ผู้ว่าฯ อยุธยา ประกาศเตือนพร้อมรับมือน้ำล้นตลิ่ง สุโขทัยน้ำยมเอ่อท่วมแล้ว

ผู้ว่าฯ อยุธยา ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชน พร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ขณะที่สุโขทัย น้ำยมเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมพื้นที่เทศบาลสุโขทัยแล้ว

วันที่ 4 กันยายน 2557 นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ออกประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง โดยมีข้อความดังต่อไปนี้

ด้วยกรมชลประทาน มีประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ว่า ตามที่ได้เกิดร่องมรสุมกำลังแรงพัดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกกระจายตัวเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีน้ำหลากจากพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำไหลหลาก เขื่อนเข้าพระยาเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ระดับแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากการคาดการณ์ปริมาณน้ำผ่านจังหวัดนครสวรรค์ จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จาก 892 ลบ.ม./วินาที เป็น 3,300-3,500 ลบ.ม./วินาที ในวันที่ 8 กันยายน 2557  ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่านเพิ่มมากขึ้นจาก 631 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,400-1,600 ลบ.ม./วินาที และจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น 2.00 เมตร

ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 1.00 เมตร ในช่วงระยะสัปดาห์นี้ จึงขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังอันตรายและดูแลตนเองดังนี้

1.ขอให้ติดตามประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด

2.ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย คลองบางหลวง คลองบางบาล ให้เตรียมขนย้ายสิ่งของและสัตว์เลี้ยงไว้ในที่ปลอดภัย ควรย้ายปลั๊กไฟให้สูงกว่าระดับน้ำท่วมถึงจัดเตรียมเรือ หรืออุปกรณ์อื่นๆ เพื่อเป็นพาหนะขณะน้ำท่วม

3.ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำหรือพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง เตรียมความพร้อมหากมีฝนตกหนักและพื้นที่ที่ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน อาจเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ได้

4.ควรย้ายปลั๊กไฟให้อยู่ในระดับสูงกว่าระดับน้ำท่วมถึง หรือติดต่อสำนักงานไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในพื้นที่เพื่อย้ายมิเตอร์ให้สูงขึ้น

5.ระมัดระวังเด็ก คนชรา คนพิการ มิให้อยู่ใกล้บริเวณให้มีน้ำท่วม เนื่องจากอาจพลัดตกน้ำและไม่ควรลงเล่นน้ำ หรือเดินด้วยเท้าเปล่า หากจำเป็นต้องลงในน้ำควรใส่รองเท้าบูท

6.ขอให้เตรียมอุปกรณ์ส่องสว่าง เช่น ไฟฉาย เทียนไขและอื่นๆ ให้พร้อมเพื่อรองรับกรณีไฟฟ้าฟ้าดับวันเดียวกัน 

ขณะที่ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 9:00 น.  ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เตือนภัย (Warning)  จะเกิดน้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวระมัดระวัง

พร้อมกันนี้ได้รายงานสถานการณ์อุทกภัย เป็นรายภาค ดังนี้

ภาคเหนือ

- จ.พะเยา จากสถานการณ์ฝนที่ตกหนักติดต่อกันในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำจากลำน้ำร่องช้าง อำเภอดอกคำใต้ จังหวัดพะเยา ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง

- จ.แพร่ น้ำป่าไหลหลากจากลำห้วยแม่เกิ๋ง อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย อ.วังชิ้น ไหลเข้าท่วม 2 หมู่บ้านในตำบลแม่เกิ๋ง และน้ำจากฝายแม่ยม ในพื้นที่ อ.สอง เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ ต.สะเอียบ และต.ห้วยหม้าย ได้รับความเสียหาย ระดับน้ำทรงตัว น้ำจากแม่น้ำยมบริเวณ อ.สอง ปัจจุบันมีระดับอยู่ในเกณฑ์มาก และมวลน้ำดังกล่าวได้ไหลมาถึงบริเวณ อ.เมือง จ.แพร่ ปัจจุบันมีระดับน้ำเริ่มท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุด ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่ง 0.06 เมตร

- จ.ลำปาง น้ำป่าจากยอดดอยขุนแม่สุย-แม่ค่อม ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนอีกรอบใน 4 หมู่บ้าน คือ บ้านค่ากลาง บ้านทุ่งโล้ บ้านค่าหลวง และบ้านต้นฮ่างพัฒนา ของตำบลบ้านค่า อ.เมือง หลังจากก่อนหน้านี้ระดับน้ำลดลงแล้ว

- จ.สุโขทัย เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาห้วยช้างคุก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตร บริเวณบ้านคลองคะยาง ต.บ้านแก่ง อ.ศรีสัชนาลัย ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ และน้ำจากแม่น้ำยม บริเวณ    อ.ศรีสำโรง ปัจจุบันมีระดับน้ำล้นตลิ่งอยู่ประมาณ 1 ม. และมวลน้ำดังกล่าวได้ไหลมาถึงบริเวณ อ.เมือง จ.สุโขทัย ปัจจุบันมีระดับน้ำเริ่มท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบางจุด
 
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
 
- จ.หนองคาย น้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.เมืองหนองคาย ถนนหลายสายถูกตัดขาด รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ แต่ระดับน้ำลดลง สถานการณ์คลี่คลายตามลำดับ

สภาพน้ำท่าลุ่มน้ำชีและน้ำมูลตลอดลำน้ำปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนพื้นที่ปลายน้ำบริเวณ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี อยู่ในเกณฑ์มาก

ภาคกลาง

- จ.นครสวรรค์ เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ หลากท่วมนาข้าวใน ต.นาขอม อ.ไพศาลี โดยเฉพาะถนนดินลูกรังที่เชื่อมเส้นทาง ต.นาขอม และ ต.วังน้ำลัด ถูกน้ำท่วมทรุดพังเสียหาย ประชาชนไม่สามารถสัญจรได้ ส่วนระดับน้ำลดลง

สภาพน้ำท่าลุ่มน้ำหลักอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยระดับน้ำบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยาจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2 เมตร ซึ่งจะส่งผลให้มวลน้ำดังกล่าวที่จะมาถึงบริเวณ จ.พระนครศรีอยุธยามีระดับน้ำเพิ่มประมาณ 1 เมตร

สำหรับแนวโน้ม  สถานการณ์เฝ้าระวัง

- เฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักในบางพื้นที่ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมในพื้นที่ได้ โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมวลน้ำท่าจากพื้นที่ต้นน้ำกำลังเคลื่อนตัวไปยังพื้นที่ปลายน้ำของแม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน อย่างใกล้ชิดและอย่างต่อเนื่อง

 คลิกดูกล้อง CCTV พื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ในลุ่มน้ำหลักสายสำคัญได้ที่ http://www.npmwf.com/

 เครดิตภาพจากเพจสุโขทัย ณ วันที่ 4 กันยายน 2557