คำฝากจาก“ตวง” : “บิ๊กตู่”ต้องทำให้ปชช.อยู่ดี-รักกันถึงจะสำเร็จ
“…1.ความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์ สุจริต ท่านโดดเด่นมาก ใครมีคอรัปชั่น ท่านไม่เอาไว้ 2.ท่านเป็นคนรับฟัง จำได้ไหมกรณีประกาศห้ามสื่อมวลชน พอมีคนทักท้วง ท่านก็เปลี่ยนกลับมา 3.การบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เอาตัวเองเป็นฐาน แต่สิ่งที่ท่านพูด เขาใช้งานวิจัยเป็นฐาน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ผมถึงบอกที่พี่ประยุทธ์พูด ไม่ได้เออเอาเอง แต่ล้วนแต่มีนักวิชาการ นักการศึกษาที่ให้ข้อมูล ผมถึงเชื่อว่า ประเทศมันไปได้…”
“ตวง อันทะไชย” เป็นผู้เสนอให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เขาเป็นสมาชิกสนช.ที่เดินทางมารายงานตัวคนแรกจากจำนวน 200 คน ก่อนได้รับเลือกเป็น สนช. “ตวง” มีอาชีพดั้งเดิมเป็นครู ผ่านงานสภา 3 สมัย ตั้งแต่การเป็น สนช.ปี 2549 ตามด้วย สว.สรรหาอีกสองสมัย ปี 2551 และปี 2554 อยู่ในกลุ่ม 40 สว. ที่คัดค้านระบอบทักษิณ
“ทีมข่าวอิศรา” เปิดใจ สนช.ผู้นี้ถึงความคาดหวังต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในยุค “ปฏิวัติ-ปฏิรูป-เปลี่ยนแปลง”
@เหตุผลที่เสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ
ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ท่านประยุทธ์แสดงถึงภาวะความเป็นผู้นำประเทศในภาวะวิกฤตได้ และก็นำพาสังคมเข้าสู่ภาวะความสงบ จากที่ประเทศอยู่ในสภาพที่ไม่มีทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นในด้านเศรษฐกิจ สังคม และ การเมือง นอกจากนั้น ท่านยังเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ซึ่งตั้งแต่สมัยที่เรามีคณะกรรมการสมานฉันท์ของรัฐสภาหลายปีที่ผ่านมา เราพยายามหาคนกลางมาทำหน้าที่ในลักษณะอย่างนี้ แต่ก็ไม่สามารถหาได้ แม้จะมาจากสถาบันกลาง ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ ในเมื่อวันนี้ประเทศไทยมีรัฏฐาธิปัตย์ และมีคนที่ทุกฝ่ายยอมรับจากความรู้ความสามารถที่สำคัญ ประเทศไม่มีทางเลือก เมื่อทุกคนยอมรับอย่างนี้ ผมคิดว่า นั่นคือทางเลือกของประเทศไทยที่จำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา และถ้าดูจากสำนักโพลที่ออกมาก็เห็นตรงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถนำพาบ้านเมืองได้
ที่ผมเสนอชื่อนั้น ก็เพราะเป็นเรื่องของวิปสนช. ที่ประกอบด้วยนักธุรกิจ ทหาร นักการเมือง เขาคงเห็นว่า ผมเป็นพลเรือนด้วยมั้ง หรือ ครูบ้านนอก ไม่มีพวกก็เลยให้ผมเสนอ เพราะเห็นตรงกันว่า เวลาแบบนี้ สถานการณ์แบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายให้ผมนำเสนอต่อสภา
@ตอนนั้นรู้สึก อย่างไรที่รู้ว่าต้องเป็นคนเสนอชื่อ
ผมว่าเป็นโอกาสดี อย่างน้อยผมก็จะได้บอกว่า ใครคือนายกรัฐมนตรีต่อสภา และ ก็ได้ทำหน้าที่ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 19 เพราะครั้งที่แล้ว ผมพยายามหาทางออกให้กับสังคมในฐานะ สว.ก็ทำไม่ได้ ฉะนั้น ตอนนี้ก็ถือเป็นโอกาสของผมและของสนช. ที่จะนำพาประเทศหาผู้นำมาได้
@เมื่อเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบต่อผลการดำเนินงานของพล.อ.ประยุทธ์ อย่างไร
แน่นอนความรับผิดชอบมันหนีไม่พ้นแน่ และผมก็ไม่กลัว นักการเมืองอย่างผม เมื่อทำแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบ และในฐานะที่เราเป็นสมาชิกสภา เป็นกลไกสำคัญในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งมันมี 4 ส่วนที่จะนำพาประเทศให้หลุดพ้น คือ คสช. ครม. สปช. และ สนช. ทั้งหมดต้องประสานกันเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายสำคัญ คือ การปฏิรูป มีรัฐธรรมนูญ และ ก็มีการเลือกตั้ง เราก็ต้องช่วยกันนำพาประเทศไปสู่ประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกได้ ให้คนไทยอยู่สงบสันติ ทำมาค้าขายได้สะดวกปลอดภัย
@คาดหวังกับการเปลี่ยนผ่านในยุคนี้อย่างไร
ผมคาดหวังสูง เพราะในรอบ 30-40 ปี โอกาสอย่างนี้ยากมาก และ ในรอบ 10 ปี ตั้งแต่วิกฤตปี 2549 โอกาสนี้เป็นโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศในทางที่ดีขึ้น ในทางที่ผู้คนในชาติเห็นตรงกันหมด และกระแสสังคมต่างอยากเห็นประเทศไทย ไม่กลับไปวงจรเดิม อันนี้คือ สิ่งที่เราคาดหวังว่า จะใช้วิกฤตคราวนี้เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ
@สิ่งที่ตั้งเป้าการเปลี่ยนแปลงสูงสุด
หัวใจสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ คือ วิกฤตทางด้านการศึกษา ผมถือว่า การจะแก้ปัญหาของชาติได้ ก็ต้องปฏิรูปการศึกษา เพราะการศึกษา คือหัวใจที่เป็นกลไกกลางในการผลักดันให้ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 27 ว่าด้วยเรื่องที่ต้องปฏิรูปในรัฐธรรมนูญใหม่ สำเร็จไม่ว่า ด้านเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง พลังงาน หรือ ความรักชาติ รักแผ่นดิน แต่ถ้าการศึกษายังไม่ได้เป็นเครื่องมือ ให้คนรู้จักประโยชน์สาธารณะ ให้คนรักชาติได้ ก็ไม่อาจไปปฏิรูปอย่างอื่นได้ ฉะนั้นวันนี้ต้องใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือเปลี่ยนผ่านประเทศไทยเหมือนปรัชญาที่บอกว่า เราอยากให้พลเมืองเป็นอย่างไรให้ใส่งบประมาณเข้าไปที่การศึกษาให้มากที่สุด และ พลเมืองก็จะมีหน้าตาอย่างนั้น ซึ่งปรากฏชัดใน สิงคโปร์ มาเลเซีย ก็เปลี่ยนแปลงด้วยการศึกษา
@ปัญหาใหญ่ของการศึกษาไทยคืออะไร
เรื่องคุณภาพ วันนี้เราเข้าใจเรื่องคุณภาพการศึกษาผิดไป เราไปเข้าใจว่า เป็นเรื่องของความรู้ ความจำ ที่เรียกว่า โอเน็ต หรือ เข้าใจว่า การทดสอบชาติ มันคือ การศึกษา ซึ่งมันไม่ใช่ คุณภาพการศึกษามันเป็นเรื่องกาย อารมณ์ สติ สังคม ของคน จะต้องมีความเจริญงอกงาม ฉะนั้น ถ้าเราพัฒนาได้ 4 ด้าน ก็จะทำให้คนไทยมีความสมบูรณ์ในตัว เพราะเราพัฒนาแต่เรื่องความรู้ ความจำ คนจึงคิดไม่ออกว่า ชาติบ้านเมือง ประวัติศาสตร์ รากเหง้า คืออะไร พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติก็บอกไว้ว่า คุณภาพคนไม่ใช่เรื่องความรู้ ความจำ มันคือ คุณภาพกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา
สิ่งที่หวังอีก คือ การเมือง อย่างการศึกษามันทำให้ผู้คนอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างหลากหลายได้อย่างมีพลัง ส่วนการเมืองวันนี้ต้องกำหนดเงื่อนไขการเข้าไปสู่อำนาจ ต้องไม่ให้คนที่ซื้อสิทธิ์ขายเสียง เช่นคนได้ใบแดง หรือทุจริต คอรัปชั่น มีสิทธิ์เข้ามาเป็นนักการเมืองตลอดชีวิต เหมือนคุณสมบัติของคนรับราชการ เขากำหนดว่า ถ้าใครทุจริต ไม่มีสิทธิ์รับราชการตลอดชีวิต ถ้าทำได้ ต่อไปผู้คนจะได้ระมัดระวังเรื่องคอรัปชั่น
@เป็นห่วงปัญหาความขัดแย้งที่พร้อมระเบิดขึ้นอีกหรือไม่
สังคมไทยมีพัฒนาการเรียนรู้สูง ลองย้อนกลับไปดู เรารู้เท่าทันนักการเมืองสูงมาก คนไทย บ้านนอก หรือ ในอีสานบ้านผม ก็ไม่เหมือนเดิมแล้วนะ ทีวี หนังสือพิมพ์ เคเบิล ไปถึงหมดแล้ว ประชาชนเรียนรู้อะไรมากขึ้น ไม่เหมือนเดิม และไม่ใช่ว่า ชาวบ้านจะสั่งอะไรได้หมด
@สิ่งที่จะเปลี่ยนใจชาวบ้านได้คืออะไร
อะไรก็ได้ ที่ทำให้เขาอยู่ดี มีความสุข เช่น กรณีจำนำข้าว มันไม่ต้องเป็นประชาธิปไตย ก็หาเงินจำนำข้าวได้ชั่วข้ามคืน แต่ผมไม่ได้หมายความว่า ไม่ได้สนับสนุนประชาธิปไตย ผมยกตัวอย่าง ถ้า คสช. สามารถทำอย่างนี้ได้ ทั้งเศรษฐกิจ และ สังคม การเมือง ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ให้คนที่ออกไป ออกบ้านไม่ต้องกลัว M79 ผมถามว่า ใครจะไม่พอใจ เพราะถ้าชาวไร่ ชาวนาทำมาค้าขายได้ เขาก็มีความสุขได้
@อะไรที่จะทำให้พรรคเพื่อไทย และ ขบวนการเสื้อแดงอ่อนกำลังลง
มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วยอำนาจ แต่มันจะเปลี่ยนได้ด้วยการที่รัฐบาลต้องทำให้คนอยู่กินดี อยู่ด้วยความสงบสุข นักธุรกิจมีรายได้ เดินต่อได้ นี่คือ ความสุขของประชาชน ฉะนั้น การปกครองสมัยใหม่มันไม่ได้บอกว่า ต้องเป็นเผด็จการอย่างเดียว ในอาเซียนก็ไม่ได้ปกครองด้วยประชาธิปไตยกันหมด มีแค่อินโดนีเซียเท่านั้น นอกจากนั้นไม่ใช่
ผมขอยกตัวอย่างใกล้ๆตัว มาเลเซีย เวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า ฟิลิปปินส์ ไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างในทฤษฎี ขณะเดียวกัน มันไม่ได้มีคำตอบเพียงคำตอบเดียวว่า ประชาธิปไตยแบบอังกฤษ หรือ อเมริกา จะเป็นคำตอบให้กับผู้คน อะไรก็ได้ ทำไมจีนถึงยิ่งใหญ่ ทำไมรัสเซียเมื่อเผชิญหน้ากับยุโรป และ อเมริกาที่จับมือกันแอนตี้เขา แล้ว รัสเซียก็สามารถแอนตี้คืนได้ จะเห็นได้ว่า โลกสมัยใหม่ มันจึงไม่ใช่โลกประชาธิปไตยที่เหมือนกลุ่มบางกลุ่มคิด
ประชาธิปไตยของไทยก็ต้องเป็นแบบไทยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประหนึ่งว่า เราตัดรองเท้าให้เข้ากับเท้า ไม่ใช่ไปตัดเท้าให้เข้ากับรองเท้า ประชาธิปไตยมันต้องเป็นแบบนี้ แล้วประชาธิปไตยในโลกนี้ก็ไม่เหมือนกันไม่ว่า ในอเมริกาหรืออังกฤษ แล้วทำไมเราต้องเหมือนคนอื่น
@เกราะกำบัง ของ พล.อ.ประยุทธ์ คืออะไร
1.ความจงรักภักดี ความซื่อสัตย์ สุจริต ท่านโดดเด่นมาก ใครมีคอรัปชั่น ท่านไม่เอาไว้ 2.ท่านเป็นคนรับฟัง จำได้ไหมกรณีประกาศห้ามสื่อมวลชน พอมีคนทักท้วง ท่านก็เปลี่ยนกลับมา 3.การบริหารราชการแผ่นดินของพล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้เอาตัวเองเป็นฐาน แต่สิ่งที่ท่านพูด เขาใช้งานวิจัยเป็นฐาน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ผมถึงบอกที่พี่ประยุทธ์พูด ไม่ได้เออเอาเอง แต่ล้วนแต่มีนักวิชาการ นักการศึกษาที่ให้ข้อมูล ผมถึงเชื่อว่า ประเทศมันไปได้
@อะไรที่เป็นโจทย์ท้าทาย พล.อ.ประยุทธ์
เรื่องการกอบกู้ประเทศให้กลับมาสมานฉันท์ หันมาพูดคุยกัน และถ้าทำเรื่องเศรษฐกิจได้ให้คนอยู่ดีกินดี รักใคร่สามัคคีกันมันก็จบแล้ว เศรษฐกิจมันจะวิ่งของมันเอง เชิดหัว ประหนึ่งเหมือนเครื่องบินขึ้น
@ถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามผล เช่น มีปัญหาเศรษฐกิจโลก จะเกิดอะไรขึ้น
อันนี้ ถ้าเป็นสถานการณ์ของโลกที่ รัฐบาลควบคุมไม่ได้ ถ้าเป็น อย่างนั้นจริงผมว่า เอาแค่ประคอง รักษาตัวเองให้รอดก็พอแล้ว และคนไทยก็ไม่ได้เอาเป็นเอาตาย
@วางเป้าหมายการทำงานในฐานะ สนช. อย่างไร
ยังไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะเอากฎหมายกี่ฉบับ แต่ส่วนตัวเห็นว่า มีกฎหมายหลายฉบับที่ภาวะปกติออกไม่ได้ แต่ว่า ในภาวะพิเศษที่ไม่มีพรรคการเมือง ไม่มีขั้ว สามารถออกกฎหมายได้ เช่น พรบ. ควบคุมการชุมนุมในที่สาธารณะ กฎหมายฉบับนี้คนเป็นรัฐบาล อยากให้ออก แต่คนเป็นฝ่ายค้านไม่อยากให้ออก กฎหมายอย่างนี้มันมีการยกระดับการชุมนุม และต้องมีผู้รับผิดชอบ เหมือนในเกาหลี ญี่ปุ่น
@ถ้าการปฏิวัติครั้งนี้เสียของจะเกิดอะไรขึ้น
ผมเชื่อว่า ไม่เสียของแน่นอน อย่างน้อยก็มีบทบัญญัติรัฐธรรมนูญมาตรา 27 ว่าด้วยการปฏิรูป 11 ประเด็น ประกอบมาตรา 35 ล็อคไว้อยู่ ไม่มีเสียของแน่นอน แต่จะได้มาก ได้น้อยเป็นอีกเรื่อง เทียบกับปฏิวัติคราวก่อนเราไม่มีหลักประกันยึดโยงอะไร แต่คราวนี้มีประเด็น มีกระบวนการทำชัดเจน
หมายเหตุ : ภาพประกอบ นายตวง อันทะไชย จาก senate