดำเนินการ คือคณะทำงานฯโดยกฎหมาย ฝ่ายเลขานุการคือ ป.ป.ช. ดังนั้นพอตั้งเสร็จก็ต้องเรียกประชุม และดำเนินการประชุมต่าง ๆ ให้รวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้ใครเป็นประธานคณะทำงานร่วมฯ นายปานเทพ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ ต้องเข้าที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. ก่อน ต้องดูว่าฝ่ายอัยการเสนอกี่คน และต้องดูระดับด้วยว่า อสส. เสนอบุคคลมาระดับไหน ซึ่งเป็นไปได้ว่า กรรมการ ป.ป.ช. อาจเข้าร่วมในคณะทำงานร่วมฯด้วย
“วันนี้เขาจะส่งเรื่องมาให้ประธานฯ เดี๋ยวจะกลับไปอ่านรายละเอียด และสั่งให้ประชุม ซึ่งเข้าใจว่าอาจจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 9 กันยายน 2557 นี้” นายปานเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีหลายฝ่ายกังวลว่าคดีนี้เร่งรีบเกินไป นายปานเทพ กล่าวว่า คดีนี้ไม่ได้เร่งรีบ ก็ใช้เวลานานพอสมควร ดำเนินตามกรอบระยะเวลาต่าง ๆ แต่คณะทำงานร่วมฯอาจทำให้สมบูรณ์ขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ช. รู้สึกเสียหน้าหรือไม่ หลัง อสส. มองว่าหลักฐานอ่อน ให้ตั้งคณะทำงานร่วมฯ นายปานเทพ กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกเสียหน้าอะไร
นายปานเทพ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีระบายข้าวในโครงการรับจำนำข้าวที่แจ้งข้อกล่าวหาไปยังนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ด้วยว่า คดีนี้เข้าใจว่าจะไม่ดูทั้งหมดแล้ว เพราะมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ดังนั้นก็อาจจะแยกดูแบบเฉพาะส่วน ถ้าอันไหนพอทำได้ก็ดำเนินการไปก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า สามารถสรุปคดีได้ภายในเดือนกันยายนนี้หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่น่าจะเร็ว ๆ นี้