หมอประกิต จี้เฝ้าระวังบริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่จัดแคมเปญเจาะกลุ่มวัยรุ่น
เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ จวกบริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ ไร้ความรับผิดชอบต่อสังคม เหตุทำแคมเปญเจาะกลุ่มวัยรุ่น ชี้ศาลหลายประเทศยันว่า ผิด ยังไม่เลิก หวั่นจะเข้ามาทำการตลาดในประเทศไทย
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล มีคำสั่งปรับบริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ฟิลลิป มอร์ริสอินเตอร์เนชั่นแนล เป็นมูลค่าห้าแสนดอลลาร์หรือ 16 ล้านบาทเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฐานทำแคมเปญ “Be Marlboro” ซึ่งเป็นแคมเปญส่งเสริมการขายบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโรที่สร้างขึ้นด้วยคอนเซปต์ใหม่เพื่อมาแทนแคมเปญเก่าที่นำเสนอคาวบอยมาร์ลโบโรที่ขี่ม้าในทุ่งกว้าง โดยเป็นการปูพรมเผยแพร่แคมเปญผ่านบิลบอร์ด ในโรงภาพยนตร์ อินเตอร์เน็ต และการจัดอีเว้นท์ต่าง ๆ โดยบริษัทฟิลลิปมอร์ริสระบุว่า คอนเซปต์ในยุคของโลกข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีที่ท่วมท้นนี้ มาร์ลโบโรกระตุ้นให้หนุ่มสาวเชื่อมั่นในตัวเอง กล้าตัดสินใจ และไขว่คว้าความใฝ่ฝันของตัวเอง ด้วยการอย่าเพียงแต่อาจจะ แต่เป็นมาร์ลโบโรเลย โดยหนึ่งในสื่อกลางแจ้งเป็นบิลบอร์ดที่มีตัวอักษร MAY BE แต่ขีดกากบาทคร่อมคำว่า MAY ดังภาพ
พร้อมระบุว่า เป้าหมายของแคมเปญดังกล่าวอยู่ที่คนอายุ 18-24 ปี แต่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคแย้งว่า นางและนายแบบวัยรุ่นสาวที่ใช้ในแคมเปญผ่านบรรยากาศสนุกสนาน งานปาร์ตี้การท่องเที่ยว เป็นเรื่องที่ยั่วยุเด็กอายุต่ำกว่า 18ปีให้ตัดสินใจสูบบุหรี่มาร์ลโบโร เพราะเด็ก ๆ ต้องเห็นโฆษณาดังกล่าวอยู่แล้ว ทั้งนี้บริษัทฟิลลิป มอร์ริสได้ทำแคมเปญดังกล่าวไปทั่วโลกและศาลประเทศเยอรมันได้สั่งห้ามแคมเปญดังกล่าว
ขณะที่ฝ่ายคุ้มครองผู้บริโภคในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และโคลัมเบียได้ฟ้องศาลเพื่อบังคับให้ระงับแคมเปญดังกล่าวก่อนหน้านี้
ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า บริษัทฟิลลิป มอร์ริสไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคมใด ๆ เลย เพราะแม้ศาลหลายประเทศชี้ว่าผิดแล้วแต่ก็ยังไม่เลิกที่จะทำในประเทศอื่น จึงขอให้ฝ่ายต่าง ๆ ช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้มีการทำแคมเปญดังกล่าวในประเทศไทย แต่ก็ยังไม่เลิกที่จะทำในประเทศอื่น จึงขอให้ฝ่ายต่าง ๆ ช่วยกันเฝ้าระวังไม่ให้มีการทำแคมเปญดังกล่าวในประเทศไทย