คกก.อุดมศึกษา เสนอยกร่างกองทุนกู้ยืม กรอ. อาจต้องออกมติ ครม.รองรับพักหนี้ กยศ.
เลขา กกอ.เตรียมเสนอ “วรวัจน์” ตั้งคณะกรรมการยกร่างระเบียบ กรอ. แทน กยศ.30 ส.ค.นี้ เชื่อไม่กระทบเด็ก ส่วนงบประมาณเพิ่มยังประเมินไม่ได้ เตรียมกำหนดสาขาที่จบแล้วมีงานทำ แนะ รมว.ส่งสัญญา ก.คลังเรื่องพักหนี้กองทุนเดิม
จากกรณีที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)จะปรับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.)ให้เป็นกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต(กรอ.)ตามนโยบายของรัฐบาลเนื่องจากพบว่ากองทุน กยศ .มีปัญหาในการดำเนินการเยอะ โดยเฉพาะปัญหาการฟ้องร้องลูกหนี้ที่ไม่จ่าย พร้อมประกาศพักหนี้ กยศ. และชะลอการดำเนินคดีฟ้องร้องกับลูกหนี้ และได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) ศึกษารายละเอีดย
ดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา(กกอ.) เปิดเผยว่าในวันที่ 30 ส.ค.นี้ จะเสนอแนวทางการดำเนินงาน พร้อมขอตั้งคณะกรรมการเพื่อยกร่างระเบียบและวิธีปฏิบัติในการกู้ยืม กรอ.รวมถึงชี้แจงถึงปัญหาอุปสรรคของการกู้ยืม กรอ.โดยเฉพาะการชำระคืนผ่านระบบภาษี ซึ่งที่ผ่านมาทางกรมสรรพากรยังไม่มีความพร้อม ต่อนายวรวัจน์ ซึ่งจะเร่งดำเนินการให้ทันปีการศึกษา 2555 นี้
อย่างไรก็ตาม การนำ กรอ.กลับมาใช้นั้นเชื่อว่าไม่กระทบต่อเด็ก เพราะเหมือนกับกรณีรัฐบาลที่ผ่านมายกเลิก กรอ. แต่เปิดช่องให้ผู้กู้เดิมสามารถเปลี่ยนมาเป็นกยศ.ได้ แต่ถ้าไม่เปลี่ยนก็จะให้กู้จนจบการศึกษา ดังนั้นหากเปลี่ยนมาเป็นกรอ.อีกครั้งจะใช้หลักการเดียวกัน ส่วนจะใช้งบประมาณเพิ่มอีกเท่าไหร่นั้นตอนนี้ไม่สามารถตอบได้ ต้องศึกษารายละเอียดก่อน
ดร.สุเมธ กล่าวต่อว่า สำหรับสาขาที่จะปล่อยกู้ กรอ.ตอนนี้ยังไม่สามารถกำหนดได้ เพราะต้องไปดูรายละเอียดก่อนว่าสาขาใดที่จบแล้วมีเปอร์เซ็นต์มีงานทำสูง โดยอาจศึกษาจากตัวชี้บ่งชี้อัตราการมีงานทำของบัณฑิตที่จบไปแล้ว ที่สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) ใช้ในการประเมินภายนอกมหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งทาง สกอ.อาจจะต้องขอข้อมูลตรงนี้มา
ส่วนการพักชำระหนี้ กยศ.เพื่อให้ชะลอการฟ้องร้องกับลูกหนี้ ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ ศธ. เห็นว่าสาเหตุที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้เพราะไม่มีงานทำ ดังนั้นจึงมอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย(กศน.) จัดการอบรมให้กับลูกหนี้เพื่อให้สามารถทำงานได้ แต่ที่สำคัญรัฐมนตรีว่าการ ศธ.จะต้องส่งสัญญาณไปที่กระทรวงการคลัง ว่าเรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายของ ศธ. และอาจจะต้องออกเป็นมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อให้ผู้จัดการกองทุนสามารถดำเนินการได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย .
ที่มาภาพ : http://kanchanapisek.or.th/kp6/New/sub/book/book.php?book=12&chap=2&page=picture_detail12_2.html