สหภาพองค์การสุราฯค้าน“ทหาร”สร้างบ่อขยะ อ้างนโยบายคสช.

ร.ส.ก.องค์การสุราฯ ออกโรงค้าน “ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา-ผู้ว่าฯอยุธยา” สร้างบ่อฝังขยะ เหตุเป็นที่ดินองค์การสุราฯ ซื้อมาตั้งแต่ปี’30 เตรียมสร้างโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ ยันไม่ได้ร้าง 20 ปี แต่ดำเนินการอยู่ตลอด สะดุดเพราะเปลี่ยนรัฐบาล-น้ำท่วมใหญ่ปี’54

จากกรณีนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพล.อ.สมหมาย เกาฎีระ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา พร้อมคณะเตรียมจัดสร้างบ่อฝังกลบขยะ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องการให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดนำร่องด้านการสร้างโรงเก็บขยะอย่างจริงจัง ที่ตำบลมหาพราหมณ์ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ของราชพัสดุ อยู่ในการครอบครองขององค์การสุรา กรมสรรพสามิตนั้น

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การสุรา นำโดยนายโสพิศ พาเรือนศรี ประธานสหภาพแรงงานฯ องค์การสุราฯ จัดทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. พร้อมรวมรายชื่อพนักงานองค์การสุรา คัดค้านการใช้ที่ดินดังกล่าว สร้างเป็นที่ฝังกลบขยะ

หนังสือดังกล่าว ระบุว่า สภาพแรงงานร.ส.ก.องค์การสุราฯ และพนักงาน มีความกังวลอย่างยิ่งในการแถลงข่าวของเทศบาลพระนครศรีอยุธยา และผู้ว่าฯอยุธยา พร้อมคณะ ที่จะนำที่ดินขององค์การสุราฯ ไปเป็นที่สร้างบ่อกำจัดขยะ ฝังกลบขยะ เตาเผาขยะ และอื่น ๆ โดยมีการออกแบบวางผังจัดการเรื่องขยะ และเข้าไปดูในพื้นที่ โดยไม่ได้แจ้ง และไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของพื้นที่ดิน คือ องค์การสุราฯทราบ โดยพื้นที่ดินเนื้อที่จำนวน 475 ไร่ ขององค์การสุราฯ ได้จัดซื้อมาด้วยรายได้ขององค์การสุราฯ และกำหนดแผนการก่อสร้างโรงงานผลิตแอลกอฮอลล์แห่งใหม่ เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงการคลัง มิได้หยุดการใช้งานตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

“สหภาพแรงงานร.ส.ก.องค์การสุราฯ และพนักงานองค์การสุราฯ ขอความเป็นธรรม และขอคัดค้านการใช้พื้นที่ดินดังกล่าว เนื้อที่จำนวน 475 ไร่ ขององค์การสุราฯ สร้างที่กำจัดขยะ ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการใช้ที่ดินดังกล่าว” หนังสือดังกล่าว ระบุ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2557 นายโสพิศ พาเรือนศรี เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีดังกล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้ไม่ได้หยุดใช้งานมา 20 ปีอย่างที่ปรากฏเป็นข่าว แต่เรากำลังดำเนินการจัดสร้างโรงงานผลิตแอลกอฮอลล์มาโดยตลอด แต่เป็นเพราะการเปลี่ยนผ่านมาหลายรัฐบาล ความคืบหน้าก็เลยยังไม่แล้วเสร็จดี รวมไปถึงเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ทำให้โครงการสะดุดไปบ้าง แต่ก็ยังดำเนินการกันมาอยู่เรื่อย

“เราดำเนินการกันอยู่ตลอด แต่พอเปลี่ยนรัฐบาลทีก็เริ่มต้นกันใหม่ เราทำประชามติกันพร้อมหมดแล้ว มาหยุดแค่ตอนน้ำท่วมปี 2554 เท่านั้น” นายโสพิศ กล่าว

เมื่อถามว่า ผู้ว่าฯอยุธยา ได้ติดต่อมาก่อนหรือไม่ นายโสพิศ กล่าวว่า ก็ปรากฏเป็นข่าวจากสื่อมวลชน และทางผู้ว่าฯอยุธยา ก็มีการประชุมกันว่า จะใช้พื้นที่ขององค์การสุราฯ อย่างไรก็ดีฝ่ายบริหารขององค์การสุราฯ ก็ไปชี้แจงว่า มันไม่ใช่พื้นที่ของราชพัสดุ แต่เป็นพื้นที่ขององค์การสุราฯ ที่ใช้เงินซื้อมาตั้งแต่ปี 2530 กว่า ๆ แล้ว

เมื่อถามว่า ได้ชี้แจงให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทราบหรือไม่ นายโสพิศ กล่าวว่า วันนี้ (19/8/57) ผู้บริหารขององค์การสุราฯ ได้เข้าพบและร่วมประชุมกับ พล.อ.สมหมาย แต่ยังไม่ทราบว่าจะดำเนินการไปในแนวทางใด ทั้งนี้เท่าที่ทราบมาคือเขาจะเอาที่ดินตรงนี้ให้ได้ แต่ทางรัฐวิสาหกิจไม่ยอม

หมายเหตุ : ภาพประกอบ นายวิทยา ผิวผ่อง จาก bangkokbiznews