ครป.สมทบสมัชชาคนจน-ชาวสะเอียบ ค้านแก่งเสือเต้น ชี้นักการเมือง-ทุนได้ประโยชน์
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย แถลงการณ์ค้านสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ระบุไม่แก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง แต่เป็นแรงผลักดันของกลุ่มผลประโยชน์การเมือง-นายทุน เรียกร้องรัฐบาลเปิดรับฟังความเห็นผ่านองค์รอิสระสิ่งแวดล้อมตามราชกิจจานุเบกษา
วันที่ 22 ส.ค.54 คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป.) ออกแถลงการณ์ “คัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น จ.แพร่” ใจความว่า จากสถานการณ์น้ำท่วม สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางบางจังหวัด จนมีพยายามสร้างกระแสเรียกร้องให้มีการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น กั้นแม่น้ำยม ในเขตพื้นที่ อ.สอง จ.แพร่ โดยการฉวยโอกาสของนักการเมือง ข้าราชการบางคนนั้น ครป.ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ดังนี้
1.โครงการนี้เป็นความพยายามของนักการเมือง โดยเฉพาะพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ต้องการประโยชน์จากงบประมาณก่อสร้างมากกว่าประโยชน์ที่แท้จริงของโครงการ หรือคำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและการมีส่วนร่วมของชุมชน เพราะนับจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้กรมชลประทานเป็นผู้รับผิดชอบโครงการฯ เมื่อปี 2528 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แต่งตั้งอนุกรรมการดำเนินการแก้ไขผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้านทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่ามีคณะทำงาน 4 ชุด เพื่อสรุปจัดทำแผนในการแก้ไขผลกระทบ โดยกันยายน 2537 กรมชลฯ ได้ส่งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้สำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมพิจารณา ตามขั้นตอน พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีผลสรุปที่ชัดเจน แต่พบว่าโครงการนี้มีผลกระทบต่อระบบนิเวศวิทยา ชุมชนและรอยแยกแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง
2.การก่อสร้างโครงการใดๆ โดยเฉพาะโครงการนี้ ซึ่งจะมีผลกระทบกับชุมชนและระบบนิเวศอย่างรุนแรง รัฐจะต้องให้ชุมชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ตั้งแต่การเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร การรับฟังความคิดเห็น จนถึงการตัดสินใจและการติดตามประเมินผล ซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 67 ว่า
“สิทธิของบุคคลที่จะมีส่วนร่วมกับรัฐและชุมชน ในการอนุรักษ์บำรุงรักษาและการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ และในการคุ้มครองส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่อง ในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของตน ย่อมได้รับความคุ้มครองตามความเหมาะสม การดำเนินโครงการหรือกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง ทั้งทางด้านคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติและสุขภาพ จะกระทำมิได้ เว้นแต่จะได้ศึกษาและประเมินผลกระทบ ต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในชุมชน และจัดให้มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียก่อน อย่างเคร่งครัดและรัฐบาลจะต้องแถลงเป็นนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภาอย่างชัดเจนด้วย”
3.ขอเรียกร้องต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ได้ประกาศว่าจะบริหารประเทศเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน ทำงานอย่างมีเป้าหมายใช้ความเป็นมืออาชีพ “สร้างสุข สลายทุกข์” ให้คนไทยทุกคน ว่าก่อนที่จะพิจารณาโครงการนี้ รัฐบาลจะต้องดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม สุขภาพ มีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นผ่านองค์กรอิสระด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพเฉพาะกาล ตามที่ประกาศไว้ในราชกิจจานุเบกษา
ท้ายที่สุด ครป.ขอสนับสนุนข้อเรียกร้องของคณะกรรมการกลุ่มราษฎรรักษ์ป่า ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ที่คัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น และจะร่วมต่อสู้กับชาวบ้านจนกว่าจะได้รับชัยชนะจนถึงที่สุด
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ กลุ่มสมัชชาคนก็ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านโครงการก่อสร้างเขื่อนแก่งสือเต้น โดยอ้างถึงผลการวิจัยหลายสำนักว่าไม่มีความคุ้มทุนในการก่อสร้าง แก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งได้เพียงเล็กน้อย และอยู่บนรอยเลื่อนเปลือกโลกแพร่ที่เสี่ยงต่อเขื่อนพัง แต่กลับก่อผลกระทบอย่างมากต่อระบบนิเวศน์ป่าไม้และวิถีชีวิตชุมชน อีกทั้งการผลักดันสร้างเขื่อนมีเบื้องหลังผลประโยชน์ของนักการเมือง และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง.