สั่งสอบ 7 วันปมทหารอ้างเหตุปะทะ-ยิงวัยรุ่น14ดับ
ทหาร-ตำรวจ-ผู้ว่าฯนราธิวาส จับมือตรวจสอบปมทหารอ้างยิงปะทะที่ศรีสาครทำวัยรุ่นอายุ 14 ปีดับ ยันรับรู้ความไม่สบายใจของญาติผู้ตาย พร้อมให้ความเป็นธรรมเต็มที่ ขอเวลา 7 วันได้คำตอบ "พัฒนวุธ" ตั้งสอบ 3 ประเด็น พร้อมส่งสำนวนไต่สวนการตายให้ศาลพิจารณา ด้าน "ประยุทธ์" ลั่นไม่เคยสั่งทหารทำร้ายประชาชน
หน่วยงานรัฐทุกฝ่ายได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีกำลังพลของกองร้อยทหารพรานที่ 4916 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 อ้างว่ายิงปะทะกับกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยจนมีเด็กชายวัย 14 ปีเสียชีวิตในพื้นที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ 21 ส.ค.57 หลังจากมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในพื้นที่อย่างกว้างขวางทั้งตามร้านน้ำชาและโลกออนไลน์ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่การยิงปะทะ เด็กชายผู้เสียชีวิตเดินทางเพียงลำพัง และไม่มีปืน
ก่อนหน้านี้ "ศูนย์ข่าวอิศรา" ได้เสนอข่าวตั้งข้อสังเกตกรณีดังกล่าว (ยิงดับวัยรุ่นอายุ 14 อ้างเหตุปะทะ แต่ภายหลังส่อโอละพ่อ) ขณะที่สำนักข่าววาร์ตานี ซึ่งเป็นสื่อทางเลือกในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ลงพื้นที่นำเสนอข่าวและคลิปวีดีโอสัมภาษณ์ครอบครัวเด็กหนุ่มผู้เสียหายและผู้นำชุมชน ยืนยันว่าผู้ตายไม่มีพฤติการณ์เป็นคนร้าย แต่มีความประพฤติเรียบร้อย ไม่เคยมีปืน และน่าจะถูกยัดปืนพกขนาด 11 มม.ใส่มือหลังถูกยิงเสียชีวิต
ล่าสุด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 ส.ค. ที่ห้องประชุมชั้น 2 กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พล.ต.สิงหศักดิ์ อุทัยมงคล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส (ผบ.ฉก.นราธิวาส) พร้อมด้วย นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และ พล.ต.ต.พัฒนวุธ อังคะนาวิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) ได้ร่วมกันแถลงข่าวกรณีดังกล่าว
ทั้งนี้ ผบ.ฉก.นราธิวาส ได้อธิบายย้อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 ส.ค. เวลา 20.40 น.ว่า ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 7 คน มีรถจักรยานยนต์ 4 คันเป็นพาหนะ ขี่ผ่านหน้าฐานปฏิบัติการ ร้อย ทพ.4916 ก่อนใช้อาวุธปืนยิงใส่ฐานซึ่งมีเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ และมีการยิงตอบโต้กันขึ้น ทำให้คนร้ายเสียชีวิต 1 ราย จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นเยาวชน อายุ 14 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนสั้นขนาด 11 มม.จำนวน 1 กระบอก และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ รุ่นสแมช สีดำ 1 คัน
เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความกังวลสงสัยกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ยืนยันว่าผู้บังคับบัญชาทุกระดับไม่ได้นิ่งนอนใจหรือปกป้องผู้กระทำผิดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบข้อเท็จจริง จะสอบสวนตามเหตุตามผล ทั้งร่องรอยเขม่าดินปืน พยานหลักฐาน พยานในที่เกิดเหตุ ร่องรอยของลำกล้องปืนจากหัวกระสุนที่ยิงใส่เข้าไปที่ฐานทหาร โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายพร้อมให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตและครอบครัวโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ เพราะทุกคนเป็นคนไทยอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ใครทำถูกก็ว่าไปตามถูก ใครทำผิดก็ว่าไปตามผิด
พล.ต.ต.พัฒนวุธ กล่าวว่า การดำเนินการทางคดีในขณะนี้คืบหน้าไป 80% แล้ว โดยเขาในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนได้กำหนดกระบวนการทำงานเอาไว้ 3 ขั้นตอน คือ
1.จะมีการไต่สวนชันสูตรพลิกศพของผู้ตาย เนื่องจากเป็นคดีวิสามัญฆาตกรรม (อ้างว่าเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่ที่อ้างว่าปฏิบัติงานตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 150) เมื่อผลออกมาอย่างไร ก็จะว่าไปตามนั้น
2.ในส่วนของคดีที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการยิงตอบโต้คนร้ายจนเสียชีวิตนั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
และ 3.การที่เจ้าหน้าที่อ้างว่าผู้ตายใช้อาวุธยิงใส่ฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่นั้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งจะต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ประสานเชิญญาติของผู้เสียชีวิตเข้าร่วมรับฟังและซักถามด้วย โดยภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว กลุ่มญาติมีความมั่นใจต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่มากขึ้น และพร้อมให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงานอีก 7 วัน จากนั้นจะเดินทางไปร่วมรับฟังผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
"ประยุทธ์"ลั่นไม่เคยสั่งทหารทำร้ายประชาชน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 29 ส.ค.57 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้กล่าวตอนหนึ่งในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ โดยระบุถึงปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และข้อกล่าวหาเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐละเมิดสิทธิมนุษยชน
"วันนี้ก็มีการตอบโต้กันในโซเซียลเน็ตเวิร์คมากมาย อันนี้ทำให้เกิดปัญหากับเรามาก ไม่ใช่ข้อเท็จจริง เป็นทั้งฝ่ายเรา ฝ่ายเขา ทุกคนหวังดี ฝ่ายเขาก็คงไม่หวังดี แต่ทำให้เสี้ยมให้ทั้งสองฝ่ายตีกันมาโดยตลอด และสิ่งที่เขาทำวันนี้ไม่มี ผมไม่เคยเห็น ไม่เคยสั่งลูกน้องหรือใครไปทำร้ายประชาชน ผมยืนยันถ้ามีก็นำหลักฐานมา ให้มันชัดเจน จะได้ลงโทษ"
"เรื่องปัญหาภาคใต้คงเป็นเรื่องของการใช้กฎหมายไม่เป็นธรรมที่เขาบอกมานะครับ เรื่องการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ วันนี้ผมก็ยังไม่ได้สั่งให้ใครไปทำอะไรแบบนั้น มีแต่เพียงบอกให้ใช้กฎหมาย บางครั้งก็อาจจะพูดจาไม่เข้าหูกันบ้าง บางทีก็ถูกต่อว่าอะไรแถวนี้มันไม่ได้ ทุกคนมีหัวใจ เจ้าหน้าที่มีหัวใจที่จะดูแลท่านอยู่แล้ว ถ้าพูดไปพูดมาก็มีอารมณ์เหมือนกัน เจ้าหน้าที่ก็ต้องอดทน มันทำให้เกิดความเกลียดชังซึ่งกันและกัน เราคงไม่คิดจะทำร้ายเด็ก ผู้หญิง ประชาชน ไม่ว่าจะไทยพุทธ ไทยมุสลิม ตำรวจ ทหารไม่ใช่คนใจร้ายพอที่จะไปฆ่า ไประเบิดผู้บริสุทธิ์โดยตั้งใจ"
"วันก่อนผมเห็นผู้นำศาสนาเข้ามาพูดในทำนองนี้ว่า เราใช้ความรุนแรง ผมก็อยากจะกราบท่านว่าเราไม่เคยมีจิตใจร้ายอย่างนั้นเลย ถ้ามีอย่างนั้นผมก็ปล่อยให้ท่านรบกันไป ทหารก็ไม่ต้องไปอยู่นะครับ...ไม่ได้ วันนี้เป็นกติกาของโลกเขา ถ้าไม่สงบก็ต้องมีทหาร ถ้าท่านไม่ให้มีทหารท่านก็สงบสิครับ ทหารก็ได้กลับบ้าน ถ้าสงบไม่ฆ่ากัน ไม่ระเบิดกัน ไม่มีความวุ่นวาย เราก็พัฒนาได้แล้วจะมีทหารไปทำไม ไม่มีใครอยากจะลงไปอยู่อยู่แล้ว ถ้าไม่หวังว่าเพื่อดูแลประชาชนที่บริสุทธิ์ ก็ขอให้ใคร่ครวญให้ดี"
เล็งใช้ศาลทหารเสริมพิจารณาคดีหวังรวดเร็ว
"การบังคับใช้กฎหมาย กระบวนการยุติธรรมทำได้ยากในภาคใต้ บางคนบอกทำไมเก็บหลักฐานไม่ได้เลย ก็พื้นที่ที่มีกองกำลัง มีฝ่ายสนับสนุนอยู่ในพื้นที่มากพอสมควร เราใช้เวลาเหมือนปกติก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นหลักฐานบางอย่างก็อ่อนไหว บางอย่างก็เก็บไม่ได้ เพราะฉะนั้นต้องใช้เวลา ใช้เทคโนโลยีบ้าง ใช้เครื่องไม้เครื่องมือ ใช้สารเคมี สถานการณ์เป็นอย่างนั้น เมื่อเข้าไปก็มีเวลาไม่มากนัก ต้องเก็บรวบรวมให้เร็วที่สุด (หมายถึงการเข้าตรวจจุดเกิดเหตุ) บางครั้งก็พลาด พลาดตรงไหนมันไม่สมบูรณ์ ทำให้คนเหล่านี้ก็หลุดออกไปเหมือนกัน แทนที่หลุดไปแล้วจะดีใจว่าเราไม่ได้ไปไล่ล่า กลายเป็นว่าจับคนผิดคนถูก บางคนถูกทั้งนั้น (หมายถึงจับกุมถูกตัว) แต่หลักฐานดำเนินคดีไม่ได้"
"หรือไม่ก็เรื่องการใช้กฎหมายปกติ การสอบสวนต่างๆ การพิจารณาคดีปกติหมด ล่าช้าเสียเวลาและคั่งค้างกันเป็นจำนวนมาก อาจจะต้องใช้การพิจารณาความพิเศษ การสนับสนุนพิเศษ มีคณะลงไปเพิ่ม มีศาลเพิ่ม ศาลทหารใช้ได้หรือไม่ เราให้ความเป็นธรรม ศาลทหารก็เหมือนศาลปกติ เพียงแต่รวดเร็วขึ้นเพราะเรามีความพร้อมอยู่มากกว่า"
"ยืนยันว่าไม่ต้องการใช้กฎหมายพิเศษจริงๆ ถ้าท่านเลิกใช้ความรุนแรง เราก็ใช้กฎหมายปกติ ต้องรีบดำเนินการให้ได้โดยเร็ว"
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจังหวัดนราธิวาส ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ และปกครอง ร่วมกันแถลงข่าว
2 กลุ่มญาติผู้เสียชีวิตเข้าร่วมรับฟังและซักถาม