ฟังชัดๆ "บุญเลิศ บูรณุปกรณ์" ไม่แตะผลประโยชน์ทับซ้อน-รวยกว่า 4 พันล.?
"...นโยบายผมชัดเจน ว่า ไม่เอาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องผู้รับเหมาอะไร ไม่ยุ่งเกี่ยว และก็สั่งกับเจ้าหน้าที่ทุกคนไปแล้วว่า ห้ามให้เกิดปัญหาแบบนี้ ผมเข้ามาเล่นการเมืองไม่อยากให้มีปัญหาแบบนี้เกิดขึ้น ผมมีต้นทุนทางสังคมที่สูง อย่ามาทำเรื่องอะไรให้ผมเกิดปัญหา ชื่อเสียงวงษ์ตระกูล ผมดีอยู่แล้ว จึงต้องรักษาไว้ไม่ให้มีปัญหา หรือมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเด็ดขาด.."
จัดอยู่ในกลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นที่ถูกจับตามองมากที่สุดในยุคนี้อีกคนหนึ่ง สำหรับ "นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์" นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่
เมื่อล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นายบุญเลิศ และครอบครัว มีธุรกิจรวมกัน 44 แห่ง ทุนจดทะเบียน 1,391,154,000 บาท รวมสินทรัพย์ประมาณ 4,086,520,657 บาท
ส่งผลทำให้เขากลายเป็นนักการเมืองท้องถิ่นที่เป็นเจ้าของธุรกิจมากเป็นอันดับต้นๆ ในประเทศไทยทันที
คำถามที่น่าสนใจ คือ การดำรงตำแหน่ง นายกฯ อบจ.เชียงใหม่ มีส่วนช่วยทำให้ธุรกิจของเขาและครอบครัว เจริญเติบโต มากน้อยเพียงใด?
" นับตั้งแต่เข้ามาเล่นการเมือง ผมไม่เคยเข้าไปยุ่งหรือแตะต้องอะไรในเรื่องธุรกิจ ของครอบครัวเลย และผมก็เป็นคนที่ต่อต้านเรื่องการเข้ามาหาผลประโยชน์ของผู้รับเหมาด้วย"
นายบุญเลิศ เอ่ยปากยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org แบบเสียงดังฟังชัด ถึงจุดยืนของตนเอง ระหว่างกึ่งกลางธุรกิจของครอบครัว กับตำแหน่งทางการเมืองที่เขาดำรงอยู่ในปัจจุบัน
" ทุกคนในเชียงใหม่รู้จักผมดี ว่า ผมทำธุรกิจก่อนที่จะเข้ามาเล่นการเมือง ธุรกิจผมมีมากมาย หลายอย่าง ที่บอกว่ามีทรัพย์สินกว่า 4,000 ล้านบาท ผมบอกได้เลยว่า ยังน้อยไป ทรัพย์สินผมมีมากกว่านั้นอีก"
นายบุญเลิศ ยังเล่าให้ฟังว่า "ในช่วงหลายปีก่อน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจ.เชียงใหม่ บูมและเติบโตมาก ผมโชคดี ที่มีที่ดินเยอะ ทุกถนนในจังหวัดเชียงใหม่ มีที่ดินของผมอยู่ ผมจึงนำที่ดินเหล่านี้ มาพัฒนาใหม่ และก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก โครงการคอนโด ในจ.เชียงใหม่ ตอนนี้ผมมีเป็น 10 โครงการ"
นายบุญเลิศ ยังย้ำด้วยว่า "ที่พูดแบบนี้ ไม่ได้ต้องการจะคุย หรือโอ้อวดอะไร แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ ตอนที่ผมยังทำธุรกิจอยู่ จะหยิบจับอะไรก็ดีไปหมด ไปถามคนในจังหวัดเชียงใหม่ได้เลย"
นายบุญเลิศ ยังย้ำชัดๆ อีกครั้งว่า แต่นั้นเป็นเรื่องในอดีต เพราะหลังจากที่เขาก้าวเข้ามาสู่เวทีการเมือง ก็ไม่เคยได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรเรื่องธุรกิจอีกเลย
"ตอนผมเข้ามาเล่นการเมือง ปกรณ์ น้องชายผม (นายปกรณ์ บูรณุปกรณ์ อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคไทยรักไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111) เขาว่างเว้นจากการเล่นการเมืองพอดี เขาก็เข้ามาดูแลงานแทน เพราะผมกับเขาเป็นคนๆ เดียวกัน แต่เขาเสียชีวิตไปเมื่อเดือนก.ย.56 ตอนนี้บริษัททั้งหมด ทั้งของผมและของปกรณ์ จึงโอนไปให้ "ปรีดิกร" ลูกชายผมดูแลต่อทั้งหมด"
เมื่อถามว่า บริษัทในครอบครัว เคยได้รับงานจาก อบจ. หรือไม่ นายบุญเลิศ ตอบว่า "ไม่เคยมีแม้แต่บริษัทเดียว"
เมื่อถามว่า กังวลว่าจะถูกมองในเรื่องที่บริษัทในครอบครัว ได้รับผลประโยชน์จากการที่ตนเองเข้ามาเล่นการเมืองหรือไม่ นายบุญเลิศ ตอบว่า "ผมไม่กังวล เพราะผมไม่มีวันที่จะทำเรื่องแบบนี้ การบริหารงานในตำแหน่งทางการเมือง แยกส่วนจากธุรกิจส่วนตัวชัดเจน ไม่เกี่ยวข้องกัน"
"นโยบายผมชัดเจน ว่า ไม่เอาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เรื่องผู้รับเหมาอะไร ไม่ยุ่งเกี่ยว และก็สั่งกับเจ้าหน้าที่ทุกคนไปแล้วว่า ห้ามให้เกิดปัญหาแบบนี้ ผมเข้ามาเล่นการเมืองไม่อยากให้มีปัญหาแบบนี้ เกิดขึ้น ผมมีต้นทุนทางสังคมที่สูง อย่ามาทำเรื่องอะไรให้ผมเกิดปัญหา ชื่อเสียงวงษ์ตระกูล ผมดีอยู่แล้ว จึงต้องรักษาไว้ไม่ให้มีปัญหา หรือมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเด็ดขาด" นายกฯ อบจ.เชียงใหม่ ระบุ